มาเลย์รวบ 6 “ไอเอส” อีก 1 หนีเข้าไทย พร้อมอาวุธ
ตำรวจมาเลเซียเปิดเผยการจับกุมผู้ต้องสงสัย 6 ราย ที่พัวพันกลุ่มติดอาวุธไอเอสได้ในช่วง 1 เดือนกว่าที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังมีการตามไล่ล่าตัวผู้ต้องสงสัยอีกหนึ่งรายพัวพันกลุ่มติดอาวุธ
เว็บไซต์ของแชนเนลนิวส์เอเชียรายงานว่า เจ้าหน้าที่ของมาเลเซียเปิดเผยวันนี้ (3 พ.ค.) ว่า เจ้าหน้าที่ปราบปรามการก่อการร้ายสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัย 6 คนระหว่างวันที่ 24 มีนาคม – 25 เมษายน 2560 ได้ โดยต้องสงสัยว่าพัวพันการเคลื่อนไหวที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม หรือไอเอส ซึ่งทั้งหมดนั้นเป็นพลเมืองของมาเลเซียทั้งหมด แบ่งออกเป็นผู้ชาย 4 คนและผู้หญิง 2 คน
สำหรับผู้ต้องสงสัยชายสองคนนั้น มีอายุ 26 ปีและ 41 ปี ถูกจับกุมได้ที่รัฐกลันตันฐานกำลังลักลอบขนอาวุธจากทางภาคใต้ของประเทศไทยเข้าไปยังมาเลเซีย นอกจากนี้ หนึ่งในผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับกุมครั้งนี้ยังเป็นคนที่พยายามจะก่อเหตุโจมตีมัสยิดของชาวมุสลิมชีอะห์แห่งหนึ่งในรัฐปีนังอีกด้วย
ขณะที่เว็บไซต์ของมาเลเซียเมลออนไลน์รายงานอ้างแถลงการณ์ของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมาเลเซียระบุว่า หน่วยปราบปรามการก่อการร้ายได้เปิดปฏิบัติการในรัฐกลันตัน รัฐสลังงอร์ รัฐมะละกา รัฐยะโฮร์และรัฐปีนัง จนกระทั่งนำไปสู่การจับกุมผู้ชาย 4 คนและผู้หญิงอีกสองคน
โดยการจับกุมครั้งแรกเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 24 -25 มีนาคมที่รัฐกลันตัน พบผู้ต้องสงสัยชายสองคนอายุ 26 ปี และ 41 ปี ถูกจับกุมได้หลังต้องสงสัยพัวพันขนอาวุธจากทางตอนใต้ของไทยไปยังมาเลเซีย ซึ่งเชื่อว่าอาวุธเหล่านั้นจะถูกกลุ่มติดอาวุธไอเอสใช้
ส่วนการจับกุมครั้งที่สองเกิดขึ้นในวันที่ 4 เมษายนที่สนามบินนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ เป็นผู้ต้องสงสัยหญิงอายุ 26 ปี ซึ่งเดินทางไปยังตุรกีเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้วเพื่อเข้าร่วมกับกลุ่มติดอาวุธไอเอสในซีเรีย ถัดมาหลังจากนั้นมีการจับกุมผู้ต้องสงสัยอีกสองรายที่รัฐมะละกาและรัฐยะโฮร์ เป็นผู้ชายวัย 41 ปีต้องสงสัยเข้าไปพัวพันกับการเคลื่อนไหวของไอเอสในซีเรีย และหญิงวัย 32 ปีซึ่งมีการโปรโมทข้อความชวนเชื่อของกลุ่มไอเอสผ่านทางกูเกิ้ลพลัส ส่วนผู้ต้องสงสัยรายสุดท้ายที่ถูกจับกุม เพิ่งถูกควบคุมตัวได้ที่รัฐปีนังเมื่อวันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา หลังแสดงการสนับสนุนกลุ่มไอเอสผ่านทางเฟซบุ๊ก
นอกจากนี้ ตำรวจกำลังตามหาผู้ต้องสงสัยอีกหนึ่งราย ทราบชื่อว่า มูฮัมหมัด จูไนดี อายุ 27 ปี พัวพันกับกลุ่มลักลอบขนอาวุธจากทางตอนใต้ของไทยไปยังมาเลเซียเช่นกัน ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังตามไล่ล่าตัว และเชื่อว่าคนร้ายหนีมายังทางตอนใต้ของประเทศไทย