เจอตัวแล้ว “ดาบตำรวจบางเขน” ชักปืนขู่ไฟแนนซ์
จากกรณีเมื่อวันที่ 6 พ.ค. 60 เพจเฟซบุ๊ก อยากดังเดี๋ยวจัดให้ V.4 โพสต์ข้อความพร้อมรูปภาพและคลิปวีดิโออธิบายเหตุการณ์ ของพนักงานเร่งรัดหนี้สินกำลังเข้าตรวจยึดรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแจ๊สคันหนึ่ง กระทั่งมีชายไม่ทราบชื่อไม่สวมเสื้อใส่แต่กางเกงขายาวสีครีม ไม่สวมรองเท้าเดินถือปืนออกจากบ้านหลังหนึ่ง และขึ้นไปที่นั่งคนขับ ก่อนขับรถคันดังกล่าวออกไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : แชร์ว่อน! ลูกหนี้เบี้ยวจ่าย 24 งวด ถือปืนขู่ทีมยึดรถ
ต่อมาวันที่ 7 พ.ค. 60 นางพัชรินทร์ และนางดาวรุ่ง หญิงที่ปรากฏในคลิป ซึ่งเป็นพนักงานเร่งรัดหนี้สินได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.คันนายาว เพื่อเอาผิดชายในคลิปซึ่งอธิบายไว้ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นวันที่ 5 พ.ค. ที่ผ่านมา ในหมู่บ้านตะวันนา ย่านสายไหม
ซึ่งได้เดินทางไปพร้อมทีมงานประมาณ 4 คน เพื่อเข้าไปทวงถามการค้างค่างวดผ่อนรถซึ่งไม่มีการจ่ายประมาณ 2 ปี ขณะที่ทำการพูดคุย หญิงดังกล่าวที่เป็นผู้ขับรถในขณะนั้นได้โทรเรียกสามีให้ออกมา ซึ่งชายดังกล่าวมีการพกพาอาวุธปืนดังกล่าวตามลักษณะในคลิป
ล่าสุด วานนี้ (8 พ.ค. 60) ที่ สน.คันนายาว พ.ต.อ.สิงห์ สิงห์เดช ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยความคืบหน้ากรณีดังกล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าชายที่ปรากฏในคลิป คือ ด.ต.เอกฉัตร สน.บางเขน จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่าวันเกิดเหตุ ด.ต.เอกฉัตร ได้ออกเวรจากการปฏิบัติหน้าที่และได้นอนพักผ่อนอยู่ภายในบ้านพัก
ต่อมา น.ส.นพวรรณ อายุ 34 ปี ภรรยาได้มาเรียกว่า มีคนมาล้อมปล้นจะเอารถไป ขณะที่ ด.ต.เอกฉัตร หลับอยู่จึงตกใจ ไม่รู้ว่าบุคคลที่เอารถมาเป็นใคร จึงนำปืนพกติดตัวไปด้วย โดยขณะที่ออกมาไม่ทราบว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวเป็นใคร
ไม่ทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากไฟแนนซ์จริงหรือไม่ เนื่องจากไม่มีการแจ้งเอกสารแสดงตน ด้วยความกลัวจึงได้ตัดสินใจนำปืนออกมาด้วย ซึ่งการจ่ายค่าผ่อนรถนั้นตนไม่ทราบว่าค่าดอกเบี้ยไฟแนนซ์ที่ภรรยาเลือกมันจะสูงถึงขนาดนี้ อีกทั้งให้เงินภรรยาไปจ่ายทุกเดือน
ขณะเดียวกันทาง น.ส.นพวรรณ ได้เข้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนในส่วนของคดีแพ่งที่มีการผิดสัญญาการซื้อขาย ซึ่งยอมรับว่ามาการขาดส่งจริง โดยทาง น.ส.นพวรรณ ระบุว่า พนักงานเร่งรัดหนี้สินไม่ได้แสดงบัตรแต่อย่างใด โดยได้ขอให้ทางพนักงานสอบสวนตรวจสอบว่ามีการติดตามยึดรถถูกต้องตามขั้นตอนหรือไม่ รวมถึงการโพสต์ข้อความประจานลูกหนี้ ผู้ทวงหนี้สามารถทำได้หรือไม่
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะทำการสอบสวนโดยละเอียดต่อไป