ตำรวจดีเดย์ 5 เม.ย.วันนี้ จับปรับไม่คาดเข็มขัด

ตำรวจดีเดย์ 5 เม.ย.วันนี้ จับปรับไม่คาดเข็มขัด

ตำรวจดีเดย์ 5 เม.ย.วันนี้ จับปรับไม่คาดเข็มขัด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตำรวจดีเดย์ 5 เม.ย. ตรวจเข้มผู้โดยสารไม่คาดเข็มขัด จับจริงปรับจริง ขั้นต่ำ ที่นั่งละ 100 บาท เข้มตรวจแอลกอฮอล์สงกรานต์

พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รอง ผบช.น. รับผิดชอบด้านงานจราจร เปิดเผย ว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล ทั้ง 88 สน. ทำการประชาสัมพันธ์การคาดเข็มขัดนิรภัย ซึ่งได้ทำมาโดยตลอด และกำหนดว่าตั้งแต่วันที่ 5 เม.ย. เป็นต้นไป จะมีการตรวจแบบเข้มข้น ถ้าพบว่ามีการกระทำความผิดต้องจับจริงปรับจริง ในกรณีไม่คาดเข็มขัดรถยนต์ส่วนบุคคลและแท็กซี่สาธารณะ ทางผู้โดยสารนั่งตอนท้ายหากไม่คาดเข็มขัด จะเริ่มปรับขั้นต่ำในอัตราที่นั่งละ 100 บาท

เจ้าของรถต้องจัดให้มีเข็มขัด คนขับต้องแจ้งให้ผู้โดยสารทราบ ผู้โดยสารก็ต้องมีหน้าที่คาด ถ้าอย่างใดอย่างหนึ่งผิดก็ต้องมีการเทียบปรับ ที่พบมากก็คือตลอดช่วงที่ประชาสัมพันธ์ รถแท็กซี่ไม่มีที่ให้เสียบเข็มขัดนิรภัยบริเวณเบาะหลัง เพราะคนขับยัดไว้ใต้เบาะ ซึ่งก็ได้แนะนำแล้วว่าให้เอาขึ้นมา เพื่อให้ผู้โดยสารสามารถคาดได้ จากการปฏิบัติลงพื้นที่ตรวจสอบ ได้ข้อมูลจากหลายๆโรงพักว่าผู้ใช้รถใช้ถนนให้การตอบรับดี มีการคาดเข็มขัดอย่างเห็นชัดเจน 

สำหรับการบังคับใช้ พ.ร.บ.การขนส่งทางบก พ.ศ.2522 ว่า การติดตั้งเข็มชัดตาม พ.ร.บ.รถยนต์ปี 2522 ได้แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม

กลุ่มที่ 1 คือกลุ่มรถเก๋ง รถแท็กซี่ รถลีมูซีน รถกระบะ 4 ประตู ถ้าจดทะเบียน 1 ม.ค. 2531-1 ธ.ค. 2553 ต้องติดเข็มขัดนิรภัยที่นั่งคนขับ และที่นั่งตอนหน้า ถ้าตั้งแต่ 1 ม.ค. 2554 จะต้องมีเข็มขัดทุกที่นั่ง ถ้าไม่มีก็จะมีความผิด

กลุ่มที่ 2 คือรถตู้ส่วนบุคคล จดทะเบียนเกิน 7 คน แต่ไม่เกิน 15 คน ตั้งแต่ 1 เม.ย. 2555 จะต้องมีเข็มขัดทุกที่นั่ง ถ้าไม่มีก็จะมีความผิด

กลุ่มที่ 3 คือรถปิคอัพ รถสองแถว ที่มีด้านหลังเป็นที่นั่งและที่บรรทุก กฎหมายบอกว่าให้บรรทุกสิ่งของและสัตว์ ห้ามไม่ให้มีคนนั่ง อันนี้ก็บังคับให้รัดเข็มขัดที่เบาะนั่งคู่หน้า

และกลุ่มที่ 4 คือรถสี่ล้อเล็ก หรือรถกะป๊อ ตั้งแต่ 1 เม.ย. 2555 ได้บังคับให้มีที่รัดเข็มขัด 2 คนหน้า ถ้าไม่มีก็จะมีความผิด

พล.ต.ต.จิรพัฒน์ เปิดเผยกรณีการบังคับใช้การจราจรทางบก ให้คาดเข็มขัดนิรภัยในรถโดยสาร ที่หลายคนตั้งคำถามว่าจะเป็นเครื่องมือของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการเรียกรับผลประโยชน์หรือไม่นั้น ยืนยันว่าไม่มีนโยบายที่จะให้เพิ่มจำนวนการจับกุม ไม่ได้หวังให้มีเงินค่าปรับมาก แต่หวังว่าการเดินทางของผู้ใช้รถใช้ถนน เกิดความปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งได้สั่งกำชับ ต้องมีความเข้มงวดมากในการตั้งด่าน ต้องไม่ให้มีการเรียกรับผลประโยชน์ในขณะตั้งด่าน ต้องสร้างภาพลักษณ์ใหม่ ต้องสร้างความเชื่อมั่นใหม่ ต้องสร้างความรู้สึกใหม่กับพี่น้องประชาชน 

นอกจากนี้ ยังออกคำสั่งในการตั้งด่านกวดขันจราจร หัวหน้าผู้ควบคุมด่านต้องเป็นระดับสารวัตรขึ้นไป ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ จะเพิ่มด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ในเวลากลางวัน ด่านที่มีในช่วงเช้ากับช่วงบ่าย ต้องมีเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ด้วย ส่วนการเสียชีวิตจากอุบติเหตุจราจรโดยรถจักรยานยนต์ที่ไม่สวมหมวกกันน็อค ปีนี้ต้องทำให้ลดน้อยลงมากที่สุด 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook