ศาลอุทธรณ์ยืนคุก ร.ต.ต. 20 ปี 1 เดือน คดียิงชายชู้ดับ
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำคุก ร.ต.ต. 20 ปี 1 เดือน คดียิงชายเสียชีวิตปมหึงหวง สาวคนสนิทย่านดุสิต เมื่อปี 2558
ศาลอาญาอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ในคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้อง ร.ต.ต.ชุมพล ด้วงประดิษฐ์ อายุ50ปี อดีตผบ.หมู่ ผอ.6 บก.อก.ตชด. เป็นจำเลยฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พกพาอาวุธปืนไปในที่ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรและไม่ได้รับอนุญาต โดยศาลอาญาพิพากษาลงโทษจำคุก 20 ปี 1 เดือน
คดีนี้โจทก์ฟ้องและนำสืบว่า เมื่อวันที่ 10 ม.ค.2558 เวลา 01.00 น. ขณะที่ น.ส.จิริยาภรณ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี ซึ่งมีความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวกับจำเลย ได้พักอยู่ในห้องเช่าสองชั้น เขตดุสิต กทม. ได้มี นายกรธรรม อดีตเพื่อนชาย ซึ่งคบหากันเป็นคนที่สอง แต่เลิกร้างกันไปนานปีเศษได้เข้ามาหา อ้างว่า ขอเข้ามาพักผ่อนเพราะไม่สบายและอยู่เล่นกับลูกชายของ น.ส.จิริยาภรณ์ ก่อนหลับไป
จนกระทั่งเวลาเช้าจำเลยได้กลับเข้าบ้านพักที่เกิดเหตุพบเห็นนายกรธรรมในบ้านจึงโกรธและมีปากเสียงปลุกปล้ำชกต่อยกัน จำเลยใช้อาวุธปืน ยิงนายกรธรรมที่ศีรษะสามนัดถึงแก่ความตายและหลบหนีไป ต่อมาได้เข้ามอบตัวและให้การปฏิเสธว่ากระทำไปโดยป้องกันตัว
ศาลอุทธรณ์ พิพากษาว่าพิเคราะห์ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าหรือไม่ พยานเบิกความฟังได้ว่า วันเกิดเหตุได้ยินเสียงปืนดังสามนัด หลังจากมีเสียงโครมครามคล้ายคนต่อสู้กันและเห็นเห็นจำเลยวิ่งออกไป ขณะที่จำเลยให้การว่า มาที่เกิดเหตุจริงแล้วเกิดโทสะ จึงมีปากเสียงชกต่อยกัน แต่ผู้ตายมีรูปร่างใหญ่ประกอบกับได้แย่งปืนพกจากเอวตนไปได้ จึงปลุกปล้ำแย่งปืนกัน ทำให้ปืนลั่นสามนัด
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า พิเคราะห์จากร่องรอบบาดแผล เหตุจูงใจ พยานที่เกิดเหตุ ประกอบพยานแวดล้อมซึ่งล้วนไม่มีเหตุปรักปรำจำเลย จึงฟังโดยปราศจากเหตุระแวงสงสัยว่า จำเลยเป็นคนฆ่าผู้ตายโดยมีเจตนาฆ่า ที่จำเลยอุทธรณ์มาทุกข้อฟังไม่ขึ้นพิพากษายืน หลังฟังคำพิพากษาจำเลยถึงกับตีหน้าสลด แล้วน้อมรับลงชื่อในคำพิพากษาก่อนตัดสินใจว่าจะฎีกาต่อไปหรือไม่