พ่อค้ามือถ่ายใต้กระโปรงนักเรียน แฟนสาวรู้รับไม่ได้-ตบผัวะ!

ตำรวจเชียงใหม่จับพ่อค้าเสื้อผ้า มือแอบถ่ายคลิปใต้กระโปรงนักเรียนหญิง สารภาพน่ารักเกินอดใจไม่ไหว แฟนสาวรู้ตามมาตบบ้องหูถึงโรงพัก 

จากกรณีก่อนหน้านี้กลุ่ม @191Chiangmai ในแชทไลน์ ได้เผยแพร่คลิปภาพเตือนภัยและตามหาเบาะแสชายหนุ่มคนหนึ่งที่แอบถ่ายใต้กระโปรงนักเรียนหญิง 2 คน ขณะกำลังเลือกซื้อหนังสืออยู่ภายในร้านหนังสือในศูนย์การค้าแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ขณะที่หลังได้รับแจ้ง ชุดสืบสวน สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ ได้ออกติดตามหาชายที่ปรากฏพฤติกรรมในภาพ โดยติดตามเดินภาพจากกล้องวงจรปิดภายในศูนย์การค้าดังกล่าวและเส้นทางที่คาดว่าจะหลบหนี

ล่าสุดช่วงบ่ายวันนี้ (22 พ.ค.) พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ชุดสืบสวน สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ ได้จับกุมผู้ต้องหารายนี้ได้แล้ว คือ นายสุดเขต อายุ 39 ปี พ่อค้าขายเสื้อผ้ามือสอง โดยจับกุมได้คาห้องพักในอพาร์ตเม้นท์แห่งหนึ่ง ฝั่งตรงข้ามกับศูนย์การค้าที่เกิดเหตุ พร้อมของกลางเป็นโทรศัพท์มือถือที่ใช้ก่อเหตุและคอมพิวเตอร์โนตบุ๊ค 1 เครื่อง

จากการสอบสวน นายสุดเขต สารภาพว่า ในวันที่เกิดเหตุได้เข้าไปเดินเล่นในศูนย์การค้า และพบผู้เสียหายเป็นเด็กนักเรียนหญิงหน้าตาน่ารัก จึงอดใจไม่ไหวเดินตามหาจังหวะถ่ายคลิปใต้กระโปรง โดยบอกว่าทำเป็นครั้งแรก แต่หลังจากนั้นปรากฏว่าสื่อได้นำเสนอข่าวในเรื่องนี้ จึงกลัวความผิด ลบคลิปที่เก็บไว้ในโทรศัพท์มือถือทั้งหมด กระทั่งถูกตามมาจับกุมได้ถึงห้องพัก พร้อมยืนยันว่าถ่ายไว้เพื่อเก็บไว้ดูคนเดียว ไม่ได้นำไปเผยแพร่ต่อแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวยังรายงานว่า ภายหลังจากการจับกุม ปรากฏว่าแฟนสาวของนายสุดเขต ทันทีที่ทราบข่าวพฤติกรรมของแฟนหนุ่ม ก็เกิดบันดาลโทสะ เดินปรี่เข้าไปตบ นายสุดเขต ด้วยความโมโหและเอือมระอากับพฤติกรรมน่าขยะแขยงครั้งนี้เป็นอย่างมาก

พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ กล่าวว่า ผู้ต้องหารายนี้ถูกเปรียบเทียบปรับในข้อหาก่อความเดือดร้อนรำคาญในที่สาธารณะและกระทำด้วยประการใดๆ ต่อผู้อื่นให้ได้รับความอับอายหรือเดือดร้อนรำคาญ คดีละ 5,000 บาท รวม 2 คดี 10,000 บาท ก่อนทำประวัติและปล่อยตัวไป

อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมดังกล่าวถือเป็นภัยสังคมร้ายแรง ทำให้ พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 สั่งให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาด โดยหลังจากนี้จะไม่มีการเปรียบเทียบปรับที่โรงพัก แต่ตำรวจจะส่งฟ้องศาลเพื่อดำเนินคดีเพื่อให้หลาบจำและมีประวัติติดตัวไม่ไปก่อเหตุซ้ำอีก

ทั้งนี้ยังเตือนภัยสังคมให้กับหญิงสาว ให้สังเกตพฤติกรรมผิดปกติ เช่นเดียวกับนักเรียนหญิงผู้เสียหายรายนี้ที่มีไหวพริบ แจ้งเจ้าหน้าที่ทันทีหลังจากเกิดเหตุ ทำให้จับกุมผู้ต้องหาได้โดยเร็ว