หนุ่มแชทพาสาวเข้าโรงแรม สบโอกาสปล้น ทำกับเหยื่อนับสิบ
ตำรวจบุกจับหนุ่มใหญ่ ใช้เสน่ห์-ลีลาการพูดแชทหลอกสาวเข้าโรงแรม เสร็จกิจพาขับรถส่ง ก่อนสบโอกาสชิงทรัพย์หนี สารภาพทำมา 2 ปี เหยื่อนับสิบ
(8 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ สภ.คลองข่อย จ.นนทบุรี พล.ต.ต.สุศักดิ์ ปรักกมะกุล ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.สมพล วงศ์ศรีสุนทร ผกก.สภ.คลองข่อย ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.อภิชาติ ทองแพ รอง ผกก.สส.สภ.คลองข่อย พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.คลองข่อย นำกำลังเข้าจับกุมตัว นายเจษฎา อายุ 42 ปี คนขับรถรับจ้างไม่ประจำทาง ตามหมายศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 205/2560 ลงวันที่ 2 พ.ค.60
พร้อมกับของกลางโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง, พระเครื่องเหลี่ยมทองจำนวน 5 องค์, นาฬิกาข้อมือจำนวน 1 เรือน สร้อยคอทองคำน้ำหนัก 1 บาท จำนวน 1 เส้น ที่ผู้ต้องหานำไปขาย และรถตู้โตโยต้า ไฮลักซ์ สีขาว ทะเบียน ฮภ7402 กทม.เป็นรถที่ใช้ก้อเหตุ โดยจับกุมตัวได้ที่ โรงแรมแม็กโนเลีย อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองข่อย ได้รับแจ้งเหตุลักทรัพย์ในเขตพื้นที่จำนวนหลายครั้ง โดยคนร้ายจะใช้ชื่อแฝงว่า นายวิน ไม่ทราบนามสกุล ใช้วิธีล่อลวงหญิงสาวที่มีรูปร่างอวบ อายุระหว่าง 30-45 ปี โดยมีการพูดคุยกันผ่านโซเชียลโปรแกรมบีทอล์ค จากนั้นได้ทำการนัดพบผู้หญิงที่เสียหายออกมาพบ
นายวินจะขับรถยนต์ตู้ของกลางไปรับหญิงสาวและพาเข้าโรงแรมม่านรูด เพื่อมีเพศสัมพันธ์กัน เมื่อออกจากโรงแรมม่านรูดคนร้ายจะขับรถตู้คันดังกล่าวเพื่อไปส่งหญิงสาว แต่คนร้ายจะวางอุบายแวะร้านสะดวกซื้อเพื่อให้หญิงสาวลงไปซื้อน้ำดื่มและอาหาร หญิงสาวจะวางกระเป๋าไว้
แต่หากหญิงสาวไม่วางกระเป๋าไว้ ก็จะพูดหว่านล้อมทำให้ฝ่ายหญิงเชื่อใจและวางกระเป๋าไว้ เมื่อผู้เสียหายเข้าไปในร้านสะดวกซื้อ ผู้ต้องหาก็จะขับรถหนีไปพร้อมทรัพย์สิน หลังจากได้ทรัพย์สินก็จะนำกระเป๋าถือพร้อมบัตรและเอกสารต่างๆ โยนทิ้งข้างทาง
โดยในเขตพื้นที่ สภ.คลองข่อย ก่อเหตุทั้งหมด 5 ครั้ง คือ ครั้งแรกเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2559 เหยื่อเป็นหญิงสาวผู้เสียหายอายุ 46 ปี ก่อเหตุที่ร้านสะดวกซื้อหน้าเทศบาลตำบลบางพลับ ต.บางพลับ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ได้ทรัพย์สินเป็นกระเป๋าถือพร้อมทรัพย์สิน
ครั้งที่สอง เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2559 เหยื่อเป็นหญิงสาวผู้เสียหาย อายุ 47 ปี ก่อเหตุที่ร้านสะดวกซื้อหน้าเทศบาลตำบลบางพลับ ต.บางพลับ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ได้ทรัพย์สินเป็นกระเป๋าถือพร้อมเงินสด ครั้งที่สาม เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2560 เหยื่อเป็นหญิงสาวผู้เสียหายอายุ 27 ปี ก่อเหตุหน้าร้านสะดวกซื้อหมู่บ้านประดับดาว ต.ท่าอิฐ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ได้เงินสด 12,800 บาท
ครั้งที่สี่ เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2560 เหยื่อเป็นหญิงสาว อายุ 37 ปี ก่อเหตุที่หน้าร้านสะดวกซื้อข้าโรงพยาบาลสัตว์ ถนนราชพฤกษ์ ต.บางพลับ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ได้ทรัพย์สินเป็นสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 1 บาทจำนวน 1 เส้น พระเหลี่ยมทองจำนวน 1 องค์ โทรศัพท์มือถือจำนวน 1 เครื่อง และเงินสดจำนวน 1,200 บาท
และครั้งล่าสุดในวันนี้ ขณะพาเหยื่อหญิงสาวผู้เสียหายอายุ 40 ปี เข้าโรงแรมม่านรูด ถนนราชพฤกษ์ ต.อ้อมเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พร้อมทรัพย์สิน โทรศัพท์มือถือจำนวน 3 เครื่อง ซึ่งก่อนทำการจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.คลองข่อย ได้วางแผนให้สายลับเฝ้าติดตามรถยนต์ตู้คันก่อเหตุที่ขับเข้ามาในโรงแรม เนื่องจากผู้ต้องหาก่อเหตุซ้ำในลักษณะเดียวกัน จนกระทั้งสายลับได้โทรศัพท์มาแจ้งว่ารถยนต์ตู้คันดังกล่าวได้เข้ามาในโรงแรมพร้อมหญิงสาว จึงได้นำกำลังเข้าจับกุมตัวได้พร้อมของกลางดังกล่าว
จากการสอบสวน นายเจษฎา ผู้ต้องหา ทราบว่าตนใช้วิธีติดต่อทางโปรแกรมผ่านโซเชียล ใช้เวลาพูดคุยประมาณ 1-2 สัปดาห์ หลังจากมีเพศสัมพันธ์กัน ก็แวะร้านสะดวกซื้อแล้วลักทรัพย์สินไป ทำมาประมาณ 10 กว่าครั้ง ทรัพย์สินที่ได้นำไปใช้ในชีวิตประจำวัน รถยนต์คันก่อเหตุเป็นของตนประมูลเข้าไปขับรถรับจ้างส่งพนักงานการไฟฟ้า
พ.ต.อ.สมพล วงศ์ศรีสุนทร ผกก.สภ.คลองข่อย กล่าวว่า จากการสอบสวนคนร้ายรับสารภาพว่าก่อเหตุในพื้นที่คลองข่อยมาแล้วรวม 5 ครั้ง ส่วนพื้นที่อื่นๆ ไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง เพราะทำมาราวๆ 2 ปีแล้ว อยากให้ผู้เสียหายที่ทราบรายละเอียดการจับกุมให้เข้ามาแจ้งความ และฝากเตือนสตรีที่ใช้โซเชียลติดต่อกับบุคคลอื่นเนื่องจากมีกลุ่มคนร้ายแอบแฝงมาในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะผู้ปกครองที่มีบุตรหลานควรระมัดระวังในการให้บุตรหลานใช้โซเซียลในลักษณะนี้
เบื้องต้นจากการสอบสวนผู้ต้อหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ก่อเหตุมาแล้วตั้งแต่ปี 2559 มากกว่า 10 ครั้ง ก่อเหตุบริเวณถนนราชพฤกษ์ โดยตั้งข้อกล่าวหาว่า ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม จึงได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสืบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป