ประชากรญี่ปุ่นลดน้อยลงเข้าขั้นวิกฤต เพราะคนหนุ่มสาวไม่แต่งงาน

ญี่ปุ่นกำลังประสบปัญหาอัตราการเกิดน้อยลง โดยในปี 2016 ที่ผ่านมานั้น ถือว่าอัตราการเกิดลดต่ำที่สุดเป็นครั้งแรกหลังจากเมื่อปี 1899 ซึ่งมีทารกเกิดใหม่ในประเทศไม่ถึง 1 ล้านคน

ทั้งนี้ สถาบันวิจัยเกี่ยวกับประชากรของญี่ปุ่น หรือ National Institute of Population and Social Security Research ได้คาดการณ์ว่า ประชากรญี่ปุ่นซึ่งมีอยู่ 127 ล้านคนในปัจจุบัน จะลดลงเกือบ 40 ล้านคนในปี 2065 นักประชากรศาสตร์บอกว่า คนรุ่นใหม่ต้องให้ความสนใจกับปัญหานี้ และจะต้องเริ่มมีครอบครัวกันแล้ว

Mary Brinton นักสังคมวิทยาจากฮาร์วาร์ด ผู้ศึกษาเกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นบอกว่า สังคมญี่ปุ่นเป็นสังคมของการทำงาน คนญี่ปุ่นทำงานหนัก เพราะมีค่าครองชีพสูง หลังสงครามโลกครั้งที่สองผู้ชายทำงาน ส่วนผู้หญิงเลี้ยงดูลูก แต่เดี๋ยวนี้ ผู้หญิงก็ทำงาน และคนรุ่นใหม่ก็ไม่ได้มีครอบครัวกันง่าย ๆ

นอกจากญี่ปุ่นแล้ว ยังมีประเทศอื่นที่ประสบปัญหาเดียวกัน คือสหรัฐอเมริกา เดนมาร์ค จีน และสิงคโปร์ อัตราการเกิดลดลงมากคืออยู่ที่  1.87 ในสหรัฐอเมริกา 1.73 ในเดนมาร์ค  1.6 ในจีน และ 0.81 ในสิงคโปร์

ในปี 2016 นักวิจัยในญี่ปุ่นพบว่า เกือบร้อยละ 70 ของผู้ชายญี่ปุ่น และร้อยละ 60 ของผู้หญิงญี่ปุ่นไม่แต่งงาน แม้คนส่วนใหญ่จะบอกว่าอยากแต่งงานมีครอบครัวก็ตาม หากสถานการณ์เป็นเช่นนี้ต่อไป ในปี 2053 ประชากรญี่ปุ่นจะมีจำนวนน้อยกว่า 100 ล้านคน ทางรัฐบาลจึงต้องการรักษาระดับจำนวนประชากร ให้อยู่ที่อย่างน้อย 100 ล้านคนให้ได้ในปี 2060

อายุของประชากรก็สำคัญเช่นกัน หากการเกิดยังน้อยเช่นนี้ ในปี 2060 ในประเทศญี่ปุ่นจะมีประชากรเพียง 88 ล้านคน และประมาณร้อยละ 40 จะเป็นผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปี

นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นพยายามหาทางช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของพลเมือง ให้มีความสมดุลย์ของชีวิตและการทำงาน โดยกระตุ้นให้บริษัทลดเวลาการทำงานของพนักงานให้น้อยลง แต่ผู้เชี่ยวชาญเห็นว่าอาจจะไม่เป็นผลเพราะวัฒนธรรมของคนญี่ปุ่นเป็นวัฒนธรรมของการทำงานไปแล้ว