เปิดข้อมูล "ปุ่มฉุกเฉิน" หยุดแอร์พอร์ตลิงค์ จนท.กดแทบทันที

เพจดังเปิดข้อมูลรายละเอียด "ปุ่มหยุดฉุกเฉิน" ขณะเกิดเหตุบนสถานีบ้านทับช้าง พบเจ้าหน้าที่กดปุ่ม ESP แทบจะทันทีที่เกิดเหตุ มีเวลาแค่ 13 วินาทีเท่านั้น

จากเหตุการณ์ระทึกขวัญบนสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรลลิงค์ "สถานีบ้านทับช้าง" หญิงตั้งครรภ์วูบหมดสติร่วงตกลงไปในรางรถไฟฟ้า ก่อนที่ขบวนรถไฟฟ้าจะแล่นทับต่อหน้าต่อตาผู้ที่รอขึ้นโดยสารบริเวณชานชาลาเป็นจำนวนมาก เหตุดังกล่าวมีการยืนยันแล้วว่าเป็นอุบัติเหตุสุดวิสัย เนื่องจากหญิงสาวคนดังกล่าวมีอาการไม่สบายและไม่พบปมปัญหาส่วนตัวใดๆ

แต่เหตุการณ์ดังกล่าวยังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสังคมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะประเด็นการเข้าช่วยเหลือหญิงสาวผู้ประสบเหตุ มีการตั้งข้อสันนิษฐานต่างๆ มากมาย กลายเป็นข้อถกเถียงอย่างดุเด็ดเผ็ดร้อน บ้างก็แนะว่าเหตุใดคนบนชานชาลาถึงไม่ลงไปช่วย เพียงแค่ไม่กี่วินาทีก็คงรอดชีวิตแล้ว แต่ก็มีข้อโต้แย้งว่า ในทางปฏิบัตินั้นแทบเป็นไปไม่ได้ เพราะมีความเสี่ยงที่จะเสี่ยงชีวิตทั้งผู้ประสบเหตุและผู้ให้การช่วยเหลือ

เพจเฟซบุ๊ก Drama-addict ได้แชร์ข้อมูลการกดปุ่มฉุกเฉินหยุดขบวนรถไฟฟ้า จากรายงานดังกล่าวพบว่ามีการกดปุ่มฉุกเฉิน จากเจ้าหน้าที่ ทั้งบนขบวนรถไฟฟ้าและชานชาลา เพียงไม่กี่วินาทีหลังเกิดเหตุ แต่เหตุที่เกิดขึ้นอยู่ในระยะประชั้นชิด ขบวนรถไฟฟ้าไม่สามารถกระชากหยุดกะทันหันได้เพราะแรงเฉื่อย แต่หากหยุดแบบเบรกกระชากได้ก็จะทำให้ผู้โดยสารบนรถไฟฟ้าได้รับบาดเจ็บเช่นกัน

ข้อมูลดังกล่าวระบุว่า หญิงสาวได้พลัดตกลงไปในรางรถไฟฟ้าบริเวณชานชาลา ตอนเวลา 06.52.46 น. มีรายงานกดปุ่มสัญญาณ ESP หรือ ปุ่มหยุดฉุกเฉินตอนเวลา 06.52.48 น. บริเวณชานชาลา และเวลา 06.52.48 น. ก็มีการกดปุ่มหยุดฉุกเฉินจากส่วนหัวขบวนรถไฟฟ้า ก่อนที่เวลา 06.52.50 น. เจ้าหน้าที่กดปุ่มหยุดฉุกเฉินส่วนท้ายขบวนรถไฟฟ้า

กระทั่งเวลา 06.52.59 น. หรือเพียง 9 วินาทีต่อมา หญิงสาวจะถูกขบวนรถไฟฟ้าแล่นทับผ่านไป โดยที่ไม่สามารถหยุดขบวนรถไฟฟ้าได้ทัน เพราะยังคงมีแรงเฉื่อยและเป็นการเกิดเหตุในระยะกระชั้นชิดเกินไป ทำให้เกิดเป็นโศกนาฏกรรมดังกล่าวในที่สุด

ทั้งนี้ข้อมูลดังกล่าวทำให้เห็นว่า เจ้าหน้าที่ต่างปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ เพื่อไม่ต้องการให้เกิดเหตุน่าสลดใจ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล้วนเป็นเหตุสุดวิสัย ขณะที่สังคมบางส่วนก็เป็นกำลังใจและชื่นชมเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ในทันทีแล้ว แต่ก็ไม่อาจป้องกันเหตุได้