ตร.นับร้อยคุมตัวผู้ต้องหาข่มขืนนศ.แม่โจ้ทำแผน

ตำรวจเชียงใหม่นับร้อยนาย ตรึงกำลังคุมตัวผู้ต้องหาข่มขืน นศ.แม่โจ้ ทำแผนฯ ด้านนักศึกษายังเดือด ทราบข่าวฮือปิดล้อมวิ่งตามรถตำรวจวุ่น ผู้ต้องหาหวิดถูกรุมสกรัม

ความคืบหน้าคดีฆ่าข่มขืน น.ส.วิไลรัตน์ กุจะพันธ์ อายุ 22 ปี นักศึกษาคณะบริหารธุรกิจ สาขาการบัญชี ชั้นปีที่ 3 มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จ.เชียงใหม่ ซึ่งตำรวจจับกุมคนร้ายได้ 1 รายเป็นคนงานก่อสร้างชาวไทยใหญ่ สัญชาติพม่าและยังหลบหนีอีก 1 คนนั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 09.30น.วันที่ 10 ก.พ.2552 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สันทราย ร่วมกับเจ้าหน้าที่ นปพ.ตำรวจภูธร จ.เชียงใหม่ รวมกันกว่า 100 คน ได้นำตัวนายไชย หรือจายบึก อายุ 22 ปี ชาวไทยใหญ่ สัญชาติพม่า ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมเดินทางไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังที่เกิดเหตุทั้งที่แคมป์ที่พักคนงานก่อสร้างด้านหลังหอพักอัญชลี ซึ่งเป็นจุดที่คนร้ายนัดพบกัน รวมทั้งภายในห้องพักหมายเลข 405 ในหอพักอัญชลีที่คนร้ายข่มขืนฆ่าผู้ตาย

สำหรับการทำแผนประกอบคำสารภาพครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ใช้เวลาอย่างรวดเร็วไม่ถึง 5 นาที โดยมีการวางกำลังตำรวจส่วนใหญ่ไปปิดกั้นที่ปากซอยทางเข้าหอ และโดยรอบจุดทำแผน เพื่อป้องกันนักศึกษาไม่ต่ำกว่า 300 คน ไม่ให้เข้ามารุมประชาทัณฑ์ผู้ต้องหาได้ จากนั้นรีบพาตัวผู้ต้องหาขึ้นรถหลบออกไปอีกทาง ซึ่งนักศึกษาที่ฝ่าด่านเจ้าหน้าที่เข้ามาได้กลุ่มหนึ่ง ได้พากันวิ่งตามรถตำรวจ แต่ไม่ทัน ทำให้นายไชย ผู้ต้องหารอดพ้นจากการถูกรุมประชาทัณฑ์ไปได้อย่างหวุดหวิด

ต่อมาในเวลา 10.30 น.วันเดียวกัน ตัวแทนนักศึกษามหาวิทยาลัยแม่โจ้ กว่า 50 คน นำโดยนายพิษณุ โภคาพานิช นายกสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้พากันเดินทางไปยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ที่หน้าศาลากลางจังหวัด โดยหนังสือดังกล่าวมีข้อความเรียกร้องให้หน่วยงานจังหวัดที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการกวาดล้างจับกุมแรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมายอย่างจริงจัง โดยมีนายไพโรจน์ แสงภู่วงษ์ รองผู้ว่าราชการจ.เชียงใหม่เป็นผู้รับเรื่อง

นายพิษณุ โภคาพานิช นายกสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุสะเทือนขวัญกรณีคนงานก่อสร้างต่างด้าวบุกเข้ามาก่อเหตุฆ่าข่มขืนนักศึกษาในหอพักย่านมหาวิทยาลัย ทางกลุ่มนักศึกษาจึงขอเรียกร้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการแก้ปัญหาแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงงานในจ.เชียงใหม่และประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย ทั้งการนำเข้ามาและการว่าจ้างของผู้ประกอบการทั้งภาครัฐและเอกชน

เนื่องจากที่ผ่านมาหากเกิดกรณีแรงงานต่างด้าวก่ออาชญากรรมตำรวจก็ไม่สามารถที่จะไปติดตามจับกุมผู้กระทำผิดซึ่งไม่มีการขึ้นทะเบียนไว้ได้ หรือหากผู้ประกอบการจะมีการจ้างแรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงานย่านชุมชนก็ควรที่จะงดเว้นการสร้างแคมป์คนงานนำแรงงานต่างด้าวเข้ามาพักอาศัยในย่านชุมชน ควรที่จะรับเข้ามาทำงานพอตกเย็นก็พากลับไปพักในแคมป์คนงานที่สร้างอยู่นอกชุมชนจึงจะเหมาะสม

ทั้งนี้ หลังจากยื่นเรื่องร้องเรียนไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดในครั้งนี้ไปแล้ว หากหลังจากนี้ยังพบว่า มีการว่าจ้างแรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมายใน จ.เชียงใหม่ หรือปัญหายังไม่ได้รับการแก้ไขทางนักศึกษาจะทำหนังสือร้องรียนเสนอต่อผู้บริหารในระดับประเทศอีกเพื่อให้เร่งดำเนินการแก้ปัญหาต่อไป

ด้านนายไพโรจน์ แสงภู่วงษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้กล่าวรับปากหลังรับมอบหนังสือร้องเรียนกับกลุ่มนักศึกษาว่าจะเร่งดำเนินการ โดยภายใน 1-2 วันหลังจากนี้จะนำเจ้าหน้าที่ส่วนงานที่เกี่ยวข้องทั้งแรงงานจังหวัด ตำรวจคนเข้าเมืองเข้าไปลงพื้นที่ตรวจสอบด้วยตัวเอง

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัด กลุ่มนักศึกษายังได้เดินทางไปยื่นหนังสือเรียกร้องในเรื่องเดียวกันที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 และที่กองบังคับการตำรวจภูธร จ.เชียงใหม่ในข้อร้องเรียนเรื่องเดียวกัน

ส่วนความคืบหน้าการติดตามคนร้ายอีกรายคือนายนุ้ย ชาวไทยใหญ่สัญชาติพม่า อายุ 22 ปีอีกรายที่ร่วมกับนายไชย รุมฆ่าและข่มขืนผู้ตายนั้น ขณะนี้ตำรวจได้ให้พยานบุคคล2-3 รายซึ่งเป็นแรงงานต่างด้าวซึ่งรู้จักกับนายไชย ผู้ต้องหาที่หลบหนีมาเสก็ตช์ภาพใบหน้า รวมทั้งประสานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองกระจายกำลังไปติดตามไล่ล่าแล้วเพื่อที่จะเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด