แม่ค้าหอยทอดแทบทรุด เจอหมายศาลสั่งฟ้อง 14 ล้านบาท

แม่ค้าหอยทอดแทบทรุด เจอหมายศาลสั่งฟ้อง 14 ล้านบาท

แม่ค้าหอยทอดแทบทรุด เจอหมายศาลสั่งฟ้อง 14 ล้านบาท
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แทบล้มทั้งยืน แม่ค้าหอยทอดข้างวัด ได้รับหมายศาลเรียกฟ้องฐานผิดสัญญาซื้อ เรียกฟ้องร้องกว่า 14 ล้านบาท เจ้าตัวเครียดจัด เชื่อน่าจะถูกแอบอ้าง ตำรวจก็ช่วยอะไรไม่ได้

(10 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องการร้องเรียนจาก พระสมุห์เจริญ คเวสโก เจ้าอาวาสวัดดอนมะโนรา ตำบลดอนมะโนรา อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม ว่า มีแม่ค้าขายหอยทอด วัย 50 ปี เปิดร้านขายอยู่ภายในเพิงร้านค้าบริเวณริมคลองของทางวัดกว่า 20 ปีแล้ว มีรายได้ต่อวันเพียง 400-500 บาท แต่ปรากฏว่าโดนหมายศาลเรียกฟ้องร้องจากบริษัทเอกชนรายหนึ่ง ฐานผิดสัญญาซื้อขาย เรียกใช้หนี้มูลค่ากว่า 14 ล้านบาท ร่วมกับจำเลยอีก 3 ราย นัดหมายให้ไปขึ้นศาลในวันที่ 26 มิถุนายนที่จะถึงนี้ ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปตรวจสอบ

ก่อนจะได้พบ นางกรรณิกา อายุ 50 ปี เป็นแม่ค้าขายหอยทอดที่เปิดร้านขายอยู่ภายในเพิงร้านค้าบริเวณริมคลองวัดดอนมะโนรา กำลังอยู่ในอาการเครียด จากการที่ต้องตกเป็นจำเลยร่วมกับบุคคลอื่นรวมเป็น 4 รายที่โดนบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ยื่นฟ้องต่อศาลแพ่งธนบุรี ในคดีฐานความผิดสัญญาซื้อขาย เรียกใช้หนี้มูลค่ากว่า 14 ล้านบาท ณ วันที่ 11 เมษายน 2560 โดยที่ศาลแพ่งธนบุรีได้ส่งหมายเรียกให้เพื่อกำหนดแนวทางการดำเนินคดีหรือสืบพยานโจทก์ วันที่ 26 มิถุนายน 2560 นี้

นางกรรณิกา เล่าว่า หลังจากที่ได้รับหมายศาลแล้วรู้สึกตกใจและเกิดอาการเครียดจัด จึงได้คุยปรึกษากับญาติพร้อมทั้งนำหมายศาลเข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรดำเนินสะดวก แต่กลับถูกพนักงานสอบสวนไม่รับแจ้งความดำเนินคดีพร้อมทั้งให้เหตุผลว่าเรื่องถึงชั้นศาลแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้ ต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล

ทำให้ตนเองต้องกลับมาทุกข์หนัก เพราะไม่มีปัญญาที่จะนำเงินไปใช้นี้ที่ถูกฟ้องร้องถึง 14 ล้านบาท และก็ไม่รู้ว่าตนเองไปเป็นกรรมการในบริษัทแห่งหนึ่งที่จังหวัดราชบุรีได้อย่างไร ซึ่งจากความเป็นจริง ตนเรียนจบเพียงแค่ชั้น ป.6 และยึดอาชีพขายหอยทอดมารวมแล้วกว่า 20 ปี และทางเจ้าอาวาสก็ได้เมตตาสร้างเพิงร้านค้าให้ขึ้นมาขายที่บริเวณริมครองมาจนถึงปัจจุบัน มีรายได้วันหนึ่งรวมทั้งทุนและกำไรก็จะตกวันละ 400-500 บาทเท่านั้น

ส่วนบ้านก็ต้องเช่าที่ดินของญาติอาศัยอยู่ คิดค่าเช่าปีละ 1,000-1,500 บาท โดยปลูกเป็นบ้านหลักเล็ก แค่พอพักอาศัยอยู่กับลูกชาย วัย 21 ปี ปัจจุบันไปเป็นทหารเกณฑ์ ส่วนสามีของตนเองได้เสียชีวิตไปเมื่อปี พ.ศ. 2537

นางกรรณิกา เล่าต่ออีกว่า ในหมายศาลที่ส่งมานั้น ทางบริษัทดังกล่าวมีที่อยู่ที่เขตบางบอน กรุงเทพมหานคร โดยทราบจากการดูเอกสารประกอบภายใน พบว่าเป็นบริษัทจำหน่ายค้าขายเหล็กเส้น เหล็กฉาก และเหล็กรูปพรรณต่างๆ ที่ใช้ในการก่อสร้าง หรือใช้ในงานอุตสาหกรรม ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกับบริษัทที่จังหวัดราชบุรี ที่ประกอบกิจการรขายส่ง-ปลีก วัสดุก่อสร้าง

รายละเอียดยังระบุว่า ทั้ง 2 บริษัทได้ทำสัญญาตกลงร่วมกัน เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2559 ถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2560 โดยได้ร่วมกันติดต่อซื้อสินค้าเหล็กเส้น เหล็กฉาก ท่อแบน และเหล็กรูปพรรณต่างๆ เพื่อนำไปจำหน่ายซึ่งได้มีการส่งมอบสินค้าที่สั่งซื้อรวมไปจำนวน 41 ครั้ง รวมเป็นจำนวนเงิน 14,073,929.62 บาท และมีการตกลงกันว่าจะต้องชำระค่าสินค้าภายในกำหนด 30 วัน นับแต่ได้รับสินค้าในแต่ละครั้ง

แต่ปรากฏว่ามีการผิดสัญญา ทำให้ฟ้องร้องและต้องชดใช้ค่าเสียหายพร้อมดอกเบี้ยอีกจำนวน 181,170.48 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 14,255,100.10 บาท พร้อมทั้งต้องชำระดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีของหนี้เงินจำนวนจริง ไปจนกว่าจะชำระหนี้ครบทั้งหมด

นางกรรณิกา กล่าวทั้งน้ำตาว่า หลังจากนี้ไม่รู้จะดำเนินการอย่างไร เพราะตนเองก็ไม่มีเงินที่จะไปสู้ความในคดี เพราะเงินจำนวนถึง 14 ล้านบาท ทุกวันนี้ตนเองก็แทบจะไม่มีเงินเก็บ ทำงานหาเช้ากินค่ำ ตนอยากจะขอความเมตตาและยืนยันว่าตนไม่รู้จักหรือข้องเกี่ยวกับบริษัทดังกล่าวแต่อย่างใด

และจากการที่มีชื่อตนไปปรากฏในเอกสารนั้น ก็ยังไม่รู้ว่าไปเป็นกรรมการในบริษัทได้อย่างไร น่าจะมีคนแอบนำบัตรประชาชนและเอกสารไปใช้แอบอ้าง เพราะที่ผ่านมาตนเองก็เพียงแค่นำเอกสารไปกู้ยืมเงินมาเพื่อลงทุนค้าขายเท่านั้นเอง

ทางด้าน พระสมุห์เจริญ. คเวสโก เจ้าอาวาสวัดดอนมะโนรา กล่าวว่า โยมกรรณิกา ที่ตกเป็นจำเลยนั้น หลังจากที่ได้รับเอกสารก็นำเข้ามาพูดคุยและปรึกษากัน อาตมาเห็นโยมตั้งแต่ยังไม่ได้บวชเป็นพระ จะเห็นพายเรือขายอยู่ภายในคลองหน้าวัด และเกิดสงสารและเห็นใจจึงได้สร้างเพิงให้ค้าขายกัน จึงไม่เชื่อว่าโยมกรรณิกาจะไปเป็นกรรมการหรือรู้จักกับคนในบริษัทนั้น เพราะยังเห็นค้าขายอยู่ที่นี่ทุกวัน รายได้ก็น้อยเพราะคนมาทำบุญที่วัดไม่ค่อยมากนัก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook