เผยคำสารภาพพ่อปาดคอลูกสาว อ้างโมโหเล่นแต่เฟซบุ๊ก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (9 เม.ย.) เมื่อเวลา 17.30 น.  พ.ต.อ.นพดล ธุวังควัฒน์ ผกก.สภ.ห้วยยาง ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ดร.อรุณณพันธ์ วานิชชนันท์ รอง ผกก.สส.สภ.ห้วยยาง นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ออกสกัดจับพ่อโหดหลังก่อเหตุปาดคอลูกสาวตัวเอง เหตุเกิดเมื่อเวลา 13.00 น วันนี้ ที่ห้องเช่าไม่มีชื่อเลขที่ 114 / 5 หมู่ 1 ต.ต้นมะม่วง อ.เมือง จ.เพชรบุรี ก่อนขับขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างหลบหนีลงภาคใต้

ด้าน พ.ต.ท.ดร.อรุณณพันธ์ เปิดเผยว่า หลังได้รับคำสั่ง ได้ตั้งด่านสกัดกระทั่งพบชายต้องสงสัยขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ซูซูกิ รุ่นสแมช พ่วงข้าง หมายเลข ขลย 30 ตรัง และมีเด็กหญิง วัย 5 ขวบ นั่งมาด้วย จึงเข้าควบคุมตัว เพื่อมาสอบสวน

ทราบชื่อต่อมาคือ นายสุรินทร์ อายุ 41 ปี ต่อมาให้การรับสารภาพว่า เป็นคนลงมือทำร้ายลูกสาวจริง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานท้องที่ สภ.เมือง เพชรบุรี เพื่อนำตัวผู้ต้องหากลับไปดำเนินคดี

 นายสุรินทร์ เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ตนยอมรับว่าลงมือทำร้ายลูกสาวจริง แต่ไม่ได้ตั้งใจทำร้าย ตนโมโหที่ลูกสาววัย 13 ปี เล่นแต่เฟซบุ๊ก ห้ามหลายครั้ง ตนไม่ชอบ แต่ก็ไม่ฟัง วันนี้ทะเลาะกันอีก ตนกำลังถือมีดอยู่แค่เหวี่ยงมือไปแต่ไม่คิดว่าจะถูกคอลูกสาว

หลังเกิดเหตุได้โทรศัพท์บอกแม่เด็กซึ่งทำงานขายของอยู่หน้าห้างให้มาดูลูก ตนไม่ได้พาไปหาหมอเอง อยากให้แม่เด็กพาไปเอง แต่ตนได้พาลูกสาววัย 5 ขวบ นั่งรถจักรยานยนต์พ่วงข้างมาด้วย ตั้งใจว่าจะไปเอายาที่ รพ.สราญรมย์ จ.สุราษฎร์ธานี เพราะตนป่วยมีอาการทางจิต มาตั้งแต่ปี 42 แต่ช่วงนี้ไม่ได้กินยา

เมื่อสอบถามว่าถ้าลูกสาวเสียชีวิตจะเสียใจหรือไม่ ผู้ต้องหาได้บอกว่าเสียใจ แต่ตอบไม่ได้ว่าเหตุใดถึงไม่พาลูกไปหาหมอหลังก่อเหตุตั้งแต่แรก

อย่างไรก็ตามได้ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามอาการล่าสุดของลูกสาววัย 13ปี ขณะนี้ออกมาพักในห้องปลอดเชื้อเพื่อรอดูอาการแล้ว โชคดีที่บาดแผลไม่ได้ถูกเส้นเลือดใหญ่แต่ถูกกล้ามเนื้อบริเวณลำคอ แต่ต้องรอดูอาการอย่างใกล้ชิด และต้องฟื้นฟูสภาพจิตใจของเด็กด้วย โดยห้ามเข้าเยี่ยมโดยเด็ดขาด

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : พ่อปาดคอลูกสาววัย 13 ปี เกือบขาด อุ้มลูก 3 ขวบ เผ่นหนี