เหยื่อลูกหลง เผย ไร้การติดต่อจากฟอร์จูนเนอร์ชนจับกิ๊ก

เหยื่อลูกหลง เผย ไร้การติดต่อจากฟอร์จูนเนอร์ชนจับกิ๊ก

เหยื่อลูกหลง เผย ไร้การติดต่อจากฟอร์จูนเนอร์ชนจับกิ๊ก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (15 พ.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. พ.ต.ท.บุญยิ่ง บัณฑิตไทย สารวัตรเวรสอบสวน สภ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เรียกสอบผู้เสียหาย กรณีเหตุการณ์รถฟอร์จูนเนอร์ชนระนาว รวม 5 คัน เหตุเกิดบริเวณ ถนนรังสิต-นครนายก คลอง 4 ช่วงสะพานคลอง 4 ฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ หมู่ 2 ต.บึงยี่โถ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและรถยนต์ได้รับความเสียหายหลายคัน

 โดยทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกสอบสวนผู้เสียหายแล้ว จำนวน 3 ราย เป็นคนขับรถเบนซ์ 1 ราย ,คนขับรถเก๋ง 1 คัน และนางสาวสุคน อายุ 27 ปี เจ้าของรถเก๋ง รุ่นอแวนซ่า สีขาว อีก 1 คัน ยังคงเหลือ ผู้เสียหายอีก 1 ราย และ เจ้าของรถฟอร์จูนเนอร์ คู่กรณี ที่ยังไม่ได้เข้าพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

นางสาวสุคน อายุ 27 ปี เจ้าของรถเก๋ง รุ่นอแวนซ่า สีขาว  ผู้เสียหาย ให้การว่า ตนเองและเพื่อน ๆ รวม 5 คน ได้ไปเที่ยวที่ จ.นครนายก และกำลังขับรถกลับบ้าน ขณะนั้นจู่ ๆ รถฟอร์จูนเนอร์ได้ขับพุ่งเข้ามาอย่างจังที่ฝั่งซ้าย ทำให้เพื่อน ๆ ที่นั่งมาด้วยกันได้รับบาดเจ็บ

ซึ่งจังหวะนั้นตนเองก็ไม่ทราบเรื่องว่าเป็นเรื่องของการไล่ขับชนกันหรือไม่ ห่วงแต่ช่วยเหลือเพื่อนที่ได้รับบาดเจ็บกัน และก็ยังไม่ได้พูดคุยกับคู่กรณีแต่อย่างใด มีเพียงเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เรียกให้เข้าพบเพื่อให้ปากคำ ส่วนในเรื่องการชดใช้รับผิดชอบ ก็ยังไม่ได้รับการติดต่อใดๆ จากคู่กรณี

พ.ต.ท.บุญยิ่ง บัณฑิตไทย สารวัตรเวรสอบสวน สภ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เปิดเผย จากอุบัติเหตุดังกล่าว มีรถยนต์ที่ประสบเหตุทั้งหมด 5 คัน ผู้ได้รับบาดเจ็บอาการหนักที่สุด คือ ผู้หญิงที่นั่งมากับรถเบนซ์ สีขาว ที่โดนพุ่งชนเป็นคันแรก มีอาการกระดูกแขนหลุด ถูกนำตัวส่ง รพ.เปาโลรังสิต ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บรายอื่นๆ  ยังคงมีนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลบางประกอก 2 ราย และรายอื่น ๆ แพทย์ได้รักษาและให้กลับบ้านได้แล้ว

 ส่วนสาเหตุมาจากรถฟอร์จูนเนอร์สีดำ ที่พุ่งชนท้ายรถเบนซ์ สีขาว ทำให้รถเสียหลักหมุนไปชนรถร่วมทางคันอื่นมากมายนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้เข้าพบหรือให้การใดๆ กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งขณะนี้ได้เรียกสอบสวนทั้งสิ้น จำนวน 3 ราย ยังคงเหลือผู้เสียหายอีก 1 ราย และเจ้าของรถฟอร์จูนเนอร์สีดำ คันที่ก่อเหตุ  แต่ก็ได้นัดให้เข้าปากคำเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของประกันภัยเกี่ยวกับการชดใช้ค่าเสียหาย ขณะนี้ยังไม่ได้มีการชดใช้ใดๆ ให้กับผู้เสียหาย เนื่องจากอยู่ระหว่างการสอบสวนข้อเท็จจริงอย่างละเอียด และในส่วนของเรื่องความหึงหวงแล้วก่อเหตุนั้น ทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบสวนที่แน่ชัดอย่างละเอียด ว่ามีความเกี่ยวข้องกันหรือไม่

เพื่อในการพิจารณาการดำเนินการตั้งข้อหาเอาผิดกับคู่กรณีที่ก่อเหตุ ว่าเกิดจากความประมาท หรือจงใจ จนทำให้เกิดความเสียหาย จึงยังสรุปไม่ได้  แต่เบื้องต้นความผิดเข้าข่ายการขับรถโดยไม่คำนึงความปลอดภัยกับบุคคลในท้องถนน สามารถดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายได้ ส่วนข้อหาอื่น ๆ อยู่ระหว่างการพิจารณาต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook