ญาติสะอื้น เผาศพน้องภีม พ่อเลี้ยงตบถึงตาย ตามหาแม่-หวั่นอันตราย
ญาติน้องภีม เหยื่อพ่อเลี้ยงโหดสุดเศร้าหลังจากทำการเผาศพหลาน หวั่นความปลอดภัยของแม่เด็ก หลังคนแปลกหน้าป่วนเปี้ยนถี่ เรียกร้องขอให้ตำรวจได้เร่งจับตัวให้ได้
(8 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่วัดธรรมนิมิตร บ้านเพี้ยเพ้า ต.คำน้ำแซบ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ญาติ ของ น้องภีม อายุ 2 ขวบเศษ ได้ทำพิธีทางศาสนาฌาปนกิจศพ โดยมี นายฮัมดัน สาแล๊ะ พ่อแท้ๆ ของน้องภีม และเพื่อนบ้านประมาณ 100 คน ท่ามกลางความเศร้าโศกของญาติพี่น้องที่เลี้ยงดูมาตลอด
น.ส.ธิดาวรรณ น้าสาวกล่าวถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับหลาน แม้ไม่ได้อยู่ด้วยเหมือนญาติคนอื่น เพราะออกไปอยู่กับครอบครัว แต่ก็แวะมาดูแลหลานเป็นครั้งคราว ทำให้ก็รู้สึกเสียใจที่หลานต้องมาเสียชีวิตเพราะถูกทำร้าย และต้องการให้พี่สาวออกมาพบเจ้าหน้าที่ เพื่อนำไปสู่การจับกุม นายจิรันตน์ อายุ 24 ปี พ่อเลี้ยงมารับโทษ เพราะแม้น้องภีมไม่ได้อยู่ด้วยแล้ว แต่ก็มีญาติพี่น้องที่พร้อมให้การช่วยเหลือ นางธิดารัตน์ แม่ของน้องภีม เพราะเกรงว่าจะได้รับอันตรายในช่วงนี้
ขณะที่ นางรัชนี ป้าที่เลี้ยงดูน้องภีมกล่าวว่า รู้สึกเป็นห่วงสวัสดิภาพของญาติพี่น้อง เพราะสังเกตตั้งแต่เกิดเรื่องช่วง 1-2 วัน มีกลุ่มผู้ชายขับขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนท้ายกันมา เหมือนพวกเก็บเงินกู้รายวัน คล้ายกับพ่อเลี้ยง มาซุ่มดูความเคลื่อนไหวบริเวณบ้านพัก ทำให้เกิดความกลัว
ด้านการติดตามจับกุม นายจิรันตน์ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี ได้หาเบาะแสจากกลุ่มเพื่อนนายจิรันตน์ที่มีอาชีพปล่อยเงินกู้ ซึ่งได้ข้อมูลไม่มากนัก และคาดว่าจุดที่นายจิรันตน์และแม่ของเด็กหลบหนีไปอาจอยู่แถวภาคตะวันออกที่เป็นบ้านเกิดของผู้ต้องหา
จากการสอบถามญาติฝั่ง นางธิดารัตน์ ให้ข้อมูลความเกี่ยวพันระหว่าง นายจิรันตน์ กับ น้องภีม โดยนายจิรันตน์พ่อเลี้ยงเคยมารับตัวเด็กไปนอนที่หอพักด้วยประมาณ 3-4 ครั้ง แต่ละครั้งจะไปอยู่ด้วยนาน 3-4 วัน นางธิดารัตน์ก็จะรับตัวเด็กกลับมา
และสังเกตว่าทุกครั้งที่นายจิรันตน์มารับตัวเด็กที่บ้านในอำเภอวารินชำราบ เด็กจะมีอาการหวาดกลัวไม่อยากไปด้วย และบางครั้งเมื่อหลานกลับมาที่บ้าน จะพบเห็นบาดแผลคล้ายถูกหยิกบริเวณต้นคอหรือขาด้วย ซึ่งเด็กบอกว่าถูกนายจิรันตน์กับแม่ตี แต่ไม่ได้สงสัยอะไร เพราะหลานอาจถูกทำโทษ เพราะซุกซนตามประสาเด็ก
ครั้งสุดท้ายที่นายจิรันตน์มารับเด็กไปจากบ้านเมื่อค่ำวันที่ 5 พ.ค. ยืนยันว่า ก่อนออกจากบ้านร่างกายของน้องภีมไม่มีรอยการเขียวช้ำ เหมือนวันที่พบเด็กเสียชีวิตไปแล้ว