จับคาโรงแรม สมภารมั่วสีกา

จับคาโรงแรม สมภารมั่วสีกา

จับคาโรงแรม สมภารมั่วสีกา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตร.น่านจับสึกโล้นในคราบผ้าเหลือง ยังไม่ละกิเลสพาสาวเข้าโรง แรมกลางวันแสกๆชาวบ้านเห็นสุดทน แจ้งตำรวจเข้าไปตรวจสอบ หลังเคาะประตูเจอสาวเปลือยกายวิ่งหนีเข้าห้องน้ำ ต้องเกลี้ยกล่อมจึงยอมออกมา ส่วนสมีเป็นถึงระดับเจ้าอาวาสและเลขาฯเจ้าคณะตำบล ตำรวจพาไปให้เจ้าคณะจังหวัดสึกทันที ส่วนที่เลยจับพระ 2 รูปทั้งค้าทั้งเสพยาบ้า

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 12 ก.พ. พ.ต.ท.สมศักดิ์ ผิวสลิด สว.สส.สภ.เมืองน่าน ร.ต.ท.พิชัย บังเมฆ รอง สว.สส.สภ.เมืองน่าน และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจำนวนหนึ่ง เข้าตรวจห้องพักหมายเลข 207 ที่โรงแรมน่านฟ้า ซึ่งเป็นโรงแรมดังกลางเมืองน่าน ถ.สุมนเทวราช ต.ในเวียง หลังรับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่า มีพลเมืองดีพบเห็นพระภิกษุพาผู้หญิงสาวไปเปิดห้องที่โรงแรมดังกล่าว

เบื้องต้นสอบถามผู้ดูแลโรงแรมพบว่ามีเรื่องดังกล่าวจริง จากนั้นผู้ดูแลจึงนำเจ้าหน้าที่ตำรวจไปที่ห้องดังกล่าว โดยทำทีให้แม่บ้านของโรงแรมเคาะประตูส่งอาหาร หลังจากนั้นมีชายหัวโล้นนุ่งผ้าเช็ดตัวสีขาวแง้มประตูออกมา ตำรวจจึงผลักประตูกรูเข้าไป พบหญิงสาวเปลือยกายอยู่ใต้ผ้าห่ม พอเห็นตำรวจหญิงสาวคนดังกล่าวรีบกระโดดจากเตียงวิ่งเข้าห้องน้ำ เจ้าหน้าที่จึงเรียกแต่ไม่ยอมส่งเสียงขานรับ ผู้ดูแลอนุญาตให้พังเข้าไปได้

แต่เจ้าหน้าที่พูดเกลี้ยกล่อม จนยอมเปิดประตูออกมา พบเป็นหญิงสาวอายุประมาณ 27 ปี สวมกางเกงขายาวสีดำ เสื้อสีม่วง เสื้อคลุมสีครีม พยายามขัดขืนเพื่อหลบหนี จนเกิดการยื้อยุดฉุดแย่งกันชุลมุนวุ่นวาย สอบถามหาบัตรประชาชนอ้างว่าไม่มี เมื่อสอบถามหญิงคนดังกล่าวบอกสั้นๆ ว่า เป็นเด็กอยู่ร้านอาหารมาหาพระเท่านั้น จึงตรวจค้นในกระเป๋าพบเงินสด 4,000 บาท ส่วนชายโล้นกำลังรีบสวมใส่ผ้าสบงจีวรพัลวัน และเข้าตรวจพบหลักฐานเป็นใบสุทธิระบุชื่อพระบุญตัน เขยตุ้ย บวชมาแล้ว 28 พรรษา เป็นเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ไทร ต.ยม อ.ท่าวังผา จ.น่าน และเป็นเลขาฯ เจ้าคณะตำบลยม บรรพชาที่วัดโพธิ์ไทร ต.ยม อ.ท่าวังผา จ.น่าน ในปี 2524 อุปสมบทเมื่อปี 2528 ที่วัดศรีมงคล ต.ยม อ.ท่าวังผา จ.น่าน ด้วย พระบุญตันยอมรับว่า ก่อนหน้านี้ถอนเงิน 4,000 บาท จากบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาน่าน มาให้หญิงคนดังกล่าวจริง

เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.เมืองน่าน พระบุญตันให้การว่า ขณะบวชอยู่วัด เป็นผู้ที่มีความสนใจเรื่องเทคโนโลยี จนมีความชำนาญด้านคอมพิวเตอร์ ชอบเล่นแช็ตคุยกับสาวๆ ทางอินเตอร์เน็ต โดยรู้จักและติดต่อกันทางโทรศัพท์ และส่งเอส เอ็มเอสหากันบ่อยๆ จนได้รู้จักกับหญิงสาวคนดังกล่าวซึ่งเป็นชาว อ.ทุ่งช้าง จ.น่าน ทำงานอยู่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง จากนั้นได้แช็ตและโทรศัพท์จีบกันเรื่อยมา จนกระทั่งเช้าวันนี้ได้นัดหมายหญิงสาวมาที่โรงแรมดังกล่าว โดยได้กดเงินจากตู้เอทีเอ็มให้หญิงสาว 4,000 บาท ก่อนจะมีความสัมพันธ์ทางเพศร่วมกันจนสำเร็จความใคร่ 1 ครั้ง แล้วที่นอนรอเวลาเพื่อจะต่ออีกรอบก็มีตำรวจมาจับกุมดังกล่าว

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ปล่อยตัวหญิงคนดังกล่าวไป และนำตัวพระบุญตันไปให้พระธรรมโสภณ เจ้าคณะจังหวัดน่าน ทำพิธีสึก โดยมีรองเจ้าคณะจังหวัด และเจ้าคณะอำเภอเมืองน่าน พร้อมรอง สว.สส.สภ.เมืองน่าน เซ็นเป็นพยาน

เจ้าคณะจังหวัดกล่าวว่า ต้องฝากถึงพี่น้องประชา ชนให้ช่วยกันดูแลจรรโลงพระศาสนา ทุกวันนี้สิ่งต่างๆ เปลี่ยนไป ความเจริญมีมากขึ้น พระสงฆ์ที่หลงใหลกับสิ่งอบายมุขก็ยังมีอยู่ เพียงแต่ยังไม่เป็นข่าว แต่อย่างไรก็ตามขอให้ช่วยแจ้งเบาะแสความประพฤติของพระภิกษุ สามเณรที่ไม่อยู่ในระเบียบวินัย เพื่อให้ศาสนาพุทธเป็นที่เคารพบูชา และเป็นศาสนาประจำชาติอย่างแท้จริง

อีกราย วันเดียวกัน เวลา 16.00 น. พ.ต.ท.ธนูศิลป์ มะโรนีย์ รอง ผกก.สส.ภ.จว.เลย พ.ต.ท.สุจินต์ นาวาเรือง รอง ผกก.สภ.ด่านซ้าย จ.เลย ไปที่วัดบ้านฟากนา ต.นาอาน อ.เมือง หลังสืบทราบว่าที่วัดดังกล่าวมีพระภิกษุลักลอบขายยาบ้าให้แก่บรรดาเยาวชนและนักเรียนในพื้นที่ดังกล่าว เมื่อไปที่กุฏิชั้นเดียวใกล้ประตูเข้าวัด โดยประตูหน้ากุฏิเปิดอยู่จึงล้อมกุฏิเอาไว้ อีกส่วนหนึ่งเข้าไปในกุฏิที่ห้องนอนด้านหลัง ซึ่งเป็นห้องของพระนันทกร คุณากโร พบพระ 2 รูป และผู้หญิงอีก 1 คนกำลังนั่งสูบยาบ้ากันอยู่ เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจต่างก็พากันตกใจ แต่หนีไม่ได้ กลางวงพบอุปกรณ์เสพยาบ้า และยาบ้าบรรจุอยู่ในถุงห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาล 100 เม็ด เงินสด 18,900 บาท ไพ่ 1 สำรับ เจ้าหน้าที่จึงจับกุมทั้ง 3 คน

จากการสอบสวนทราบชื่อ พระนันทกร เคนวันดี อายุ 33 ปี พระคมกฤช ขันมโร อายุ 20 ปี และนางประภาพร พัดมณี อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28 หมู่ 7 บ้านบลศรีวิไล ต.ดงสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัว ลำภู ทั้ง 3 ให้การรับสารภาพ ตำรวจจึงนำตัวพระทั้ง 2 รูปไปให้พระครูปริยัติภัทรากร เจ้าอาวาส ทำพิธีสึกจากความเป็นพระ จากนั้นจึงคุมตัวพร้อมของกลางไปดำเนินคดี

สำหรับอดีตพระนันทกรเคยลักลอบค้ายาบ้าให้วัยรุ่น โดยนางประภาพรจะมารับเอายาบ้าไปขายทาง จ.หนองบัวลำภู ซึ่งวันนี้นางประภาพรกำลังจะไป จ.หนองบัวลำภู แต่มาถูกจับเสียก่อน และรอบกุฏิในถังขยะพบกระดาษห่อยาบ้าลักษณะเดียวกับที่ยึดได้ในห้องอีกหลายอันด้วย

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook