พรรคชาติไทยพัฒนาตั้งโต๊ะแถลงย้ำ "พรรค" ไม่มีไว้ขายหรือโดนเซ้ง
ลูกชายบรรหาร "วราวุธ ศิลปอาชา" เปิดพรรคชาติไทยพัฒนาตั้งโต๊ะแถลง ย้ำพรรคไม่ได้มีไว้เพื่อขาย ไม่ได้มีไว้เพื่อที่จะมาถูกเทคโอเวอร์
ที่พรรคชาติไทยพัฒนา วันนี้ (8 พ.ค.60) เวลา 11.00 น. นายวราวุธ ศิลปอาชา เปิดเผยถึงกรณีกระแสข่าวพรรคชาติไทยพัฒนาถูกพาดพิง ทั้งการถูกพรรคการเมืองหนึ่ง หรือนายทักษิณ ชินวัตร จะเข้ามาซื้อหรือเทคโอเวอร์พรรคชาติไทยพัฒนา ว่า ที่ผ่านมาพรรคชาติไทยพัฒนา ได้มีการก่อตั้งมาจากนายบรรหาร ศิลปอาชา และผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องที่ต่างทุ่มเทและสร้างพรรคขึ้นมา โดยต่อสู้มาตลอด และยืนยันว่าพรรคชาติไทยพัฒนาไม่ได้มีไว้เพื่อขาย ไม่ได้มีไว้เพื่อที่จะมาถูกเทคโอเวอร์ ไม่ได้มีไว้เพื่อที่จะมาโดนเซ้ง
ทั้งนี้ พรรคชาติไทยพัฒนาไม่ใช่บริษัทจำกัด ไม่ต้องมารอการเทคโอเวอร์เหมือนการทำธุรกิจ ซึ่งพรรคแห่งนี้เป็นความภูมิใจของทุกคนที่เกี่ยวข้องและมีส่วนร่วมที่ต้องการเห็นองค์กรแห่งนี้เติบโตขึ้นตามเส้นทางทางการเมือง และการที่จะขายพรรคไป ถือเป็นการทรยศต่อจิตวิญญาณของนายบรรหาร ศิลปอาชา จึงไม่มีแนวคิดนี้ขายไปให้ใครอย่างแน่นอน
"ภายหลังจากนายบรรหาร ศิลปอาชา เสียชีวิตลง ทางพรรคชาติไทยพัฒนาก็ได้มีการพัฒนาให้เป็นสถาบันทางการเมือง ให้เป็นองค์กรความเมืองที่มีความเข้มแข็ง และเป็งองค์กรการเมืองที่เป็นความหวังของประเทศไทย ซึ่งการจะตัดสินใจใด ๆ ก็แล้วแต่ต้องมีการลงคะแนน ลงมติ เข้าที่ประชุมพรรค ที่ต้องมีการอนุมัติจากผู้ที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะสมาชิก โดยยืนยันว่าพรรคชาติไทยพัฒนาไม่ได้มีไว้เพื่อขาย โดยผู้ใหญ่และสมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนา มีเงินทุนที่เพียงพอและไม่ต้องไปพึ่งพาเงินของใคร รวมทั้งมีศักดิ์ศรีและศักยภาพพอที่จะยืนด้วยลำแข้งของตนเอง เมื่อถึงเวลาการเลือกตั้งก็มีความพร้อมที่จะลงสู่สนามการเลือกตั้ง" นายวราวุธ กล่าว
ขณะที่นายทักษิณ ชินวัตร ต่อสายโทรศัพท์ติดต่อมาทางพี่สาว หรือตัวผมนั้น เมื่อวันที่ 23 เม.ย.59 ที่นายบรรหาร ศิลปอาชา ได้จากครอบครัวไป ในวันรุ่งขึ้นนายทักษิณ ชินวัตรได้โทรศัพท์เข้ามาจริง แต่เป็นการแสดงความเสียใจเท่านั้น ไม่ได้มีประเด็นเกี่ยวกับการซื้อพรรคชาติไทยพัฒนาแต่อย่างใด
สำหรับการร่วมงานในอนาคตทางการเมือง หากพรรคที่ถูกเลือกมาในเสียงข้างมากไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลในพรรคเดียว ก็จะเกิดการจัดตั้งรัฐบาลผสมขึ้น ดังนั้น การร่วมเป็นพรรคร่วมพัฒนาด้วยกันหรือการเป็นพันธมิตรเป็นเรื่องปกติที่จะต้องมีการเจรจา แต่ต้องให้เกิดการเลือกตั้งเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว