ชีวิตสุดช้ำดิ่งตึกโคม่า สาวทอมแฟนทิ้งไปแต่งงาน-โดนชายขืนใจซ้ำ
ตำรวจเกลี้ยกล่อมสาวทอมเหมอลอย นั่งดาดฟ้าแมนชั่น ตัดพ้อถูกแฟนทิ้งไปแต่งงาน เมายังโดนผู้ชายข่มขืน กล่อมไม่สำเร็จดิ่งติ่ง 4 ชั้นลงมา อาการโคม่า
(5 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบคนนั่งร้องไห้อยู่ขอบระเบียงดาดฟ้าชั้น 4 ของแมนชั่นแห่งหนึ่ง มีท่าทีเหมือนจะกระโดดลงมา จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ และพบกับสาวทอมมีอาการเหมอลอย พยายามเกลี้ยกล่อมอยู่นานเป็นชั่วโมงแต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ
เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่า จากการสอบถามทราบว่า สาวทอมคนดังกล่าวคือ นางสาวอารีรัตน์ อายุ 21 ปี เป็นสาวทอม เพิ่งถูกแฟนสาวทอดทิ้งไปแต่งงานกับชายหนุ่ม เมื่อนัดเคลียร์ใจก็เกิดทะเลาะกันอย่างรุนแรง หลังจากนั้นจึงซื้อเหล้าเบียร์มาดื่มย้อมใจ กระทั่งมึนเมาและหลับไป มารู้สึกตัวอีกทีก็พบว่ากำลังถูกชายแปลกหน้าข่มขืนกระทำชำเรา แต่ไม่มีแรงสู้ไหว
เจ้าหน้าที่พยายามพูดคุยด้วย กระทั่งสาวทอมตัดสินในปีนขึ้นไปเกาะขอบหลังคาอยู่ 20 นาที ก่อนจะหมดแรงตกลงมากระแทกแอร์คอมเพลสเซอร์ที่ชั้น 2 และร่วงลงมาที่พื้นด้านล่าง เจ้าหน้าที่กู้ภัยที่อยู่ในที่เกิดเหตุจึงรีบเข้าช่วยเหลือทันที เบื้องต้นพบว่าบาดเจ็บสาหัส ศีรษะแตก แขนขาหัก ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต อาการยังน่าเป็นห่วง
ภายหลังจากเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบภายในห้องพักของสาวทอมผู้ประสบเหตุ ที่พักอยู่ในแมนชั่นแห่งดังกล่าว ก่อนจะพบกับสมุดบันทึก 1 เล่ม เขียนข้อความตัดพ้อระบายถึงความผิดหวังต่างๆ นานา จำนวน 3 หน้ากระดาษ ทั้งแฟนสาวทิ้งไปแต่งงานกับผู้ชาย น้อยใจที่ทำความดีแล้วไม่ได้ดี และยังเขียนชื่อตัวเองและเบอร์โทรศัพท์ของครอบครัวเอาไว้ด้วย
ขณะที่คนรู้จักสาวทอมรายนี้ เปิดเผยว่า นางสาวอารีรัตน์ มาจากกรุงเทพฯ และเช่าห้องพักอยู่ที่แมนชั้นแห่งนี้ อาศัยอยู่กับแฟนสาวมาได้ 3 เดือนแล้ว ทั้งคู่มักจะทะเลาะกันบ่อยๆ แต่ก็เคลียร์ใจกันได้ตลอด ส่วนเป็นเรื่องหึงหวงแฟนสาว กระทั่งมาทราบว่าแฟนสาวกำลังจะแต่งงานกับชายอื่น ก็รู้สึกเศร้าช้ำใจเป็นอย่างมาก ดื่มเมามายเพียงลำพัง เพื่อนก็พยายามห้ามปรามและวอนอย่าคิดสั้น
ส่วนประเด็นที่ นางสาวอารีรัตน์ อ้างว่าถูกชายแปลกหน้ากระทำชำเราระหว่างที่ไม่ได้สติเพราะเมาอยู่นั้น ไม่ทราบว่ามีข้อเท็จจริงอย่างไร เนื่องจากไม่มีใครรู้เห็นและเป็นพยานได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง หากเกิดกรณีขึ้นจริงๆ ก็จะติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้