ชาวบ้านขอผ่อนปรนนั่งกระบะหลังบ้าง โอดเป็นวิถีชาวบ้านชนบท
(5 เม.ย.) เจ้าหน้าที่กลุ่มงานจราจร ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งจุดตรวจตามเส้นทางต่างๆ ใน อ.เมืองเชียงใหม่ เพื่อบังคับใช้กฎหมายการคาดเข็มขัดนิรภัย ตามคำสั่งมาตรา 44 ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ที่กำหนดมาตรการให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารยานพาหนะบนท้องถนนต้องรัดเข็มขัดนิรภัย ห้ามนั่งในแคป และ กระบะหลัง เพื่อลดอุบัติเหตุ
ในการตั้งด่านตรวจบนถนนเชียงใหม่ - ฝาง บริเวณหน้าสนามกอล์ฟลานนา พบประชาชนที่ใช้รถยนต์กระบะยังมีการบรรทุกคนนั่งด้านหลังอยู่หลายราย ส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านที่เดินทางมาจากอำเภอรอบนอกเข้ามาทำธุระในตัวเมือง ตามวิถีชีวิตของคนในชนบทที่มักจะใช้รถกระบะเดินทางเป็นครอบครัวใหญ่ มีลูกหลานญาติพี่น้องนั่งกระบะหลังไปด้วยกัน
นายอรทัย ชาวบ้านอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งไปเยี่ยมญาติที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่และกำลังจะกลับบ้าน มีญาติพี่น้องหลายคนนั่งกระบะหลังมาด้วย บอกว่าการนั่งหลังกระบะเป็นวิถีชีวิตของชาวบ้าน น่าจะผ่อนปรนกันบ้าง แต่เมื่อกฎหมายออกมาก็ต้องปฎิบัติตาม
หลังจากนี้ก็คงต้องใช้เงินเพื่อไปติดตั้งโครงเหล็กทำหลังคาเพิ่มและต้องไปเปลี่ยนประเภทการใช้รถกับสำนักงานขนส่ง
ร.ต.ท.ภูษณศักดิ์ ณัทสุคันธวงศ์ รองสารวัตรกลุ่มงานจราจรตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เผยว่า วันนี้ยังไม่มีการดำเนินคดีจับกุม เป็นการประชาสัมพันธ์ก่อน เพื่อให้ประชาชนเข้าใจ บางรายยังไม่ทราบ รถที่พบมีการบรรทุกคนั่งกระบะหลังในวันนี้จะทำประวัติว่ากล่าวตักเตือนไว้ หากพบอีกครั้งก็จะมีการดำเนินคดีต่อไป
ซึ่งจากการสอบถามพบว่าประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจ ส่วนคนที่คนขับรถยนต์ไม่คาดเข็มขัดนิรภัยมีการจับกุมดำเนินคดี เพราะเป็นกฏหมายที่มีการประกาศบังคับใช้มานานแล้ว