จ่อดำเนินคดีอาญา บ.รับเหมาฯ รถไฟฟ้าสายสีแดง เคยเกิดเหตุ 6 ครั้ง ตายแล้ว 8 ศพ

วิศกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ ตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ ชิ้นส่วนงานก่อสร้าง โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง หล่นทับคนงาน เบื้องต้นคาดเกิดจากเหล็ก พี ที บาร์ ซึ่งเป็นตัวยึดคอนกรีตกับตอมอขาด ด้านอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานเผย หากพิสูจน์พบเกิดจากความประมาท ดำเนินการสั่งปิดกิจการ บ.ผู้รับเหมาฯ

(29 เม.ย.) นายธเนศ วีระศิริ นายกวิศกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ (วสท.) พร้อมด้วยนายประเสริฐ อัตตะนันท์ รองผู้ว่าการ กลุ่มบริหารรถไฟฟ้า การรถไฟแห่งประเทศไทย นายสุเมธ มโหสถ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ชิ้นส่วนงานก่อสร้าง โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงบางซื่อ-รังสิต หล่นทับคนงาน ที่บริเวณหน้าโรงเรียนวัดดอนเมือง

นายธเนศ วีระศิริ นายกวิศกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ (วสท.) กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบ เบื้องต้น สาเหตุเกิดจากเหล็ก พี ที บาร์ ซึ่งเป็นตัวยึดคอนกรีตกับตอมอขาด พบชิ้นส่วนของเหล็ก 1 จาก 6 เส้น คาดว่า เกิดจากแรงเฉือน ซึ่งต้องหาชิ้นส่วนที่เหลืออีก 5 เส้นเพื่อนำตรวจสอบต่อไป

ส่วน ชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่เหลือยังตรวจสอบไม่พบข้อบกพร่อง แต่ต้องตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง พื้นที่เกิดเหตุที่เป็นเส้นทางสัญจร คาดว่า จะเปิดให้สัญจรตามปกติได้ในวันอังคารที่ 2 พฤษภาคม 2560 เนื่องจากต้องกั้นพื้นที่ไว้สำหรับตรวจสอบต่อไป

นายสุเมธ มโหสถ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กล่าวว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากการ ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง บางซื่อ-รังสิต ของบริษัท อิตาเลียนไทย เคยเกิดเหตุขึ้นมาแล้วก่อนหน้านี่ 5 ครั้ง ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 6 มีผู้ปฎิบัติงาน เสียชีวิตทั้งสิ้น 8 ราย โดยก่อนหน้านี้ ได้ดำเนินการเพียงการเปรียบเทียบปรับ แต่ครั้งนี้ จะต้องมีการแจ้งความดำเนินคดีทางอาญา ซึ่งมีโทษจำคุก 1 ปี ปรับ 400,000 บาท

"ทั้งนี้ จะสอบสวนเรื่องของความประมาทเป็นหลัก ซึ่งถือว่า มีความผิดตามกฎกระทรวงข้อ 72 เรื่องของความปลอดภัย และหากผลการตรวจสอบพบ เกิดจากความประมาท กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน อาจมีการพิจราณาขั้นเด็ดขาด โดยการสั่งให้บริษัทผู้รับเหมาหยุดกิจการ" นายสุเมธ กล่าว

ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก สวพ.91