ตั้งเจ้าคณะอำเภอดูแลวัดเจ๊ดาว พร้อมสั่งระงับขนย้ายทรัพย์สิน
รองเจ้าคณะจังหวัดตั้งเจ้าคณะอำเภอดูแลวัด พร้อมสั่งระงับขนย้ายทรัพย์สินชั่วคราวเพื่อตรวจสอบบัญชี พระตุ๊ดระดับเจ้าอาวาสครวญสื่อเสนอด้านดีบ้าง ขณะที่กลุ่มเชียงใหม่อารยะหนุนต้อนพระตุ๊ดเณรแต๋วปรับพฤติกรรม
(9ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศวันมาฆบูชาที่วัดศรีบุญเรือง ต.ในเวียง อ.เมือง จ.ลำพูน ภายหลังอดีตพระครูวิจิตรสรการ หรือ "เจ๊ดาว" ลาสิกขาบทพ้นจากวงการสงฆ์ ในช่วงเช้ายังมีศรัทธาในชุมชนเข้าไปทำบุตรตักบาตร แต่บางตากว่าครั้งที่อดีตพระครูยังเป็นเจ้าอา วาส โดยมีพระลูกวัดคอยให้พรเพียงรูปเดียว ส่วนในช่วงเย็นซึ่งปกติจะมีการเวียนเทียน ในปีนี้ทางวัดได้งดพิธีดังกล่าว โดยอ้างว่ากำลังมีการก่อสร้างวิหารทำให้ไม่สะดวกในเรื่องของสถานที่
ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบทรัพย์สินของวัด ซึ่งปรากฏว่ายังมีการทยอยขนของออกอย่างต่อเนื่องนั้น ล่าสุดวันนี้(9ก.พ.) พระราชปัญญาโมลี รองเจ้าคณะจังหวัดลำพูน ระบุว่าได้มอบให้พระครูวิสิฐปัญญากร เจ้าคณะอำเภอเมืองลำพูน เข้าดูแลวัดศรีบุญเรืองเป็นการชั่วคราวระหว่างพิจารณาสรรหาเจ้าอาวาสรูปใหม่ พร้อมทั้งสั่งให้ชะลอการขนย้ายทรัพย์สินทุกชนิดออกไปจากวัดเพื่อตรวจสอบให้ชัดเจนว่าส่วนไหนเป็นของวัด ส่วนไหนเป็นของส่วนตัว ส่วนทรัพย์สินที่หายไปจากวัดก็จะต้องติดตามเอาคืน
รองเจ้าคณะจังหวัดลำพูน กล่าวว่า วัดศรีบุญเรืองมีพื้นที่ประมาณ 2 ไร่เศษ วัดนี้ไม่มีผลกระโยชน์จากธรณีสงฆ์หรืออาคารร้านค้า แต่จะได้จากกฐิน ผ้าป่าและการทำบุญของญาติโยม ซึ่งทำให้ตรวจสอบได้ลำบาก แต่ก็ต้องทำตามระเบียบ อย่างไรก็ดีที่ผ่านมาก็เห็นว่าเงินที่เข้าวัดถูกนำไปใช้บูรณะปฏิสังขรวิหาร เจดีย์ กำแพง รั้ววัดมาโดยตลอด
นายเดชธรรม กรรมสิทธิ์ ปลัดเทศบาสตำบลศรีเตี้ย อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน หนึ่งในลูกศิษย์อดีตพระครูวิจิตรสรการ กล่าวว่า หลังจากลาสิกขาบทที่วัดศรีเตี้ย ก็ไม่พบตัวอดีตพระครูอีก แต่คาดว่าจะพักสงบจิตสงบใจกับคนในครอบครัว ส่วนข่าวเรื่องเงินทองของวัด ส่วนตัวแล้วไม่ทราบว่าจะมีการนำเงินไปใช้เป็นการส่วนตัวจริงหรือไม่ หรือมากน้อยเท่าไหร่ ขณะที่ฐานะทางบ้านซึ่งมีอาชีพหลักเป็นเกษตรกรปลูกลำไยดูแล้ว ก็ไม่ได้ร่ำรวยจากเดิมมากนัก
ด้านนายวัลลภ นามวงศ์พรหม กรรมการสภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงการนำเสนอข้อมูลพระตุ๊ดเณรแต๋วว่า ได้ส่งผลกระทบต่อความศรัทธาของประชาชนเป็นวงกว้างทั้งในจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูนและในจังหวัดอื่น ๆ ซึ่งทำให้พระ เณรถูกจับตามองด้วยความรู้สึกอื่นที่ไม่ใช่ความศรัทธาในฐานะสาวกของพระพุทธเจ้า
ทั้งนี้ยอมรับว่าอาจมีภิกษถุสามเณรจำนวนหนึ่งที่มีพฤติกรรมดังกล่าวจริง แต่ก็เป็นส่วนน้อย แต่การนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนทำให้ถูกเหมารวมไปทั้งสถาบัน โดยส่วนตัวแล้วเห็นว่ามีวิธีแก้ปัญหาที่ไม่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมได้ โดยผู้ที่มีข้อมูล อาจแจ้งไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาเพื่อชี้เป้าให้พระปกครองเข้าตรวจสอบและแก้ไขเป็นราย ๆ ไป ซึ่งวิธีนี้จะเป็นการปกป้องพุทธศาสนาโดยไม่มีผลกระทบ
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ไปหากเป็นไปได้อาจเชิญพระสงฆ์สามเณรที่มีพฤติกรรมเข่าข่ายเข้ารับการอบรมเพื่อปรับพฤติกรรม โดยให้ประธานกลุ่มเกย์การเมือง ไทยเป็นวิทยากร
นายนที ธีระโรจนพงษ์ เลขานุการกลุ่มเชียงใหม่อารยะ ออกมาสนับสนุน แนวคิดเชิญพระตุ๊ดเณรแต๋วในจังหวัดเชียงใหม่หรือลำพูนเข้ารับการอบรม โดยระบุว่า ตนเองหรือผู้อื่นที่มีองค์ความรู้พร้อมที่จะรับใช้สังคมด้วยการเป็นวิทยากร แต่เชื่อว่าการเชิญภิกษุสามเณรเหล่านี้คงจะยาก เพราะคงไม่มีใครต้องการเปิดเผยตัวเอง โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่กระแสสังคมกำลังแรง
อย่างไรก็ตามหลังออกมาเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ มีหลายคนที่เข้าใจผิดและ โกรธแค้น โดยเฉพาะกลุ่มที่ได้รับผลกระทบ ทำให้ในช่วงนี้ต้องเก็บตัวเพราะเกรงว่าอาจ ไม่ปลอดภัยได้ แต่ยืนยันว่าการออกมาเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ไม่มีผลประโยชน์อะไรให้หวัง เพียงแต่คิดว่าปัญหาที่เกิดขึ้นถูกละเลยมานาน และในฐานะอุบาสกคนหนึ่งคิดว่าถึง เวลาแล้วที่จะต้องชำระฝุ่นใต้พรมที่สะสมมานาน ทั้งนี้เพื่อจรรโลงพุทธศาสนาเป็น สำคัญ
พระครูชั้นโท เจ้าอาวาสกระเทยที่วัดแห่งหนึ่ง กล่าวว่า แม้พระกระเทยจะมีอยู่จนเป็นเรื่องปกติ แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นครั้งนี้ได้สั่นสะเทือนวงการพระกระเทยเป็นอย่างมากเพราะทำให้พระกระเทยดี ๆ ต้องเสียหาย ทั้งนี้อยากให้มองพระกระเทยในมุมมองด้านดีบ้าง โดยต้องยอมรับความจริงว่าพระกระเทยไม่น้อยที่ใช้ความรู้ความ สามารถพัฒนาวัด พัฒนาคน หลายรูปที่เทศน์เก่งจนเป็นที่ยอมรับ ซึ่งพระกลุ่มนี้ต้องเรียกว่าน่ายกย่องด้วยซ้ำเพราะแม้จิตใจจะเป็นกระเทยแต่ก็ครองตนในจริยวัตรที่เหมาะสม
กระนั้น ข่าวที่ออกมาเป็นการเสนอข่าวในเชิงลบกับพระกระเทยเพียงด้านเดียว จึงอยากให้สื่อไปตรวจสอบวัดที่มีเจ้าอาวาสเป็นกระเทยแต่เป็นที่ยอมรับของ คนในชุมชนบ้างเพื่อเปิดมุมมองใหม่ ๆ