ตาบอด..แต่ไม่ท้อ คนติดใจขนมไทยคุณป้า เลี้ยงตัวเองแม้มองไม่เห็น

คนชัยนาทแห่อุดหนุน คุณป้าตาบอดมาเกือบทั้งชีวิต ไม่ท้อปมด้อยตัวเอง ทำขนมไทยขายเลี้ยงตัวเอง ไม่เดือดร้อนใคร รสชาติอร่อยจนต้องบอกต่อ

(25 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ตัวเมืองชัยนาท มีร้านขายขนมร้านหนึ่งที่แปลกตาไปจากร้านอื่น เนื่องจากเป็นร้านที่ตั้งอยู่ใต้ต้นโพธิ์ใหญ่ริมถนน เรียบเขื่อนเรียงหินแม่น้ำเจ้าพระยาจังหวัดชัยนาท มีเพียงแค่โต๊ะไม้เก่าๆ ปูด้วยเสื่อน้ำมัน วางขายขนมไทยต่างๆ เช่น ไข่หงษ์ ถั่วกวน ถั่วแปลบ สาคูใส้หมู

แค่มองดูผิวเผินอาจเป็นร้านธรรมดาๆ แต่พอเข้าไปใกล้ๆ ก็พบว่า แม่ค้าที่ขายนั้น เป็นคนตาบอด มองไม่เห็นอะไรเลยแม้แต่น้อย แต่ยังเหลือที่จะสู้ชีวิต หาเลี้ยงตนเองไม่เดือดร้อนใคร ในแต่ละวัน มีลูกค้าแวะมาซื้อขนม ขายหมดเกลี้ยงทุกวัน อีกทั้งยังได้รับคำชื่นชมในความสามารถในการทำขนม และไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค ต่อสู้กับความพิการที่ตนเองได้รับมาตั้งแต่เด็ก

แม่ค้าคนดังกล่าว นางสาวสารภี อายุ 60 ปี เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนตาบอดมาตั้งแต่อายุ 2 ขวบ ป่วยเป็นโรคตาแดงแล้วเกิดมีอาการติดเชื้อ ทำให้ตาอักเสบขั้นรุนแรงจนเกิดตาบอด ต้องใช้ชีวิตอยู่ในความมืดมาเกือบทั้งชีวิต ยอมรับว่ามีช่วงหนึ่งตอนอายุ 15-16 ปี เกิดความท้อแท้ใจ จนคิดเกือบฆ่าตัวตาย แต่ก็ได้พี่สาวที่คอยดูแลมาตลอด รวมไปถึงสอนทำขนมไทยหลายชนิด

ชีวิตในอดีตตนก็ช่วยพี่สาวทำขนมขายมาตลอด จนมาวันหนึ่งพี่สาวต้องไปทำงานที่กรุงเทพฯ ทำให้ตนคิดหันมาทำขายเอง เพราะไม่อยากเดือดร้อนเงินทองพี่สาวอีกต่อไป หัดทำขนมอยู่เรื่อยมา แม้จะมองไม่เห็นเลยก็ตาม ตนฝึกฝนทำอยู่เป็นประจำ จนเมื่อ 10 ปี ก่อน คนข้างบ้านและเพื่อนบ้านที่ผ่านไปผ่านมา ลองชิมขนมบอกว่าอร่อย จึงตัดสินใจเดินไปขายตรงโต๊ะไม้ปากซอย

ตอนแรกก็ขายได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่ตอนนี้คนเริ่มบอกกันปากต่อปากถึงรสชาติ ที่ทำสดใหม่ทุกวัน ทำให้มีคนมาจอดซื้อกันอย่างไม่ขาดสาย ในราคาเริ่มต้นที่ 10 บาทเท่านั้น โดยเงินที่ได้มาส่วนหนึ่งก็จะเก็บไว้ ที่เหลือก็นำไปให้พี่สาวไปใช้จ่ายภายในครอบครัวต่อไป

"ในแต่ละวันนั้น ป้าต้องเตรียมของ ทำใส้ขนม ตั้งแต่ช่วงเย็นของทุกวัน พอเริ่มเข้าสู่ช่วงเช้ามืด เวลาประมาณ ตี 3 ตี 4 ต้องลุกขึ้นตื่นมาทำขนมด้วยตัวเอง เริ่มตั้งแต่ก่อไฟ ตั้งเตา ผัดใส้ขนม ทำเองกับมือทั้งหมด ช่วงแรกก็มีหกเลอะเทอะบ้าง แต่ตอนนี้ทำจนชินแล้ว ทำให้ใช้เวลาทำน้อยกว่าเมื่อตอนทำแรกๆ" คุณป้าตาบอด กล่าว

สำหรับตอนนี้มีคนมารับขนมไปขายตามหน่วยงานต่างๆ เพราะความอร่อย ความสดใหม่ของขนมที่ทำ จึงทำให้คุณป้ามีรายได้เพิ่มขึ้นมาอีก ไม่ต้องเดือดร้อนใคร คุณป้ายังฝากไปถึงคนที่กำลังท้อแท้สิ้นหวัง ปรับเปลี่ยนความคิดใหม่ หากตัวเองยังสามารถเดิน ได้ยิน มองเห็น มีร้างกายที่ครบ 32 ประการก็ควรที่จะสู้ต่อไป อย่ามองคนอื่นๆ ที่ดีกว่า รวยกว่า แต่อยากให้มองคนที่ด้อยกว่า หรือเท่ากับตนเองแล้วเอาคนที่อยู่เหนือเรามาเป็นเป้าหมายเท่านี้ก็จะประสบความสำเร็จในชีวิต