ไม่อายจากดาราเป็นแอร์โฮสเตส "นิ้ง กุลสตรี" เปิดความจริง 13 ปี ทำไม..? ทิ้งวงการ

กลายเป็นที่ฮือฮาและที่สนใจอย่างมากเมื่อสัปดาห์ก่อน ที่อดีตนางเอกสาวยุค 90 "นิ้ง กุลสตรี ศิริพงษ์ปรีดา" ปรากฏตัวในงาน "AirAsia Cabin Crew Junior Camp ติดปีกตัวน้อย บินสู่ฝัน"

"เมื่อไหร่กลับเข้าวงการ เมื่อไหร่จะกลับมาเล่นละคร" ดูจะเป็นคำถามที่อดีตนางเอกสาวต้องตอบมากที่สุด หลังจากหันหลังให้วงการบันเทิงไปเป็น "แอร์โฮสเตส" ของสายการบินแอร์เอเชีย และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่อดีตนางเอกดัง "นิ้ง กุลสตรี" ได้เปิดใจกับทีมข่าว Sanook News! ถึงเหตุผลที่แท้จริงทำไม…? เธอถึงทิ้งวงการ

"13 ปีแล้วที่นิ้งไม่ได้ออกสื่อตื่นเต้นมากๆ ถ้าสังเกตจริงๆ ตอนอยู่ในวงการนิ้งก็ไม่ค่อยออกสัมภาษณ์ที่ไหน งานของนิ้งจะเป็นไปลักษณะถ่ายละครเสร็จก็กลับบ้านเลย ไม่ใช่หยิ่งหรืออะไร เพราะนิ้งเป็นคนที่อยากทำอะไรก็ทำให้ดีที่สุดเลยทีเดียว ไม่ใช่ทำอะไรหลายๆ อย่าง แล้วมันออกมาไม่ดีซักอย่าง"

อดีตนางเอกสาวกล่าวถึงความรู้สึกหลังจากที่หายหน้าไปจากวงการสิบกว่าปี เธอรู้สึกดีใจเสมอที่แฟนๆ ละครยังจดจำและคิดถึงกันตลอดเวลา ซึ่งตัวเธอนั้นก็คิดถึงไม่ต่างกันถึงขั้นเก็บเอาไปฝันก็เคยมี

 ชีวิต "กุลสตรี" นางเอกผู้โด่งดังในวันวาน

"ที่นิ้งนึกภาพได้คือทำงานเสร็จต้องกลับบ้านห้ามไปเที่ยวไหนต้องระวังตัวอย่าทำให้เสียชื่อเสียง ถ้ามีข่าวไม่ดีออกมาก็จะจบเลยไม่มีงานทำ เป็นนางเอกยุคก่อนต้องอยู่ในกรอบ สมัยก่อนอาร์เอสจะมีรถตู้ไปรับไปส่ง ชีวิตนิ้งจะวนเวียนอยู่แต่แบบนี้ แต่ถ้าเทียบกับสมัยนี้นิ้งว่านักแสดงมีความสามารถมากขึ้น ใช้ชีวิตกันได้มีความสุขมากขึ้น ซึ่งสมัยก่อนก็มีความสุขนะ เพียงแต่สมัยนี้ไปไหนทำอะไรได้มากขึ้นกว่าสมัยของนิ้งค่ะ"

จุดเปลี่ยนชีวิตจาก "นางเอกดัง"  เป็น "นางฟ้า" ของผู้โดยสาร เมื่อย้อนกลับไปถึงช่วงเวลาที่อดีตนางเอกเบนเข็มตัวเองออกจากวงการ ไปเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน จึงเกิดคำถามมากมายที่แฟนๆ ละครคาใจทำไมเธอถึงทิ้งวงการ

"มันเป็นเวลาที่เหมาะและสมควรพอดีตอนนั้นนิ้งก็อายุ 30 เกือบจะ 31 เป็นโค้งสุดท้ายที่สายการบินเขาจะเปิดรับพนักงานต้องรับ ถ้าเราไม่ตัดสินใจตอนนั้นก็จะพลาดโอกาสดีๆ เพราะนิ้งอยากมีอาชีพที่มั่นคง แม้ว่าไม่ฟู่ฟ้าเหมือนอาชีพนักแสดงแต่มันเป็นอาชีพที่จะดูแลเราไปตลอดชีวิต และตอนเด็กๆ นิ้งใฝ่ฝันอยากจะเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินแต่ไม่มีโอกาสได้สานฝันเพราะได้ทำงานในวงการบันเทิงก่อน แต่พอสายการบินแอร์เอเชียเปิดโอกาสขึ้นมา เราก็คิดว่าเราต้องทำให้ได้เราต้องสอบให้ได้ นิ้งเป็นคนที่อยากเลือกชีวิตให้กับตัวเอง อยากมีชีวิตเป็นของตัวเอง และก็ตอนนั้นสายการบินแอร์เอเชียเปิดขึ้นมานิ้งมองภาพกว้างมาก ใครก็ได้ที่สามารถขึ้นเครื่องบินได้เป็นการวงกว้างให้กับผู้โดยสารหลายๆ คนมาก คนได้เดินทางกันง่ายมากขึ้นและนิ้งก็เชื่อว่าจะต้องบูมในประเทศไทย"

อดีตนางเอกสาวเล่าต่อไปอีกว่านอกจากการเลือกอาชีพที่มั่นคงให้ตัวเองแล้ว เมื่อครั้งสมัยที่เป็นเด็กได้มีโอกาสไปประเทศญี่ปุ่น และได้เจอพี่พนักงานต้อนรับที่ดูแลจนเธอเกิดความประทับใจในอาชีพนี้

"นิ้งเคยมีโอกาสไปญี่ปุ่นและนิ้งเจอพี่พนักงานต้อนรับคนหนึ่งนั่งอยู่หลังเครื่องซึ่งเราก็เดินๆ ไปแล้วพี่เขาก็เดินมาถาม หนูต้องการอะไร อยากได้ความช่วยเหลืออะไร ห้องน้ำไปทางนี้ ห้องน้ำต้องปิดแบบนี้มันไม่เหมือนประตูบ้านเรานะ เขาทำให้เรารู้สึกว่าเขาสนใจและใส่ใจอันนี้ก็กลายเป็นความประทับใจสำหรับนิ้งเลยค่ะ"

ไม่เคยอายจาก "นางเอกดัง" มาเป็นพนักงานตอนรับบนเครื่องบิน

"นิ้งไม่เคยอายเพราะนี่แหละคือตัวนิ้งที่จะยิ้มได้กว้างๆ สามารถพูดได้ทุกอย่างวงการบันเทิงเป็นงานที่ทำให้นิ้งได้ประสบการณ์ แต่ถ้าตอบโจทย์ตัวเองที่สุดคือพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน เพราะมันมีเรื่องราวน่ารักมากมายอย่างบางทีผู้โดยสารขึ้นมาเขาจะมีความเอ็นดูเรา อุ๊ย…น้องนิ้ง ตอนนั้นยังเป็นน้องอยู่ผู้โดยสารขึ้นมาแล้วจะดูมีความสุขตื่นเต้นถ่ายรูปกัน ก็รู้สึกดีใจที่ผู้โดยสารยังให้ความสนใจเรา ส่วนทุกวันนี้ก็เป็นป้านิ้งแล้วผู้โดยสารมีลูกกันหมดแล้ว ก็แบบสวัสดีป้านิ้งสิลูก (หัวเราะ) บางคนเจอก็เข้ามากอดบอกขึ้นมาตั้งหลายครั้งแล้วเพิ่งเคยเจอครั้งแรกก็มีค่ะ"

นอกจากนั้นอดีตนางเอกดัง "นิ้ง กุลสตรี" ยังเล่าเสริมต่อถึงความสุขและเรื่องราวประทับใจที่ได้ทำงานอาชีพแอร์โฮสเตสต่อไปอีกว่า

"นิ้งมีความสุขมากๆ ตื่นเช้าขึ้นมามันจะรู้สึกว่าฉันอยากไปทำงานจริงๆ ซึ่งมีอยู่ไฟล์ทหนึ่งเป็นคนจีนในไฟล์ทนั้นก็แบบไม่มีลูกเรือพูดจีนได้เลย แล้วผู้โดยสารเขาถามน้องลูกเรือว่าเป็นภาษาจีนประมาณว่า สี โซ่ว เจียน แปลว่า มีห้องน้ำมั้ย ห้องน้ำอยู่ไหน แต่คำที่ผู้โดยสารใช้เป็นภาษาที่น้องลูกเรืออาจไม่เข้าใจ ผู้โดยสารเลยเข้าใจว่าบนเครื่องไม่มีห้องน้ำ เราก็ถามน้องว่าผู้โดยสารต้องการอะไร พอดีนิ้งก็พอพูดได้นิดหน่อยพอไปถามจับใจความได้ เขาบอกว่าพนักงานบอกไม่มีห้องน้ำ เราก็ได้อธิบายให้เขาฟังว่ามีห้องน้ำนะคะ เราก็เลยรู้สึกว่าเราไม่ได้แค่คุยกับคนไทยกับชาติอื่นเราก็คุยกันได้ เชื่อมั้ยนิ้งตื่นเช้าขึ้นมานี่ไม่ได้โกหกเลย แต่งหน้าไปทำงานฉันมีความสุขจังเลยที่จะได้เจอผู้โดยสารจริงๆ"

"หนึ่งไฟล์ทที่นิ้งต้องคุยกับผู้โดยสารอย่างน้อยหนึ่งคน นิ้งอาจจะแซวเขาเล่นตอนที่เช็คบอร์ดดิ้งพาส ไฟล์ทนัมเบอร์ ไปหาดใหญ่นะคะ บินตรงหรือเปล่าหรือพักกลางทางคะ ผู้โดยสารก็จะงงๆ  อึ้งๆ หรือไม่บางคนก็จะถามเลยใช่พี่นิ้งหรือเปล่าคะ เราก็แกล้งกลับไม่ใช่ค่ะชื่ออรัญญาค่ะ (หัวเราะ) ผู้โดยสารก็แบบเหวอๆ งงๆ ชอบแกล้งผู้โดยสารค่ะ เขาหัวเราะนิ้งก็มีความรู้สึกว่าการที่ผู้โดยสารเดินทางแล้วเจอนิ้งเขาได้หัวเราะเราก็มีความสุขในหน้าที่พนักงานต้อนรับตรงนี้ มันเป็นความสุขเล็กๆ ที่เราได้ทำในสิ่งที่เรารัก เราได้เจอในสิ่งที่เราอยากทำจริงๆ ค่ะ"

"คุ้มค่า" ที่เลือกเส้นทางชีวิตไม่ผิด

"กว่าที่นิ้งจะสอบได้มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยค่ะ ลูกเรือหลายคนที่สอบได้ก็มีหลายคนที่โดนออกระหว่างสอบ ซึ่งระหว่างที่สอบได้นิ้งต้องมีการถูกเทรนด์ และตอนนั้นต้องเช่าห้องที่ตึกช้างมาเรียนสมัยเรียนที่เปิดใหม่ๆ เรายังมีไม่ครบก็ต้องเอาครูที่มาเลเซียมาสอนที่เมืองไทย จันทร์ถึงศุกร์นิ้งเรียนเรื่องความปลอดภัย ห้าโมงเย็นถึงสามทุ่มนิ้งไปเรียนต่อรัฐศาสตร์การเมือง ตอนนั้นเป็นอะไรที่รู้สึกเหนื่อยมากๆ พอมันผ่านมาได้ก็รู้สึกว่าคุ้มค่าค่ะ นิ้งรู้สึกขอบคุณตัวเองมากๆ ตั้งแต่วันแรกที่ไปสมัครจน ณ วันนี้บอกกับตัวเองตลอดเวลาว่าขอบคุณตัวเองที่เลือกไม่ผิด และขอบคุณตัวเองที่มองสายการบินแอร์เอเชียเป็นเหมือนจุดปลายหมึกซึม ที่วันหนึ่งมันกว้างขึ้นๆ ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้แอร์เอเชียให้นิ้งทุกอย่างในเรื่องสังคมพี่น้องและสามี (หัวเราะ) ได้เจอทุกอย่างมันเป็นสังคมที่รักกันจริงๆ"

จากใจจาก "นิ้ง กุลสตรี" ถึงแฟนละครที่ยังรอคอย

"ณ วันนี้นิ้งอยากทำหน้าที่ตรงนี้เพราะว่าช่วงอายุของการทำงานพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินมันมีขอบเขตจำกัดถึงแค่ 55 แต่ตอนนี้นิ้งอายุ 44 แล้วมันเหลือวันเวลาไม่มาก นิ้งก็มีความรู้สึกว่าในช่วงเวลาของการทำงานพนักงานต้อนรับมันเป็นความใฝ่ฝันของนิ้งตั้งแต่เด็กเลย แล้วพอวันหนึ่งมันมีโอกาสจริงๆ นิ้งก็อยากทำหน้าที่ตัวเองที่ทำอยู่ให้ดีที่สุดก่อน เพราะว่ากว่าจะสอบได้มามันยากก็อยากจะใช้เวลาอยู่ตรงนี้ให้นานที่สุด อนาคตไม่แน่อาจจะกลับมาเล่นเป็นยายก็ได้ (หัวเราะ) อนาคตไม่แน่นอนนิ้งอาจจะกลับมาก็ได้หรือไม่กลับก็ได้ แต่ถามว่าคิดถึงแฟนๆ ละครนิ้งมั้ยคิดถึงมากๆ เจอนิ้งก็เข้ามากอดนิ้งได้นิ้งไม่ว่าอะไรเลย แต่อย่าแบบจู่โจมนะเพราะตกใจ รูปถ่ายก็ขอถ่ายได้เลยแต่ไม่ชอบแอบถ่ายเดี๋ยวไม่สวย ถ้าขอถ่ายถ้าไม่สวยจะให้ถ่ายใหม่หลายรูปเลยค่ะ"