สั่งย้ายครูประจำชั้นข่มขืนลูกศิษย์ ป.5 ถ้าไม่ผิดค่อยกลับมาสอน
ผอ.สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 สั่งย้ายด่วนครูประจำชั้นช่วยราชการไม่มีกำหนด หลังถูกผู้ปกครองแจ้งความจับข่มขืนลูกศิษย์นักเรียนหญิง ป.5 คาห้องเรียน พร้อมตั้งกรรมกรรสอบข้อเท็จจริง และจ่อสอบวินัยร้ายแรงซ้ำ ระบุหากผิดจริงฟันไม่เลี้ยง
จากกรณีที่มีผู้ปกครองเด็กหญิงเอ (นามสมมุติ) อายุ 11 ปี นักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ เข้าแจ้งความว่าลูกสาวถูกครูประจำชั้นและสอนดนตรีได้ใช้กำลังบังคับข่มขืนกระทำชำเราจนสำเร็จความใคร่ พร้อมใช้อาวุธปืนข่มขู่ห้ามนำเรื่องไปบอกใคร หลังผู้ปกครองเข้าแจ้งความ พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะพยานแวดล้อม และส่งตัวเด็กไปตรวจที่โรงพยาบาล ซึ่งอยู่ระหว่างการรอผลตรวจอย่างเป็นทางการ
จากนั้นผู้ต้องหาคือนายชยกร วงศ์คำหาร ได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2560 ที่ผ่านมา โดยพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาพรากผู้เยาว์เด็กฯและข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 13 ปี ซึ่งผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวไปฝากขังยังศาลจังหวัดกาฬสินธุ์เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2560 ที่ผ่านมา
ล่าสุด (24 มิ.ย.) นายภูมิพัธ เรืองแหล่ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์เขต 2 กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวได้รับรายงานจากผู้อำนวยการโรงเรียนต้นสังกัดของครูคนดังกล่าวแล้ว ซึ่งตนได้สั่งการให้ผู้อำนวยการโรงเรียนตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับพฤติกรรมครูคนดังกล่าว พร้อมให้รายงานเข้ามาเป็นลายลักษณ์อักษร และขณะนี้ทราบว่ามีการสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องไปแล้ว 18 ปาก และคาดว่าผู้อำนวยการโรงเรียนจะรายงานผลสอบเบื้องต้นเข้ามาภายในสัปดาห์หน้า
อย่างไรก็ตามเรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้นถือว่าเกิดความสะเทือนใจแก่สังคมและประชาชนเป็นอย่างมาก ตลอดจนผู้บังคับบัญชาก็แสดงความเป็นห่วง ดังนั้น สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 ก็ได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงของเขตขึ้นมาอีก 1 ชุด เพื่อตรวจสอบและสืบข้อเท็จจริงควบคู่กันไป พร้อมทั้งออกคำสั่งให้ครูประจำชั้นคนดังกล่าวย้ายเข้ามาช่วยราชการที่สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 ตั้งแต่วันที่ 22 มิถุนายน 2560 อย่างไม่มีกำหนดในเบื้องต้น จนกว่าคดีจะแล้วเสร็จ
นายภูมิพัธ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ สพป.กาฬสินธุ์เขต 2 รอเพียงสำนวนคดีจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ และพยานหลักฐานจากตำรวจ รวมทั้งผลการตรวจร่างกายเด็กจากโรงพยาบาลเท่านั้น ซึ่งหากได้รับสำนวนคดีและหลักฐานทำให้เชื่อมั่นว่ามีความผิดก็จะออกคำสั่งให้ครูประจำชั้นคนดังกล่าวออกจากราชการไว้ก่อนทันที พร้อมทั้งส่งเรื่องไปยังศึกษาธิการจังหวัด เพื่อเสนอให้มีการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงกับครูประจำชั้น เนื่องจากเรื่องนี้หากมีการกระทำผิดจริงถือว่าเป็นการผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง และจรรยาบรรณครู เพราะผู้กระทำเป็นถึงครู ส่วนผู้ถูกกระทำนั้นเป็นเด็ก
ซึ่งเรื่องนี้ทางสพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย แต่หากผลจากตรวจสอบพยานหลักฐานต่างๆทั้งทางคดีของตำรวจและคณะกรรมการว่ามีความผิดแล้วนั้นจะไม่เลี้ยงไว้และต้องถูกดำเนินการขั้นเด็ดและต้องได้รับโทษตามระเบียบ เพราะถือว่าเป็นการประพฤติชั่วร้ายแรง แต่หากผลการตรวจสอบแล้วไม่มีความผิดตัวครูประจำชั้นเองก็สามรถกลับเข้ามารับราชการได้ตามปกติ
ด้านพล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำพยาน รวมทั้งผู้เสียหายไปแล้ว และอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม โดยเฉพาะผลการตรวจร่างกายของเด็กจากโรงพยาบาล อีกทั้งการติดตามอาวุธปืนของครูคนดังกล่าว เนื่องจากผู้เสียหายระบุว่านำปืนมาขู่ ดังนั้นจึงได้กำชับให้พนักงานสอบสวนทำสำนวนอย่างรัดกุม เพราะคดีดังกล่าวประชาชนให้ความสนใจและสะเทือนใจประชาชน ซึ่งหากมีการสอบปากคำทุกฝ่ายและรวบรวมพยานหลักฐานครบก็จะสรุปสำนวนส่งสำนักงานอัยการทันที
อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า หลังครูประจำชั้นเข้ามอบตัวแต่พนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัว และนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2560 ที่ผ่านมา และญาติของประจำชั้นได้ยื่นขอประกันตัวที่ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์
โดยหลังจากเกิดเหตุการณดังกล่าวขึ้นผู้ที่เกี่ยวข้องพยายามระมัดระวังช่วยกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก และกลัวว่าผู้ปกครองจะพาเด็กย้ายหนี สำหรับนักเรียนคนดังกล่าวยังอยู่อาการตกใจกลัวและร้องไห้ตลอดเวลาซึ่งเพื่อนๆนักเรียนทุกคน รวมทั้งผู้ปกครองช่วยกันปลอบและจะไม่พูดถึงเรื่องที่ผ่านมาเพื่อให้สภาพจิตใจกลับมาเป็นปกติ