ร่างทรงเผยนิมิต หลวงพ่อสรีระหาย ถูกฝังอยู่ใต้ดินแต่ไม่รู้จุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (21 เม.ย.) ที่วัดศิริมงคล อำเภอพังโคน จังหวัดสกลนคร กลุ่มชาวบ้านร่วมกับญาติ คณะลูกศิษย์ที่เคารพศรัทธาพระครูโสภณธรรมาภิวัฒน์ และกลุ่มญาติธรรมจากบ้านคำชะโนด จังหวัดอุดรธานี รวมกว่า 300 คน ได้เชิญหมอทรงชื่อดังในเขตอำเภอเมืองสกลนคร เข้ามาทำพิธีตามความเชื่อคนท้องถิ่น ในการทรงเจ้าเพื่อทำสมาธิเพื่อสัมผัสกับดวงวิญญาณของพระครู เพื่อหาว่าศพพระครูหายไปไหน และจะมีโอกาสได้ศพพระครูกลับมาบำเพ็ญกุศล และฌาปนกิจได้หรือไม่

โดย นายแพงศรี เรียมแสน ผู้ใหญ่บ้านผักคะหญ้า และ น.ส.ปราณี เรียมแสน หลานสาว ซึ่งเป็นหมอทรง ได้สวดทำพิธีอันเชิญเทพเข้าประทับ ภายใต้สายตาชาวบ้านซึ่งนั่งรอฟังคำพยากรณ์อยู่เต็มศาลาวัด หมอทรงทั้งสองพูดเป็นภาษาเทพคุยกันลักษณะคล้ายภาษาเขมร จากนั้นได้ลุกขึ้นและนำพาชาวบ้านเดินตรงดิ่งไปยังท้ายวัดซึ่งเป็นสระน้ำ และมาหยุดอยู่ตรงจุดที่กำแพงวัดพังถล่มเป็นช่อง ซึ่งมีความยาวประมาณ 2 เมตร

พร้อมพูดกับกลุ่มชาวบ้านว่าในนิมิตนั้นเห็นมีชายฉกรรจ์ 2 คน  ได้ช่วยกันขนศพของพระครู ในยามวิกาล โดยรำเรียงศพมาตามเส้นทางเรียบกำแพงวัดและขนออกจากวัดตรงจุดนี้ พร้อมยืนยันว่าศพพระครูไม่ได้อยู่ภายในวัดแน่นอน และยังไม่ได้เผาศพแต่ยังใด ในนิมิตเห็นว่าศพของพระครูฝั่งอยู่ใต้ดินแต่ไม่รู้ว่าอยู่จุดไหน    

จากการสอบถามชาวบ้านในพื้นที่พบว่ากำแพงจุดนี้ได้พังมานานหลายปีแล้ว จากเหตุพายุพัดต้นไม้โค่นทับกำแพงจนพังเสียหาย แต่ก็ไม่ได้ทำการซ่อมแซมจนถึงปัจจุบัน 

ด้าน นางสมพงษ์ อายุ 65 ปี ชาวบ้าน กล่าวว่า ในช่วงที่ท่านพระครูฯยังมีชีวิตจะเป็นผู้ที่บรรดาศิษยานุศิษย์ให้ความเคารพนับถือ ท่านเป็นผู้ที่นำพาผู้มีจิตรศรัทธา สร้างวัดสร้างศาลาให้วัดแห่งนี้เจริญรุ่งเรือง และวัดแห่งนี้จะมีโบสถ์ที่ผู้เลื่อมใสในบวรพุทธศาสนาเข้ามาบวชหลายร้อยคน โดยท่านพระครูฯจะเป็นองค์อุปัชฌาย์ ซึ่งการลักศพตนยังมองไม่ออกว่าจะนำสรีระร่างกายท่านไปทำอะไร คงเป็นพวกโรคจิต เพราะท่านก็ไม่ได้เป็นพระที่ทำพระเครื่อง หรือส่งเสริมให้มีการทำคุณไสย

ขณะที่บรรยากาศที่วัดพบว่ามีพระภิกษุสามเณรตลอดจนชาวบ้าน เดินทางเข้ามากราบสักการะเครื่องอัฐบริขาร เครื่องใช้ประจำตัวของ พระครูโสภณธรรมาภิวัฒน์ อย่างไม่ขาดสาย มีการนำต้นเงินมาช่วยงาน พร้อมกับบูชาผ้าไตรเพื่อถวายสักการะเบื้องหน้าเมรุชั่วคราว ซึ่งทางวัดร่วมกับผู้นำท้องถิ่นและชาวบ้านได้ร่วมแรงร่วมใจกันก่อสร้าง ตกแต่งด้วยข้าวตอกดอกไม้อย่างวิจิตรสวยงาม 

จากการสอบถามชาวบ้านที่มาเคารพศพต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ารู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น  พร้อมทั้งสาปแช่งคนที่ขโมยศพพระครูโสภณธรรมาภิวัฒน์ พร้อมกับนำก้านใบบอนมาป้ายที่รูปบริเวณปากของพระครูโสภณธรรมาภิวัฒน์  

โดยมีความเชื่อโบราณของคนในท้องถิ่นว่า ความคันของยางบอนและการสวดขอพรของกลุ่มชาวบ้านจะทำให้ดวงวิญญาณของพระครูฯ พูดออกมาไม่ว่าจะเป็นการเข้าฝันหรือมาในรูปนิมิตอื่นๆ เพื่อบอกกล่าวกลุ่มคุณยายว่าใครเอาศพไป และศพอยู่ที่ไหน