หญิงชราขุดดินถ่ายทุกข์กลางดึก รุ่งขึ้นพบเป็นศพดับปริศนา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (3 เม.ย.) เมื่อเวลา 07.55 น. สภ.เมืองเพชรบูรณ์ ได้รับแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตคาดจะถูกสัตว์มีพิษทำร้ายที่บ้านหลังหนึ่ง หมู่ที่ 2 ต.น้ำร้อน อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ จึงรุดไปในที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุพบศพผู้เสียชีวิตอยู่บริเวณสวนข้างบ้านที่เกิดเหตุ ทราบชื่อคือ นางชู อายุ 76 ปี สภาพศพนอนคว่ำหน้ามีบาดแผลแตกบริเวณหน้าผากและใบหน้ายุบ ต้นแขนซ้ายมีบาดแผลฉีกขาดมีคราบเลือดแห้งที่บริเวณบาดแผลทั้ง 2 แห่ง เริ่มมีมดแดงขึ้นมากัดกินศพของผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ข้างๆศพผู้เสียชีวิตยังพบเสียบตกอยู่ 1 อัน
เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยการต่อสู้แต่อย่างใด จากการชันสูตรศพของแพทย์ระบุผู้เสียชีวิตน่าจะเกิดหน้ามืดเป็นลมและล้มหน้าฟาดกับพื้นทำให้เสียชีวิต และบาดแผลที่พบก็ไม่น่าจะเกิดจากสัตว์มีพิษทำร้ายแต่อย่างใด คาดว่าผู้ตายน่าจะเสียชีวิตมาแล้วราว 9 ชั่วโมง
จากการสอบถาม นางสมาน อายุ 56 ปี บุตรสาวของผู้เสียชีวิต กล่าวว่านางชู ผู้เป็นแม่อยู่บ้านเพียงลำพังคนเดียว ส่วนตนเองมีครอบครัวก็แยกมาปลูกบ้านอยู่อีกหลังใกล้ๆ กันกับบ้านของแม่ แต่ก็คอยมาดูแลแม่ตลอด
นางสมาน บุตรสาว กล่าวต่ออีกว่า นางชูผู้เป็นแม่เวลาจะถ่ายอุจจาระจะไม่ชอบเข้าไปถ่ายในห้องน้ำเพราะถ่ายไม่ออก เวลาจะถ่ายอุจจาระนางชูจะออกมาที่สวนข้างบ้าน และจะนำเสียบมาขุดดินเพื่อฝังกลบอุจจาระด้วยทุกครั้ง และตนเองก็ไม่ทราบว่านางชูออกมาจากบ้านตอนไหน จนตนมาเก็บผักในสวนตอนเช้าจึงมาพบว่าแม่นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่
ด้าน นางบัวทอง อายุ 60 ปี ญาติผู้เสียชีวิตกล่าวว่า ตนได้ยินเสียงนางชูใช้เสียบขุดดินเวลาจะถ่ายอุจจาระเป็นประจำเพราะบ้านอยู่ติดกับสวนที่นางชูไปปลดทุกข์ ส่วนเมื่อคืนตนก็ได้ยินเสียงนางชูกำลังขุดดินเพื่อถ่ายทุกข์ตามปกติเมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงนางชูร้องขอความช่วยเหลือแต่อย่างใด
นางบัวทอง ยังกล่าวต่ออีกว่า เมื่อไม่นานนี้นางชูผู้ตายได้พบงูเห่าตัวใหญ่เลื้อยอยู่ในสวน ซึ่งนางชูก็เกือบโดนงูเห่ากัดไปครั้งหนึ่งแล้วแต่ก็รอดมาได้ ซึ่งสาเหตุที่นางชูเสียชีวิตเพราะถูกงูเห่ากัดหรือไม่