ป๋อ ณัฐวุฒิ ขอแจง!! คนมองจัดงานวันเกิดอลังการ สปอยล์ลูกเกินควร

ตั้งใจจัดงานวันเกิดแบบรวบยอดให้ลูกชายทั้งสอง "น้องภู" และ "น้องเภา" ในวันคล้ายวันเกิดที่ไล่เลี่ยกันอย่างอลังการสุดๆ ด้วยธีมการ์ตูนมินเนี่ยน พร้อมเชิญครอบครัวของเพื่อนลูกมาร่วมสนุกเกือบสี่สิบครอบครัว แต่งานนี้คุณพ่อ "ป๋อ ณัฐวุฒิ" และคุณแม่ "เอ๋ พรทิพย์" กับถูกมองว่าเป็นการสปอยล์ลูกเกินไปหรือเปล่ากับวัยที่ยังดูเด็กอยู่แต่ทุ่มจัดงานใหญ่ขนาดนี้

ซึ่งงานนี้พอมีโอกาสได้เจอ ป๋อ ณัฐวุฒิ ในงานเพชรสมุทรคีรี ฟัน เฟส ครั้งที่ 1 เจ้าตัวจึงได้ออกมาชี้แจงให้ฟังว่า ไม่ได้หมดเงินกับวันเกิดลูกไปเยอะ เพราะมีการดิวกับสถานที่เป็นพิเศษ ส่วนตัวจะไม่ซื้อของหรือตามใจลูกบ่อย พร้อมยอมรับภรรยาหุ่นดีขึ้น ทำให้อยากมีลูกคนที่สามต่อทันที เนื่องจากตอนนี้ไม่มีภาระอื่น เคลียร์หนี้สินเรื่องบ้านหมดแล้ว

วันเกิดลูกชายที่ผ่านมา จัดงานธีมน่ารัก ดูอลังการเหมือนกัน?
“ตอนผมอายุเท่านี้ผมยังไม่มีงานวันเกิดขนาดนี้เลยนะ ก็ดีใจกับภูด้วยครับเพราะมีเพื่อนที่ห้องไปกันเยอะเลย และเอ๋เขาเป็นนักจัดการเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว ประหนึ่งว่าเป็นคนจัดงานอีเว้นท์เอง ทั้งงานวันเกิด งานฉลองแต่งงาน เยอะแยะไปหมด แต่ก็สนุกดีครับ เราได้เห็นว่าลูกมีความสุข”

ใครเป็นคนคิดธีมนี้?
“ภูเขาคลั่งมินเนี่ยนมากครับ อาจจะเป็นเพราะมินเนี่ยนพูดไม่รู้เรื่อง ภูเลยรู้สึกปลื้ม ตอนแรกมีการบังคับให้ผมแต่งชุดมินเนี่ยนนานมาก ซึ่งผมไม่ได้แต่งเดี๋ยวมันจะเสียลุคคุณเล็ก ตะวันยอแสงไปนิดนึง”

ไปจัดที่ไหน?
“ฟิวเจอร์พาร์คครับ จะมีโซนที่เป็นของเล่น พ่อแม่มีความสุขมากครับ วันนั้นรวมคนไปเป็นร้อยเลย 30-40 ครอบครัวได้ ภูมีสังคมของเพื่อนเขานะซึ่งผมก็ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกัน เพื่อนในโรงเรียนเขาจะมีกลุ่มเพื่อนที่เรียนด้วยกัน กลุ่มเพื่อนสมัยที่เรียนเตรียมอนุบาล”

งานนี้จัดขึ้นพร้อมกันทั้งภูและเภาเลยใช่ไหม?
“มันเป็นโครงการรัดเข็มขัดของครอบครัวเราครับ จริงๆ จะขอรวบงานวันเกิดเอ๋อยู่ในนั้นด้วยเลยเพราะเพื่อนก็กลุ่มเดียวกันหมด แต่เอ๋ไม่ยอม เลยได้แค่ภูกับเภาที่เกิดใกล้ๆ กันเลย จริงๆ เอ๋ก็เกิดเดือนเมษายนนะ แต่เขาบอกเขาต้องจัดของเขาพิเศษต่างหาก”

มีหลายคนมองว่าการจัดงานวันเกิดใหญ่ๆ แบบนี้เป็นเหมือนการสปอยล์ลูกเกินไปหรือเปล่า?
“ผมไม่ได้จัดเลยนะบอกตรงๆ แต่ผมถูกบังคับครับ ถ้าคุณจะสัมภาษณ์เรื่องนี้ คุณไปสัมภาษณ์ภรรยาผมดีกว่า (หัวเราะ)คือแบบนี้ครับ เราไม่ได้เสียเงินไปเยอะหรอก เพราะจริงๆ แล้วสถานที่ตรงนั้นเขาอยากให้เราไปจัดอยู่แล้ว เหมือนเป็นการโปรโมทช่วยแทบจะไม่ได้เสียงเงินเสียทองอะไรเท่าไหร่ เสียแค่ค่าอาหารเท่านั้นเอง ภาพมันอาจจะดูยิ่งใหญ่แต่เราไม่ได้เสียเงินเยอะไงครับ และเรามองว่ามันเป็นโอกาสที่ดีของลูก ทำไมเราจะไม่จัดให้ลูกเราเนอะ ต้องบอกแบบนี้นะครับว่าเด็กสมัยนี้ก็เลี้ยงไม่เหมือนเด็กสมัยก่อน แต่พ่อแม่ก็เป็นทางดีดทางงัดกับเขาอยู่เหมือนกันนะครับ บางทีเอ๋คิดแบบนี้แต่พี่คิดอีกแบบนึงก็มี เอาจริงๆ เราเลี้ยงลูกแบบเขาได้รับของน้อยที่สุดนะ ไม่ค่อยจะได้อะไรเหมือนลูกชาวบ้านเขาหรอก ให้เขาอยู่กับหญ้า กับหนอน ให้ดูแลตัวเอง”

แสดงว่าเราไม่ได้สปอยล์ลูกขนาดนั้นใช่ไหม?
“คือเราจะดูรอบๆ มากกว่าครับ เราจะพยายามไม่ให้เขาได้รับอะไรมาก จะให้เขาค่อยๆ เรียนรู้กันไป บางทีเด็กเดี๋ยวนี้จะไม่กล้าตอบคำถามอะไรสักอย่าง เพราะกลัวตอบผิด แต่พี่จะบอกลูกไม่เป็นไรนะตอบผิดได้ อยากให้เขาเรียนรู้ว่าล้มแล้วเจ็บเป็นยังไง ตอบคำถามผิดจะได้รู้ว่าความผิดพลาดเป็นยังไง เพราะเด็กยุคนี้จะกลัวความผิดพลาด จะต้องการผลเลิศ ความถูกต้อง การเป็นที่หนึ่ง บางทีในยุคที่การแข่งขันสูงเกินไป เด็กก็พยายามที่จะแข่งขันสูงกันมาก จนทำให้เรารู้สึกว่าบางทีก็ล้มได้นะ ไม่ต้องวิเศษมาก เป็นคนธรรมดาก็ได้ เราก็พยายามให้เขาเรียนรู้เรื่องนี้มากกว่า”

ตามใจแค่ไหน กับสิ่งของบางอย่างที่น้องๆ อยากได้?
“เดี๋ยวนี้ต้องมีการสะสมดาว 20 ดวงครับ เมื่อก่อนยอมรับว่าพี่ตามใจมาก และพี่ก็ทำให้ลูกเริ่มซ่าขึ้นเรื่อยๆ เริ่มจะไม่ค่อยฟัง แต่เดี๋ยวนี้จะต้องมีแบบอาบน้ำไหม ถ้าอาบน้ำให้หนึ่งดาว สะสมดาวไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้ครบ 20 ถ้าได้ครบเราก็จะให้ของที่เขาอยากได้หนึ่งชิ้นที่ไม่ได้แพงมาก แต่จะไม่อยู่ๆ แล้วพาไปซื้อของเล่นเลย ต้องให้เขาพยายามทำประโยชน์ เมื่อไหร่ที่เขาได้ครบเขาก็จะรู้สึกตื่นเต้นและสนุก อยากจะเล่นอีก เราก็จะสอนเขาไปว่ากว่าจะได้ของเล่นคนเราต้องพยายามนะ และมันทำให้เราเริ่มรู้วิธีการที่จะต่อลองกับภูมากขึ้นเรื่อยๆ”

เห็นในไอจีแอบหยอด ชมว่าภรรยาสวยขึ้นหลังจากฟิตหุ่นมัดใจเรา?
“ธรรมดานะครับ เพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่เอ๋กำลังมั่นใจ เอ๋บอกว่ายิ่งมีสามีหน้าตาดีด้วย (หัวเราะ) เปล่าๆ ผมว่าเป็นช่วงที่เอ๋หลังจากคลอดลูกแล้วหุ่นเริ่มกลับมาดีแล้วไง เริ่มฟิต เริ่มมั่นใจ และยิ่งเป็นช่วงที่ละครตะวันยอแสงออนแอร์ด้วย เขาเลยต้องยิ่งทำตัวให้สวยๆ ไม่ได้เดี๋ยวจะแพ้น้องๆ”

พอเห็นผลที่ภรรยาทำได้เลิศขนาดนี้ รู้สึกอย่างไรบ้าง?
“ก็ดีครับ คิดว่ามีลูกคนที่สามแน่นอนครับ (ยิ้ม) คนเชียร์มาเยอะครับ ก่อนหน้าผมตั้งใจว่าจะมีแค่สองคน แต่ตอนนี้ภูเขาที่ผมสร้างเริ่มกร่อนแล้ว ไม่แน่มันอาจจะมีคนที่สามก็ได้”

อะไรที่ทำให้เราตัดสินใจจะมีคนที่สาม?
“ตอนนี้ทุกอย่างมันเริ่มนิ่งแล้วครับ ตอนนี้บ้านก็ผ่อนหมดแล้ว ไม่มีอะไรแล้ว เราก็ใช้ชีวิตแบบพอเพียงของเรา ไม่มีหนี้สินอะไร ถ้าจะมีคนที่สามก็มีได้แล้วตอนนี้ ตอนแรกที่ไม่อยากมีเพราะกลัวจะลำบาก เก็บเงินไม่พอสำหรับค่าเรียน แต่ตอนนี้เราคิดว่าน่าจะโอเคแล้วเนอะ”

เอ๋ว่ายังไงบ้าง?
“ยังไม่อนุมัติเลยครับ (หัวเราะ) ตอนนี้ลูกคนเล็กเพิ่งขวบเดียวเอง แต่ก็ไม่แน่นะเพราะอยากจะมีเหมือนกัน”

ที่เอ๋ซุ่มฟิตหุ่นเพราะจะมีถ่ายเซ็กซี่ในซัมเมอร์นี้หรือเปล่า?
“เออ ผมว่าเขาต้องฟิตไปถ่ายเซ็กซี่แน่เลย ถ้าถามว่าเราจะมีไหม อย่าเลย ปล่อยให้คนอื่นถ่ายดีกว่า พี่มาแนวสายน่ารักและตลก แต่ก็มีติดต่อแบบเซทครอบครัวมาเรื่อยๆ ที่ยังไม่ได้รับเพราะรอให้เภาโตกว่านี้นิดนึง จะได้เป็นภาพครอบครัวถ่ายออกมาสวยๆ ไง”

ถ้าเอ๋ถ่ายเซ็กซี่จริง เราโอเคไหม?
“ผมยอมเลยครับ ผมอยากดูเหมือนกัน (ยิ้ม) เพราะผมถ้ามีกระบวนการรีทัชเข้ามาช่วย เมียผมจะหุ่นดีกว่านี้อีก ก็แล้วแต่เอ๋เลย จังหวะช่วงนี้เต็มที่เลยครับ มันจะได้สะใจไง”

ช่วงนี้เอ๋เป็นติ่งเกาหลี กรี๊ดดาราเด็กๆ เราโอเคไหม?
“ตอนนี้เอ๋อยู่เกาหลีด้วยนะครับ จริงๆ ความสุขของภรรยามันก็คือความสุขของพี่นะ การที่เขาจะไปกรี๊ดหนุ่มๆ บ้างมันก็เป็นน้ำทิพย์ฉโลมใจของเขา ต้องบอกแบบนี้นะ สิ่งที่พี่เห็นตอนกลางคืนประมาณตีสองตีสาม พี่เห็นสภาพเมียพี่เลี้ยงลูกก็สงสารนะ พี่คิดว่าจริงๆ แล้วเป็นผู้หญิงนี่ยากนะ ลำบากนะ น่าสงสารมาก มันเหนื่อยมากในการเลี้ยงลูก ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย ช่วงตีสองตีสามเป็นช่วงที่เราอยากจะนอน แต่ต้องมีคนลุกขึ้นมากล่อมลูก มาชงนม เช็ดก้นให้ลูก เพราะอย่างนั้นเวลาคนถามว่าทำไมพี่ต้องทำอะไรให้เขา เช่นจัดงานให้ ให้เขาไปหลงผู้ชายเกาหลีบ้าง ก็ปล่อยเขาไปเถอะครับ มันเป็นความสุขของผู้หญิง ไม่หึงๆ เรื่องพวกนี้อย่าไปคิดมากครับ มันเอาอะไรของเมียผมไปไม่ได้หรอกครับ เมียผมมีหน้าตาเป็นอาวุธอยู่แล้ว”