แม่ร้องสื่อ! ลูกชายเข้าเรือนจำคืนเดียว ถูกผู้คุมรุมกระทืบปางตาย
ลูกถูกจับข้อหามียาแก้ไอน้ำกระท่อมในครอบครอง ถูกปรับหมื่นสี่ แม่ไม่มีเงิน ลูกจึงถูกขังก่อน รุ่งขึ้นหาเงินได้มารับลูกพบเจ็บสาหัส เหตุถูกผู้คุมซ้อม
(25 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางหนูรอง อายุ 49 ปี เข้าร้องเรียนต่อ นายกิตติ วงศรัตนาวุธ ประธานชมรมผู้สื่อข่าวจังหวัดพังงา ว่า เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. ที่ผ่านมา นายภูริณัฐ อายุ 20 ปี ซึ่งเป็นบุตรชาย ถูกผู้คุมในเรือนจำทำร้ายร่างกาย มีบาดแผลตามร่างกายที่บริเวณแผ่นหลัง, สะโพกด้านซ้าย, ศอกซ้าย และบริเวณหน้าผากด้านซ้าย บาดเจ็บปางตาย
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 60 ที่ผ่านมา นายภูริณัฐ อายุ 20 ปี ถูกตำรวจจับกุมตัวในข้อหามียาแก้ไอน้ำกระท่อม ในครอบครอง จึงนำตัวส่งศาลจังหวัดพังงา ซึ่งศาลได้ตัดสินให้จ่ายค่าปรับเป็นเงิน 14,000 บาท ซึ่งตนไม่มีเงิน เนื่องจากหาไม่ทัน จึงตัดสินใจให้ลูกชายเข้าไปอยู่ในเรือนจำก่อน ต่อมาเมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 60 ตนเองได้นำเงินจำนวน 14,000 บาท ไปจ่ายค่าปรับที่ศาล และไปรับตัว นายภูริณัฐ บุตรชาย ที่เรือนจำเพื่อกลับบ้าน เมื่อตนได้เห็นบุตรชาย พบว่ามีร่องรอยของการถูกทำร้ายร่างกาย มีบาดแผลหลายจุด ตนจึงได้ซักถามว่าเกิดอะไรขึ้น แต่บุตรชายก็ไม่กล้าเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ตนเองฟัง ตนจึงได้บอกว่า ถ้ายังเห็นว่าแม่เป็นแม่ของลูกให้เล่าความจริงที่เกิดขึ้นมา
กระทั่งบุตรชายยอมเปิดปากเล่าให้ฟังว่า เมื่อผู้คุมรับตัวเข้าเรือนจำ ผู้คุมนายหนึ่งได้ส่งตัวบุตรชายเข้าสู่เรือนจำและบอกกับผู้คุมคนอื่นๆ ว่า นายภูริณัฐ เป็นน้องชายของคนชื่อยุ้ย และผู้คุมอีกคนก็เข้ามาถามว่าใครชื่อเจมส์ นายภูริณัฐจึงได้ยกมือแล้วบอกว่า “ผมเองครับ” ต่อมาผู้คุมนายนี้ก็ได้สั่งให้ผู้คุมคนอื่นๆ ซ้อมนายภูริณัฐ บุตรชาย โดยซ้อมที่บริเวณประตูเข้าเรือนจำ และที่บริเวณห้องน้ำ ซึ่งมีผู้คุมทั้งหมด 3 คน ที่ร่วมลงมือซ้อมบุตรชาย โดยที่นายภูริณัฐก็ยังไม่ทราบสาเหตุว่าทำผิดเรื่องอะไร ซึ่งต่อมาผู้คุมคนดังกล่าวได้กล่าวออกมา[บอกว่าเรื่องลูกชายของผู้คุม นายภูริณัฐจึงนึกออกว่าตนเองเคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับลูกชายของผู้คุมคนดังกล่าว และเป็นเรื่องที่นานมาแล้ว และขอโทษกันจบไปนานแล้ว
หลังจากนั้น นางหนูรอง ผู้เป็นมารดา จึงได้พา นายภูริณัฐ บุตรชาย ไปยังโรงพยาบาลพังงา เพื่อให้หมอตรวจร่างกาย และได้นำตัวบุตรชายเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.วิทยา สนจำเริญ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพังงา
นางหนูรอง ยังได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวด้วยว่า หลังเกิดเหตุตนเองได้ร้องเรียนขอความเป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่เรือนจำ แต่ถูกนิ่งเฉย ต่อมาตนจึงเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็มีผู้หลักผู้ใหญ่ในอำเภอเมืองพังงาเข้ามาไกล่เกลี่ยขอให้ยอมความแล้วจะชดใช้ค่าเสียหายให้ แต่ทางตนปฏิเสธ เนื่องจากลูกชายตนกระทำผิดเพียงข้อหาที่ไม่ได้ร้ายแรงอะไรเลย และอยากให้เป็นกรณีตัวอย่าง เนื่องจากพวกเขากระทำเพื่อการชำระแค้นส่วนตัวที่นานมาแล้วและไกล่เกลี่ยกันไปแล้ว ทำเอาบุตรชายของตนเกือบตาย
“นี่ดีนะที่อยู่แค่คืนเดียว ถ้าอยู่ต่อและหาเงินมาประกันตัวลูกชายไม่ทัน ลูกชายคงตายในคุกเหมือนกับผู้ต้องหาคนอื่นๆ ที่ตายในเรือนจำ” นางหนูรอง กล่าวทิ้งท้าย