DSI บินมุมสูง-ค้นคฤหาสน์หรู อยู่บนสันเขารุกป่าสงวน
DSI ตรวจค้นคฤหาสน์หรูเศรษฐีใหญ่จังหวัดภูเก็ตบนสันเขากลางป่าสงวนแห่งชาติป่าควนโต๊ะหลา จังหวัดพังงา พบมีการบุกรุกจริงตามข้อร้องเรียน
เมื่อวานนี้ (9 มิ.ย.) ที่ห้องประชุมตำรวจภูธรภาค 8 จังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์ศรีนิล พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ นายพิเชฏฐ์ ทองศรีนุ่น หัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ป่าไม้ ได้ร่วมกันแถลงข่าวกรณีนำหมายศาลจังหวัดพังงาเข้าตรวจค้นบ้านพักจำนวน 2 หลัง
โดยเป็นบ้านไม่มีเลขที่ ต.คลองเคียน อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา ตั้งอยู่บน รส3 ก. เลขที่ 1281 เลขที่ดิน 14 67 และพื้นที่นส3 ก.ตามระหว่างที่ดินหมายเลข 4625 แผนที่ 50 เลขที่ดิน 12 13 14 15 18 19 21 22 23 24 28 66 67 เหลือ 68 ตามแผนที่สังเขปและยึดสิ่งของการทำให้เสียหายไว้เพื่อสาธารณะประโยชน์รวมทั้งเอกสารหลักฐานที่ ใช้ในการกระทำความผิดและหลักฐานอื่นๆ ตามนโยบายในการรักษาความมั่นคงของฐานทรัพยากรและการสร้างสมดุลระหว่างการอนุรักษ์กับการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนของรัฐบาล
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปราบปรามการบุกรุกที่ดินของรัฐโดยให้เร่งดำเนินการป้องกันและปราบปรามอย่างเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนและต่อเนื่อง สำหรับเรื่องนี้กระทรวงยุติธรรมได้รับการร้องเรียนจากเครือข่ายกลุ่ม อันดามันกรณีมีผู้มีอิทธิพลหลายกลุ่มได้บุกรุกทำลายทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตและพังงาร่วมกับเจ้าหน้าหน้าที่ของรัฐที่มีการออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบ
จากการตรวจสอบเบื้องต้นปรากฏพบว่าในพื้นที่จังหวัดพังงามีการปลูกสร้างบ้านพักขนาดใหญ่จำนวน 2 หลังตั้งอยู่บนสันเขาที่เป็นเทือกเขาสูงสามารถมองเห็นเกาะภูเก็ตและอ่าวพังงาอยู่ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าควนโต๊ะหลาและแหลมชำซึ่งประกาศเป็นเขตป่า สงวนแห่งชาติเมื่อปี พ.ศ. 2527
โดยก่อนหน้านี้ประกาศเป็นป่าตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2504 โดยมีการสร้างถนนส่วนบุคคลเชื่อมต่อจากเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1004 จำนวน 1 เส้นทาง ระยะทางประมาณ 2.8 กิโลเมตรเพื่อใช้เดินทางเข้ามายังบ้านพัก
และพบว่าบริเวณตัวบ้านและบริเวณข้างเคียงเดิมมีการออกเอกสารสิทธิ์ในที่ดินเป็ นน.ส.3 ก. เลขที่ 1281 แปลงเดียวเนื้อที่ 39 ไร่ ทับพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าควนโต๊ะหลา ครอบคลุมภูเขาทั้งลูกต่อมาได้มีการแบ่งแยกเป็น 14 แปลงหลักและได้มีการรวมแปลงและแบ่งแยกที่ดินออกไปอีกจำนวนหลายแปลงซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าเป็นการออกโดยการเดินสำรวจ ในช่วงปี พ.ศ. 2520 โดยไม่มีหลักฐานของที่ดินเดิมและอ้างว่าปลูกสวนผลไม้มาประมาณ 33 ปี
จากการอ่านแปลวิเคราะห์ภาพถ่ายทางอากาศพบว่าในปีพ.ศ. 2510 และพ.ศ. 2519 พื้นที่ดังกล่าวมีสภาพเป็นป่า 100% ไม่พบร่องรอยการทำประโยชน์จึงเป็นการแจ้งข้อความอันเป็นเท็จอีกทั้งกฎกระทรวงฉบับที่ 5 ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 ห้ามออกเอกสารสิทธิ์ในที่เขาหรือภูเขาและในเขตที่สงวนหวงห้ามของรัฐการออก นส.3 ฉบับดังกล่าวจึงเป็นการออกโดยไม่ชอบด้วยกฏหมายผู้ที่ครอบครองจึงอยู่ในฐานะของผู้ที่บุกรุกที่ดินของรัฐ ป่า และป่าสงวนแห่งชาติซึ่งจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ซึ่งกลุ่มบุคคลดังกล่าวถือว่าเป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตและจังหวัดพังงาซึ่งมีทั้งภาคเอกชนและเจ้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้องกับการออกเอกสารสิทธิ์ในครั้งนี้นอกจากนี้ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตและจังหวัดพังงา
พันตำรวจเอกไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษดี กล่าวว่าได้สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่จากกองพลทหารราบที่ 5 เเละกรมป่าไม้นำหมายศาลของศาลจังหวัดพังงาเข้าตรวจค้นบ้านพักซึ่งตั้งอยู่บนสันเขาในเขตป่าสงวนแห่งชาติที่ควนโต๊ะหลาและป่าแหลมซำ อยู่ในท้องที่ตำบลคลองเคียนอำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา
โดยมีข้อสงสัยว่ามีการบุกรุกยึดถือครอบครองทำประโยชน์ก่อสร้าง หรืออยู่อาศัยและออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบการดำเนินคดีกับผู้บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ และที่ดินของรัฐทุกประเภท ถือเป็นนโยบายที่สำคัญของรัฐบาลที่กรมสอบสวนคดีพิเศษหน่วยทหารกรมป่าไม้และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถือเป็นภารกิจสำคัญ ถือเป็นภารกิจที่จะต้องทวงคืนเอาแผ่นดินดังกล่าวกลับคืนมาเป็นของรัฐ
พร้อมกับดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดอย่างเด็ดขาดสำหรับผู้กระทำผิดรายนี้ ซึ่งเป็นนายทุนรายใหญ่ ที่มีฐานะร่ำรวยในระดับต้นต้นของจังหวัดภูเก็ ตมีพฤติการณ์ในการบุกรุกที่ดินของรัฐในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตและจังหวัดพังงา และร่ำรวยจากการค้าขายที่ดินที่ผิดกฎหมายมีค่าดีกว่าอยู่กับกรมสอบสวนคดีพิเศษ ทั้งที่อยู่ในชั้นศาลและอยู่ระหว่างดำเนินคดีซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษจะบังคับใช้มาตรการทางกฎหมายและมาตรการด้านกฎหมายฟอกเงินเข้าไปดำเนินการอย่างเต็มรูปแบบกับบุคคลดังกล่าวต่อไป
อัลบั้มภาพ 8 ภาพ