แม่ร่ำไห้รับศพลูก อยู่ๆ เป็นลมตายในเรือนจำ ญาติยังติดใจ

แม่ร่ำไห้รับศพลูก อยู่ๆ เป็นลมตายในเรือนจำ ญาติยังติดใจ

แม่ร่ำไห้รับศพลูก อยู่ๆ เป็นลมตายในเรือนจำ ญาติยังติดใจ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

​แม่ร้องไห้รับลูกชายคนโตเสียชีวิตในเรือนจำตะกั่วป่า จนท.แจ้งเป็นลมเสียชีวิต ญาติติดใจสาเหตุการตายจึงขอส่งศพไปชันสูตรต่อ ไม่เชื่อจะป่วยตาย

(17 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานที่โรงพยาบาลตะกั่วป่า อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา นางอุไรวรรณ อายุ 53 ปี พร้อม สามีและญาติ เดินทางมารับศพ นายพชร ลูกชาย หลังจาก ร.ต.อ.จำนงค์ พระภายไชย รอง.สว.สอบสวน สภ.ตะกั่วป่า ร่วมกับฝ่ายปกครอง อัยการ และแพทย์เวรโรงพยาบาลตะกั่วป่า ชันสูตรพลิกศพเบื้องต้น

โดยทางเจ้าหน้าที่เรือนจำส่ง รพ.ตะกั่วป่า จากอาการเป็นลม แจ้งให้ทาง นางอุไรวรรณ ได้ดูศพ ซึ่งยังติดใจสาเหตุการเสียชีวิตของลูกชาย ขณะรับโทษอยู่ในเรือนจำตะกั่วป่า อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ในคดีปล้นทรัพย์ มีกำหนดโทษ 11 ปี ไม่ระบุว่ารับโทษมานานเท่าไหร่ พร้อมขอส่งศพไปชันสูตรต่อที่แผนกนิติเวช โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อหาข้อเท็จจริงในสาเหตุการเสียชีวิตครั้งนี้

นางอุไรวรรณ เล่าว่า ก่อนหน้านี้ลูกชายได้ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำสระบุรี และย้ายส่งต่อเรือนจำอำเภอทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ก่อนจะย้ายมาคุมขังอยู่อีกทีที่เรือนจำอำเภอตะกั่วป่า จ.พังงา ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งพบว่า เมื่อช่วงต้นเดือนได้ยินข่าวว่ามีเหตุเสียการชีวิตภายในเรือนจำตะกั่วป่า จึงรู้สึกเป็นห่วงลูกชายมาก

จากนั้นได้ติดต่อญาติที่อยู่ในอำเภอตะกั่วป่าให้มาเยี่ยม ตั้งแต่วันที่ 12 เมษายนที่ผ่านมา โดยพบว่า ลูกชายยังสุขภาพแข็งแรงดี มีเพียงอาการปวดฟัน ไม่สามารถรับประทานอาหารได้ ก่อนจะนัดหมายกับญาติเพื่อเข้าเยี่ยมหลังช่วงหยุดยาวสงกรานต์

กระทั่งได้รับโทรศัพท์เมื่อเวลาประมาณ 14.30 น. เมื่อวานนี้ (16 เม.ย.) ระบุว่าว่าลูกชายได้เป็นลมเสียชีวิต จึงได้รีบเดินทางมายังโรงพยาบาลตะกั่วป่า จังหวัดพังงา เพื่อดูสภาพศพลูกชาย ซึ่งก็พบว่ามีแผลจุดสีดำและเป็นก้อนที่แก้ม มีรอยฟกช้ำที่คอ แผ่นหลัง ขา รวมทั้งมีแผลที่ปาก จึงทำให้รู้หวั่นใจว่าไม่น่าจะเสียชีวิตจากการเป็นลม

ตนจึงต้องการส่งร่างไปชันสูตรต่อที่ แผนกนิติเวช โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิต ก่อนจะนำร่างไปบำเพ็ญกุศลโดยไม่มีกำหนดที่บ้านเกิด และจะทำการแจ้งความหลังจากทราบผลการชันสูตร

ทางด้านเจ้าหน้าที่เรือนจำอำเภอตะกั่วป่า เผยว่า นักโทษคนดังกล่าวได้มีประวัติการรักษาตัวมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 8 เมษายนที่ผ่านมา ด้วยอาการปวดฟัน ฟันบวม มีไข้สูง 39.7 องศาเซลเซียส ต่อมาเมื่อวันที่ 13 เมษายน แพทย์และพยาบาลประจำเรือนจำอำเภอตะกั่วป่า จึงได้ตรวจอาการอีกครั้งพบว่า ยังคงมีอาการไข้ เจ็บคอ อ้าปากได้ไม่เต็มที่ และวันที่ 15 เมษายน มีอาการจุกแน่นใต้ลิ้นปี่ ก่อนที่วันที่ 16 เมษายน อาการได้ทรุดหนักลง จึงรีบนำส่งโรงพยาบาลตะกั่วป่า เพื่อทำการรักษาและเสียชีวิตในเวลาต่อมา

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook