ตร.พบ “โชกุน” ใช้เงินประชาชนซื้อ คอนโด-รถยนต์ รอโดนข้อหา “ฟอกเงิน”

นอกจาก "โชกุน" แล้ว วันนี้ตำรวจยังออกหมายจับ ผู้ต้องหาร่วมขบวนการของโชกุน อีกอย่างน้อย 8 คน ส่วนใหญ่เป็นคนในครอบครัวและคนใกล้ชิด ส่วนทรัพย์สินที่อายัดไว้ นอกจากบัญชีเงินสดจำนวน 3 ล้านบาท ยังมีคอนโดมิเนียม และรถยนต์อีกอย่างน้อย 6 คัน ที่พบข้อมูลว่า โชกุนเป็นคนออกเงินซื้อมาไม่ถึง 4 เดือน

ผู้ต้องหากลุ่มนี้ คือ กลุ่มที่ถูกควบคุมตัวมาจากจังหวัดระนองพร้อมกับโชกุน แต่ถูกส่งตัวไปที่มทบ.11 เพราะตอนแรกถูกควบคุมตัวตามคำสั่ง คสช. แต่ในวันพรุ่งนี้ ทั้งหมดจะถูกส่งตัวให้กับตำรวจกองบังคับการปราบปราม เพื่อนำตัวไปฝากขังผัดแรกตามขั้นตอน

สำหรับความเชื่อมโยง ระหว่าง โชกุน กับ 8 คนนี้ แม้ตำรวจกองบังคับการปราบปรามจะยังไม่เปิดเผยรายละเอียด แต่หากพิจารณาจากคลิปวิดีโอที่แม่ของโชกุนถ่ายไว้ ระหว่างเดินทางไปเที่ยวที่จังหวัดเชียงราย ด้วยเครื่องบินส่วนตัว ก็อาจเป็นหลักฐานชิ้นหนึ่งที่ตำรวจให้เป็นเบาะแส

ตามข้อมูลในคลิปชิ้นนี้ มีผู้ต้องหาอย่างน้อย 4 คน ร่วมเดินทางไปด้วย ประกอบด้วย นางมณฑญาณ์ นิรันดร ตัวของแม่โชกุนเอง น.ส.ทัศย์ดาว สมัครกสิกรรณ์ เลขาส่วนตัว แฟนของโชกุน และยังเป็นเจ้าของบ้านที่จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งถูกใช้เป็นที่อยู่จดทะเบียนบริษัท นางพารินธรญ์ หงส์หิรัญ ดัคกอร์ ในคลิปแม่ของโชกุนอ้างว่าคนนี้เป็นผู้ร่วมทุนรายใหญ่ และ น.ส.สุดารัตน์ อเนกนวล เป็นหนึ่งในทีมงานของโชกุน

ขณะที่อีก 4 คนที่ถูกออกหมายจับ ประกอบด้วย นายก้องศรัณย์ แสงประภา คนนี้ถูกออกหมายจับในคดีฉ้อโกงในคดีหลอกเอาเงินมัดจำผู้ปกครองเด็กที่อ้างว่าจะส่งไปถ่ายแบบที่ประเทศญี่ปุ่น แต่ไม่มีการถ่ายแบบเกิดขึ้นจริงเมื่อปี2559 ร่วมกับโชกุน คนต่อไปคือ นางประนอม พลานุสนธิ์ มีฐานะเป็นป้าของโชกุน นางณิชมน แสงประภา และ นายโกวิท ช่วยสัตว์ ทีมงานของโชกุน

ส่วนทรัพย์สินของโชกุนที่ถูกอายัดไว้ในขณะนี้ นอกจากเงินสดในบัญชีธนาคาร 3 ล้านบาทแล้ว ยังมี คอนโดมิเนียมย่านรามอินทรา ที่ซื้อมาไม่นาน พร้อมกับรถยนต์มือ 2 อีก 6 คัน ข้อมูลของตำรวจระบุว่า รถทั้ง 6 คันยังไม่ได้ถูกโอนเป็นชื่อของโชกุน แต่จากการตรวจสอบเส้นทางการใช้จ่ายเงินพบว่า โชกุนนำเงินไปซื้อ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่า ทรัพย์สินได้มาก่อนการกระทำความผิดหรือไม่

สำหรับการอายัดทรัพย์สินของโชกุน ตำรวจพบว่ามีทรัพย์สินบางอย่างถูกโอนย้ายไป นั่นทำให้ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ฝากเตือนถึงผู้ที่รับโอนทรัพย์สินทั้งหมด ว่าอาจเข้าข่ายกระทำความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน

การขยายผลผู้ร่วมขบวนการโชกุน โดยเฉพาะ กลุ่มแม่ข่าย ตำรวจอยู่ระหว่างหาความเชื่อมโยงว่าเกี่ยวข้องกับการร่วมกันฉ้อโกงประชาชน หรือ เป็นเพียงผู้เสียหาย ซึ่งหากพบว่าเป็นผู้ร่วมขบวนการก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เช่นเดียวกับการตรวจสอบข้อมูล ว่า การกระทำของโชกุนมีผู้อยู่เบื้องหลังโชกุนด้วยหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ โชกุนให้การว่า มีนายทุนรายใหญ่ชาวฮ่องกงร่วมดำเนินธุรกิจ แต่ พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผู้บังคับการกองปราบปราม ระบุว่า ยังไม่พบข้อมูลเรื่องนี้นอกจากคำพูดของโชกุน