ไชยา มิตรชัย ควง น้องแป้ง แถลงทั้งน้ำตา เปิดความลับ 23 ปี จากนี้ไม่ต้องเรียกพี่แล้ว
ลูกสาว "น้องแป้ง มิตรชัย" ออกมาแถลงข่าวต่อหน้าสื่อมวลชนเป็นครั้งแรก หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีกระแสว่า "ไชยา มิตรชัย" ซุกลูกมานานกว่า 20 ปี โดยงานนี้ทั้งสองได้ออกมาเปิดใจทั้งน้ำตากับความโล่งใจ พร้อมบอกเหตุผลที่ก่อนหน้านี้ต้องปิดบังเรื่องลูกมาตลอด
ความรู้สึกวันนี้ที่ได้ออกมาพูดพร้อมกันกับลูกสาว?
ไชยา: "วันนี้ถือเป็นครั้งแรกที่มากับน้องแป้งได้มาพูดพร้อมกันต่อหน้ากับพี่ๆ น้องๆ สื่อมวลชน อย่างแรกคือต้องขอบคุณหลายๆ คนที่ให้ความสนใจกับครอบครัวของมิตรชัย ก่อนหน้านี้ผมเคยเขียนลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวแล้วว่าไม่มีอะไรจะต้องปิดและไม่มีอะไรจะต้องเปิด เพียงแต่ว่ารอให้ถึงเวลาก่อนและพร้อมกันทั้งหมดก็จะออกมาพูดทีเดียว ตนจึงได้ขอเวลาเป็นวันที่ 8 พ.ค. ไม่ได้ตั้งใจที่จะถ่วงเวลาแต่มันเป็นเพราะอาชีพการงานจริงๆ"
น้องแป้งเป็นลูกโดยสายเลือดเลยใช่ไหม?
ไชยา: "สายเลือดแท้ๆ มรดกตกทอดเลยครับ เรื่องราวความรักของตนกับภรรยาก็เกิดขึ้นมาเท่าอายุของน้องแป้งคือประมาณ 23-24 ปี ทุกอย่างก็เป็นอย่างที่ภรรยาเคยออกมาให้สัมภาษณ์ ไม่มีอะไรหวือหวา ที่ผ่านมาไม่ได้ตั้งใจที่จะปิดเพราะถ้าใครตามเฟซบุ๊กของผมจะเห็นว่าผมกับน้องแป้งก็ไปทำบุญกันปกติ แต่ไม่นึกว่ากระแสที่จะให้ความสนใจมากขนาดนี้"
จุดเริ่มต้นที่เจอกับภรรยา?
ไชยา: "คุณพ่อคุณแม่ของผมและของภรรยาสนิทกันเลยไม่มีอะไรหวือหวา แต่ผมอยากให้โฟกัสเรื่องลูกมากกว่า ในส่วนภรรยาและลูกชายคือน้องแชมป์ค่อนข้างจะมีความเป็นส่วนตัวนิดนึงและกลัวการมีข่าว ทุกวันนี้น้องแชมป์เปลี่ยนชื่อในเฟซบุ๊กหมดเลยเพราะเขาตกใจมาก แต่ผมก็บอกให้ลูกทำตัวตามปกติ จริงๆ น้องแป้งก็ตกใจ วันแรกที่ผมเขียนลงในเฟซบุ๊ก เขาเฟซไทม์มาหาเพราะตอนนั้นของเรียนอยู่ เขาดีใจน้ำตาไหล ผมก็บอกลูกว่าไม่ต้องร้อง แต่ว่าตัวเขาดีใจมากที่สุดในชีวิต เท่านั้นยังไม่พอวันที่ผมจะไปส่งลูกที่หอ เขาก็ฟุบหน้ามาที่ผมเลยและกอด ตอนแรกนึกว่าเขาแกล้งแต่คือเขาร้องไห้ด้วยความดีใจ"
ความรู้สึกของน้องแป้งที่ทุกคนรู้แล้วว่าเป็นลูกของ 'เอ-ไชยา' แล้ว?
แป้ง: "ดีใจมากเลยค่ะ เพราะช่วงที่มีข่าวหนูไม่ได้คุยกับพ่อเลย และพ่อก็ไม่ได้บอกว่าจะเปิดเรื่องนี้ หลังจากนั้นก็ทราบเพราะว่าเพื่อนๆ โทรมาถามเต็มไปหมด จากนั้นก็รีบเฟซไทม์หาพ่อและเป็นอย่างที่เห็นคือร้องไห้ ดีใจที่จะไม่ต้องเรียกเพราะว่าพี่แล้ว (ร้องไห้)"
ไชยา: "น้องแป้งไม่ได้อืดอาจเพราะจริงๆ แล้วตอนอยู่ที่บ้านก็เรียกผมว่าพ่อ แต่ด้วยเนื้อที่การงานของเราในบางครั้งถ้าเกิดว่ายังไม่พร้อมก็ต้องทำงานของเราไปก่อน อย่างที่เห็นกันว่าผมเลี้ยงลูกน้องเยอะเพราะทำหลายอาชีพ ไม่ได้เป็นแต่แค่ลิเก ในส่วนของลิเก เพื่อนๆ ในโรงลิเกก็รู้แต่ไม่มีใครมาถามหรือสงสัยว่าใช่หรือไม่ใช่ แต่ในบางครั้งถ้าไปตามสถานที่ต่างๆ ผมก็จะบอกให้ลูกเรียกว่าพี่เพราะว่าตัวเองจะได้ไม่ดูแก่"
"จริงๆ เจ้าภาพที่หาลิเกให้เป็นประจำก็รู้ว่าน้องแป้งคือลูก เหตุผลหลักที่ไม่ได้พูดเรื่องครอบครัวเป็นเพราะเรื่องงาน รวมถึงความพร้อมของครอบครัวขนาดน้องแชมป์ยังตกใจอยู่เลย ตัวเขาเป็นคนที่พูดไม่เก่ง แต่ก็พูดกับผมว่าเขาดีใจที่มาเที่ยวชายทะเลกับพ่อและได้เรียกพ่อแล้ว เพียงแต่ว่าเขาไม่ชิน เราเลยมีความรู้สึกว่ามันแป๊บเข้ามาที่ใจเหมือนกัน"
"แต่ในครอบครัวขอบอกไว้เลยนะครับว่าผมเลี้ยงลูก ไม่เคยให้ลูกขาดความอบอุ่นเลย ลูกจะเข้าใจ เพราะเราสอนกันอยู่อย่างนี้ตลอดเวลา อย่างตัวภรรยาของผมก็เหมือนกันเขาจะบอกลูกเสมอว่าพ่อไม่อยู่นะลูก พ่อไปทำงานนะ รักพ่อนะ พ่อเหนื่อย วันนึงที่ตอนนั้นเขายังเต๊าะแตะๆ อยู่ ผมเล่นละครเรื่องนายฮ้อยทมิฬ เขาโทรมาตอนพักกองพอดี บอกพ่อจ๋าอย่าเพิ่งวางสายนะจ๊ะ พ่อฟังหนูร้องเพลงก่อนนะ (น้ำตาคลอ) แล้วเขาก็ร้อง เชื่อไหมครับว่าเราฟังลูกร้องเพลงจนจบแล้วชื่นใจมากๆ"
ที่ผ่านมาอยู่บ้านเดียวกันมาตลอดเลยหรือเปล่า?
ไชยา: "อยู่ครับ เพิ่งจะมาแยกกันตอนเขาเรียนมหาวิทยาลัยนี้ครับ เราใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันเป็นช่วงๆ ของระยะเวลา"
กับภรรยาก็ยังอยู่ด้วยกันปกติใช่ไหม?
ไชยา: "เป็นปกติครับ ผมชื่นใจครอบครัวยังอยู่ด้วยกันเป็นปกติ ไปทำบุญด้วยกัน ส่วนใหญ่ผมจะชอบพาลูกและภรรยาไปทำบุญที่วัด กับภรรยาก็ยืนยันได้ว่ายังไม่ได้เลิกกันจ๊ะ (ยิ้ม)"
ภรรยาเป็นคนดูแลคิวงานทั้งหมดให้ใช่ไหม?
ไชยา: "จริงๆ แล้วภรรยาไม่ได้เป็นคนดูคิวครับ เพิ่งจะมาดูตอน 3-4 ปีหลัง เพราะคิวเป็นคิวรายการทีวีที่ลงตัวแล้ว ก็ให้ช่วยกันดู แต่ถ้าเป็นคิวลิเกที่เป็นงานหลักๆ ก็จะให้ผู้จัดการดูครับ"
น้องแป้งโล่งใจมากแค่ไหนที่วันนี้คุณพ่อได้เปิดตัวเราแล้ว?
แป้ง: "มากขึ้นค่ะ หนูตื่นเต้นและทำอะไรไม่ถูก ตั้งตัวไม่ทันเลยค่ะ และไม่คิดว่าพี่ๆ สื่อมวลชนจะให้ความสนใจขนาดนี้ด้วย"
เพื่อนๆ เราว่ายังไงบ้าง พอรู้ว่าเป็นลูกของ เอ ไชยา?
แป้ง: "เพื่อนไม่รู้เลยค่ะ ทุกวันนี้ยังถามว่าจริงเหรอ หนูไม่เคยบอกใครเลยค่ะ แล้วก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัดอะไรเลย"
ไชยา: "มีช่วยหนึ่งตอนเขาเด็กๆ อันนี้เล่าได้น่ารักดี คือช่วงนั้นเรายังไม่รู้ว่ากระแสทิศทางเราจะเป็นยังไง เพราะตั้งแต่เกิดน้องแป้งมาผมมีงานลิเกทั้งวันทั้งคืนเลยเชื่อไหมครับ ทำให้เราไม่ค่อยได้อยู่กับลูก บางทีเรากลับถึงบ้านตีสามตีสี่ก็จะปลุกลูกบอกพ่อกลับมาแล้วนะลูก แต่พอเกิดน้องแชมป์มาช่วงนั้นจะห่างกันหนักมาก เพราะช่วงนั้นเพลงกระทงหลงทางดังพอดีแถมยังมีข่าวนู้นนี่นั้น ผมต้องออกไปทำงานทุกวันเลยครับ จึงฝากให้ภรรยาบอกกลับลูกไว้ว่าผมทำงานแบบนี้ ยังเต้นกินรำกินอยู่ ผมไม่รู้อาชีพเราจะยั่งยืนไหม ขอให้ผมทำงานไปสักระยะหนึ่ง ซึ่ฃในครอบครัวเราเข้าใจกันหมด เราก็บอกกับลูกว่าถ้าคุณครูถามพ่อชื่ออะไร ให้บอกไปว่า เสมา สมบูรณ์ นะลูก นั่นคือจริงผมในทะเบียน"
แป้ง: "ตอนนั้นจำได้ว่าตอนอนุบาล 3 ค่ะ เป็นช่วงนอนกลางวันแต่หนูนอนไม่หลับ หนูเป็นครูอยู่ในห้องก็เลยลุกขึ้นลากผ้าห่มไปสะกิดครู 'ครูคะ อย่าไปบอกใครนะคะ ว่าพ่อหนูเป็นไชยา มิตรชัย' (หัวเราะ) หลังจากนั้นก็ย้ายโรงเรียนเลย"
ตอนนั้นที่ยังไม่พร้อมเปิดเพราะกลัวแม่ยกไม่เข้าใจด้วยหรือเปล่า?
ไชยา: "เอาจริงๆ เลยนะ ถ้าอยากจะรู้คือเพื่อนๆ นักแสดงด้วยกันหลายคนผมเห็นใจนะ เพราะช่วงนั้นผมเล่นลิเก เอาตัวผมเลยดีกว่าที่ผมเคยได้ยินมาว่า พระเอกมีลูกมีเมียแล้วอย่าไปหาเลย คือเขาพูดแบบนี้ ซึ่งอันนั้นไม่ใช่ลิ้กคณะเรานะครับ แต่เราได้ยินมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย ลิเกสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือพ่อยกแม่ยก น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า แต่ต้องขอขยายความด้วยว่าแม่ยกคือผู้มีอุปการคุณกับพวกเรา เพราะฉะนั้นพ่อผมจะไม่ให้เรียกแม่ยก แต่จะให้เรียกพ่อคุณหรือแม่คุณ และจะทราบกันเลยว่าตั้งแต่ผมเป็นไชยา มิตรชัย ผมไม่เคยมีข่าวเสียกับแม่ยกเลย"
"ผมถึงได้มีวันนี้และอยู่เป็นครอบครัวอย่างมีความสุข แต่ที่ไม่เปิดช่วงเล่นลิเกเพราะผมยังไม่ได้เป็นนักร้องดัง เรายังไม่รู้ว่าค่ายเพลงจะรับเราได้ไหม ซึ่งกับครอบครัวเราอยู่แบบนี้กันได้ อยู่ด้วยความรักและความเข้าใจซึ่งกันและกัน แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นที่ผมไม่ได้พูดไปเพราะเพื่อนอีกหลายร้อยชีวิตที่ยังต้องอาศัยป้ายไชยา มิตรชัยของเรา เขาจะกินอยู่กันยังไง ถ้าเราเปิดตู้มเราแฮปปี้ เรามีความสุข ฉันมีลูกมีเมีย เราหากินได้ เพราะอย่างน้อยๆ ผมมีกระทงหลงทางมารองรับแล้วครับ ผมสามารถร้องเพลงได้ แต่ถ้าลิเกคุณคิดไหมครับว่าเพื่อนผมเขาก็มีครอบครัวต้องเลี้ยง ผมเลยไม่ขอเลือกความสุขส่วนตัว จึงขอเลือกแบบนี้นะลูก เราอยู่กันได้ เพราะพ่อลูกเข้าใจกันแล้ว ไม่มีปัญหา"
หลังจากเกิดข่าวนี้ขึ้นมา พ่อยกแม่ยกเรารับได้ไหม?
ไชยา: "เอาจริงๆ ผมเคยออกรายการทีวีนะ และเคยพูดว่าถ้าเกิดไชยาจะมีเมียรับกันได้ไหม ซึ่งตอนหลังๆ แฮปปี้กันแล้วครับ ไม่มีอะไร รับได้แล้ว ด้วยอายุ ด้วยวัย ผมถึงบอกไงครับว่าผมอยากให้ผมพร้อมก่อน เมื่อผมพร้อมแล้ว ผมก็อยากจะบอกกับทุกๆ คนที่อยากจะรู้ โดยไม่มีอะไรปิดบัง"
เรามั่นใจแค่ไหนในตอนนี้ว่าแม่ยกยังคงให้การสนับสนุนต่อไป?
ไชยา: "ผมมั่นใจ เพราะหลายคนที่ใกล้ชิดและดูผมมาจะรู้มาก่อนหน้านี้แล้วครับ แต่ด้วยความรักบางคนช่วยปกป้องเรา อย่าใช้คำว่าช่วยปิดเลยครับ ช่วยปกป้องจะงามกว่า คนแถวบ้านก็จะเห็นเวลาที่เราพาลูกไปทำบุญ แต่เขาก็จะบอกกันว่าอย่าไปยุ่งกับเขาเลย ซึ่งทุกอย่างก็เป็นปกติครับ"
เราจะบอกแฟนอย่างไร เพราะบางคนมองว่าเราหลอกเขามา 20 กว่าปี?
ไชยา: "อย่าได้คิดอย่างนั้นเลยนะครับ ผมอยากให้มองในมุมกลับกันว่า ขอความเมตตาให้กับเด็กสองคนนี้และครอบครัวเล็กๆ อีกสักครอบครัวหนึ่งแล้วกันนะครับ เพราะว่า ไชยา มิตรชัย ไปปรากฎตัวที่ไหนไม่ได้ไปสร้างความอกสั่นขวัญแขวนให้กับใคร โดยเฉพาะตัวผม ผมไม่ให้ไปสร้างอะไรให้ใครต้องน้ำตาตก แม่ยกที่มาทุกคน อย่างคนที่มอบรถทัวร์ให้ผมมา ท่านทราบว่าผมมีครอบครัวแล้วแต่ที่เขาให้ผมมา เขาให้เพราะเห็นว่าผมทำงานมาแต่เด็ก"
"ไม่ได้ให้เพราะตัวไชยา แล้วเรายังต้องเลี้ยงดูลูกท้อง อำนวยความสะดวกให้ลูกน้อง ผมจะไม่มีข่าวเสียกับแม่ยกในเรื่องชู้สาวเลย แล้วผมจะไปหลอกใครเพื่ออะไร ไม่รู้จะตอบว่าอย่างไรเหมือนกัน หลายคนเอาเงินมาให้หลังเวที เขาให้เพราะผมเลี้ยงลูกน้อง เขาให้รับเพราะเขาให้เขาไม่ได้ลำบาก แต่ผมยังต้องเลี้ยงลูกน้องเลี้ยงครอบครัว ผมก็บอกพี่จ๋าถ้าจะให้ผมก็ให้หน้าเวทีได้มั้ย มันจะได้เป็นกำลังใจที่ผมได้ทำงานตรงนั้น"
"หลายคนจะได้เป็นสักขีพยานด้วยว่าผมหากินด้วยหยาดเหงื่อและความสามารถด้านหน้าเวที เขาก็นำมาติดให้หน้าเวที ผมจะพูดเสมอว่าแม่มาดูผมหน้าเวทีไม่ต้องคลองเงินผมทุกคืน ผมไม่ได้ดูถูกเงินนะ แต่ผมก็ยังต้องหากินเลี้ยงอีกหลายปากท้อง แล้วถ้าแม่มาดูผมทุกคืน365วัน ติดพวงมาลัยผมทุกคืน ผมละอายใจรับครับ แม้จะเป็นเงินที่ผมได้มาอย่างสุจริตก็ตามแต่ผมละอาย ผมก็จะพูดชัดเจนเลยหน้าเวทีว่าไม่ต้องให้ผม ตรงนี้แหละครับที่ทำให้คนรักไชยา มิตรชัย เราไม่ได้หวังแต่ได้อย่างเดียว เราพูดด้วยความจริงใจ"
ทำไมถึงเลือกช่วงจังหวะเวลานี้เปิดตัวว่ามีครอบครัว?
ไชยา: "ผมไม่ได้เปิดและไม่ได้ปิด มีสื่อมวลชนท่านนึงเข้าไปในวันที่ผมถ่ายรายการ แล้วเล่าให้ผมฟังว่าเอไปมีเรื่องมีราวกับใครรึเปล่า มีผู้หญิงโทรมาให้ข้อมูลกับเขาว่าเอมีลูกมีเมียแล้ว เขาให้ข้อมูลมาละเอียดเลย ผมก็ฮ่ะ...ผมก็บอกว่าเดี๋ยวรอให้ผมพร้อมก่อน ที่รอให้พร้อม หลังจากคุยกับเขาผมก็โทรหาพ่อผม พอดีว่าพ่อผมเข้าโรงพยาบาล พ่อก็ไม่พร้อมจะคุยกับผม ถ้าไม่ปรึกษาพ่อพูดหรือทำอะไรออกไปก็กลัวพ่อจะเครียด ก็ปล่อยไปเรื่อยมา"
"จนมีสื่อโทรเข้ามาหาผู้จัดการผมสายแทบไหม้ ทำให้มีการแถลงข่าววันนี้ เพราะคิดว่าเขาคงอยากจะรู้ความจริงแล้ว ก็รู้สึกดีใจ ผมกราบขอบพระคุณมากๆ วันนี้ครอบครัวผมมีความสุขที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ มันเหมือนของขวัญที่ดีที่สุดที่พระท่านประทานให้ครอบครัวผม หลังจากที่พระท่านประทานให้ลูกๆมาเกิดในครอบครัวผมแล้ว เป็นของขวัญสองชิ้นที่สุดแล้วสำหรับผม แล้ววันนี้ความรู้สึกนั้นกลับมาอีกว่าเหมือนผมได้รับของขวัญอีกครั้งนึง ที่ทำให้ลูกๆของผมมีรอยยิ้มได้บนใบหน้า ครอบครัวผมตอนนี้มีความสุขที่สุด"
ที่ผ่านมาอึดอัดใจมั้ยที่เราจะแนะนำลูกเราว่าเป็นหลานสาว"
ไชยา: "สำหรับผมไม่นะครับ เราเพิ่งจะเข้าใจถ่องแท้ในความรู้สึกของเด็กเมื่อวันที่หลายๆคนให้ความสนใจนี่แหละครับ ผมต้องขอบคุณทุกคนมากๆ วันนี้ผมพร้อมแล้วทุกอย่าง"
หวงลูกสาวไหม?
ไชยา: "หวงมากครับ ยังไม่ให้มีแฟน ต้องเรียนและทำงานก่อน บอกลูกเสมอว่าเรียนให้จบก่อน เมื่อเราพร้อมแล้วชีวิตของหนูพ่อดูแลได้ตลอดชีวิต คนที่จะเข้ามาในชีวิตของหนูต้องหนูต้องรอให้มันถึงเวลาจริงๆ จะพูดเสมอว่าเห็นพี่แอนมั้ย พี่แอนยังทำงานได้เลย ให้เรียกเอว่าพี่(หัวเราะ) ไม่งั้นเขาไม่ปลื้มนะ เหมือนเรานี่แหละ มาเรียกผมว่าพ่อต่อหน้าสื่อเราก็ไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่ อยากเป็นหนุ่ม(หัวเราะ) จริงๆ เรียกได้ แต่เขาก็จะมีการขอขมาลาโทษอยู่เป็นประจำ ไม่ต้องห่วง"
วางแผนให้ลูกสาวยังไงบ้าง?
ไชยา: "ผมขอฝากลูกผมกับทุกคนด้วยนะครับ พูดจริงๆเขาก็อยู่กับความระทมมาพอสมควรแล้ว ขอความเมตตากับทุกคน เหมือนที่ทุกคนเมตตากับผม การที่มีวันนี้จริงๆมันกลายเป็นผลดีกับครอบครัวผมเพราะหลายๆคนเมตตากับผมขนาดนี้แล้ว ก็อยากให้ทุกคนเมตตากับลูกๆผมด้วย"
ก่อนหน้าหลายคนจะติดภาพเราเป็นเพศที่สาม แต่ตอนนี้การันตีว่าแมน เรามีลูก 2?
ไชยา: "ไม่ได้คิดอะไร แฮปปี้มีความสุขที่สุด การที่เรามีลูกผมก็ไม่จำเป็น...มีผู้ใหญ่หลายๆคนบอกว่าเออย่าเปลี่ยนนะ หมายถึงการเล่นหน้าเวที อย่าไปเปลี่ยนบุคลิกเป็นคนเข้มๆอะไรแบบนี้ ผมไม่ครับ ชีวิตผมมีความสุขกับตรงนี้แล้ว มีลูกสาวลูกชายน่ารัก มีครอบครัวอบอุ่น ฉะนั้นแฮปปี้ที่สุดแล้ว"
วันนี้เราเรียกพ่อได้เต็มปากแล้ว?
แป้ง: "จะบอกว่าตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเสียใจเลยที่มีพ่อเป็นไชยา มิตรชัย ดีใจด้วยซ้ำเพราะแป้งไม่เคยรู้สึกขาด จะบอกว่ารักพ่อมาก รักที่สุด (กอด)"
อัลบั้มภาพ 12 ภาพ