ชาวบ้านแห่อำลาส่ง ผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน หลังคำสั่งโยกย้าย

ชาวบ้านแห่อำลาส่ง ผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน หลังคำสั่งโยกย้าย

ชาวบ้านแห่อำลาส่ง ผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน หลังคำสั่งโยกย้าย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

มวลชนแห่ส่งอำลา ผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน บินเข้ากรุงเทพฯ ตามคำสั่งโยกย้ายช่วยราชการ เซ่มปมอื้อฉาวค้าประเวณีในพื้นที่

(2 พ.ค.) กลุ่มพลังมวลชน ประกอบด้วยหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ อบต., อบจ, องค์กรเอกชน, เทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน, ทหาร, ตำรวจและชาวบ้านกว่า 350 คน เดินทางไปส่ง นายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่จะเดินทางไปรับตำแหน่งใหม่ในกระทรวงมหาดไทย โดยขึ้นเที่ยวบินที่ PG238 ออกเดินทาง 10.02 น.

นายเกียรติศักดิ์ วนากมล รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า จากเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงของชาวแม่ฮ่องสอน จึงขอโอกาสนี้เรียกร้องให้ชาวแม่ฮ่องสอนทุกคน ออกมารวมพลังในการขจัดสิ่งเลวร้ายในสังคม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอบายมุขทุกประเภท การทุจริตในวงราชการที่ส่งผลให้การพัฒนาประเทศล่าช้า ใครพบเห็นสิ่งไหนที่ไม่ถูกต้องให้ออกมาเรียกร้องและประจานต่อสื่อและสังคมต่อไป

นายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ประธานสหพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทย (ส.ปอ.ท.) เปิดเผยว่า ตามที่ มท.ได้มีคำสั่งให้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ไปช่วยราชการที่กระทรวงตั้งแต่ 2 พ.ค. 2560 เพื่อให้กระบวนการตรวจสอบไม่ถูกแทรกแซงและบิดเบือน โดยอำนาจหน้าที่ของตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด ทั้งทางตรงและทางอ้อม

ทั้งนี้เนื่องจากผู้เสียหายได้ถูกกล่าวหาจากนายตำรวจระดับสูงมาก ซึ่งมีนำเสนอต่อสื่อมวลชนว่าท่านได้ชื้อบริการจากเด็กผู้ถูกบังคับให้ต้องค้าประเวณีโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเด็กได้เงินจากแม่เล้าจำนวน 1,000 บาท ซึ่งตามกฎหมายอาญาถือได้ว่าได้ตกเป็นผู้ต้องหาแล้ว แม้ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนให้ต้องรับโทษทางอาญา

จากที่ผมเคยได้ร่วมงานกับท่าน ถือว่าท่านเป็นข้าราชการระดับสูงที่มีเมตตากับลูกน้องมาก และที่สำคัญรักลูกน้องมาก รักพรรคพวก ผิดถูกว่ากันอีกเรื่อง ซึ่งผมยังยืนยันอย่างชัดเจนว่ากรณีที่เกิดขึ้นส่งผลให้กลายเป็นข่าวเสื่อมเสียดังไประดับโลก เป็นเพราะธรรมเนียมการจัดหาเด็กให้นาย โดยเฉพาะในการเดินทางมารับตำแหน่ง กรณีที่ทำให้ผู้เสียหายร้องเรียนไปทุกหน่วยงาน เกิดจากกระบวนการสัมภาษณ์และคัดแยกเหยื่อ เพื่อค้นหาความจริงของการค้ามนุษย์

ซึ่งมีหลายหน่วยงานและองค์กร ต้องมาร่วมดำเนินการรับฟัง และต้องมีการบันทึกการให้ถ้อยคำเมื่อต้นปี 2560 ยังสำนักงานแห่งหนึ่งมีการให้ถ้อยคำกล่าวถึงของนายดาบตำรวจที่ได้จัดเด็กไปให้ระดับวีไอพี ซึ่งเด็กดังกล่าวได้คือกลุ่มที่กล่าวว่าผู้ว่าราชการจังหวัดได้ใช้บริการ และไม่มีการจดถ้อยคำของเด็กลงในเอกสาร อันถือเป็นหลักฐานสำคัญเพื่อนำไปเป็นหลักฐานในการนำผู้กระทำผิดมารับโทษทางอาญา

แต่เมื่อไปสอบถามกับได้รับคำตอบว่าไม่อยากให้เด็กซึ่งเป็นเหยื่อเสียหาย และเมื่อขอเทปบันทึกกลับได้คำคำตอบว่าไม่มีการเสียบปลั๊กไฟ และส่งผลให้คดีถูกทำชักช้า โดยเรื่องดังกล่าวอยู่ในการเตรียมหาหลักฐานร้องทุกข์กล่าวโทษกับผู้กระทำผิดต่อไป

สำหรับในส่วนของสหพันธ์ปลัดอำเภอฯ จะได้ทำข้อเสนอแนะต่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในการดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยเฉพาะที่มีหน้าที่ในการรักษาความสงบเรียบร้อย และต้องให้ความรู้เด็กเยาวชน ที่เกี่ยวข้องกับการค้าประเวณีต่อไป ทั้งนี้จะส่งทางไปรษณีย์จะถือเป็นการไม่สมควร

โดยตนและกรรมการสหพันธ์ปลัดอำเภอฯ จะเดินทางไปยื่นข้อเสนอที่ศูนย์บริการประชาชน ทำเนียบด้วยตนเองอันเป็นการให้ความสำคัญต่อปัญหาดังกล่าว และจะได้ไปยื่นเรื่องถึงให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้มีการตรวจสอบและวางแนวทาง การแสดงพลังให้กำลังใจต่อผู้บังคับบัญชา

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook