ศาลอุทธรณ์ยืนจำคุก 2 ปี นศ.สาวเมาแล้วขับ ชน 3 นักปั่นเสียชีวิต

ศาลอุทธรณ์ยืนจำคุก 2 ปี นศ.สาวเมาแล้วขับ ชน 3 นักปั่นเสียชีวิต

ศาลอุทธรณ์ยืนจำคุก 2 ปี นศ.สาวเมาแล้วขับ ชน 3 นักปั่นเสียชีวิต
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ศาลอุทธรณ์ยืนจำคุก 2 ปี นักศึกษาสาวเชียงใหม่ เมาแล้วขับชน 3 นักปั่นเสียชีวิตปี 2558 พร้อมสั่งจ่ายเพิ่มเงินสินไหมทดแทนให้ครอบครัวผู้สูญเสีย

(27 มิ.ย.) เมื่อเวลา 09.00 น. ครอบครัวของผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่ นางสาวเอ๊ะ (นามสมมติ) อายุ 24 ปี ขณะนั้นนักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง มึนเมาแล้วขับรถเก๋งพุ่งชนนักปั่นจักรยานจักรยานเสียชีวิต 3 ราย บนถนนเชียงใหม่-ดอยสะเก็ด อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 3 พ.ค. 2558 เดินทางไปที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่เพื่อฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

คดีดังกล่าว ศาลชั้นต้นได้พิพากษาลงโทษ นางสาวเอ๊ะ จำคุก 4 ปี ตามความผิดฐานประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และ ความผิดตาม พรบ.จราจรทางบก แต่จำเลยรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งเหลือจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา พร้อมเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่

ขณะที่โจทก์ได้ยื่นอุทธรณ์ขอให้เพิ่มโทษ เนื่องจากเห็นว่าโทษที่ได้รับน้อยไปกว่าการกระทำที่ได้ทำลงไป ขณะเดียวกันในช่วงหลังเกิดเหตุจำเลยยังไม่มีพฤติกรรมสำนึกผิดและไม่รับผิดชอบเยียวยาอย่างเหมาะสม ส่วนจำเลยประกันตัวและอุทธรณ์ขอลดโทษ อ้างว่าเป็นความผิดครั้งแรก

ล่าสุดเช้าวันนี้ ศาลอุทธรณ์ภาค 5 อ่านคำพิพากษา ให้จำคุกจำเลย 2 ปี ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น แต่พิพากษาแก้ให้จำเลยชำระเงินค่าสินไหมทดแทนและค่าขาดไร้อุปการะให้กับโจทย์ร่วมที่ 3 ญาติขอ งนายสมาน ผู้เสียชีวิต จาก 1,722,091 บาท เป็น 2,334,091 บาท และ ให้ชำระเงินให้กับโจทก์ร่วมที่ 4 และ โจทก์ร่วมที่ 5 บิดาและมารดาของนายพงษ์เทพ ผู้เสียชีวิต คนละ 1,185,433 บาท โดยหลังมีคำพิพากษาจำเลยได้ขอยื่นประกันตัวเพื่อฏีกา

หลังอ่านคำพิพากษา ลูกสาวของนายชัยรัตน์ หนึ่งในเหยื่อผู้เสียชีวิต บอกว่าเคารพการตัดสินใจของศาล แต่ทั้ง 3 ครอบครัวที่ต้องสูญเสีย เห็นว่าโทษที่ได้รับน้อยไป ส่วนหลังจากนี้จะฏีกาคำพิพากษาหรือไม่ จะขอปรึกษากับทนายความอีกครั้ง

ส่วนค่าสินไหมทดแทนที่ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาในครั้งนี้ นายแก้ว บอกว่าไม่สามารถทดแทนกับความสูญเสียที่เกิดขึ้น และอาจจะยื่นฏีกาอีกครั้ง

สำหรับคดีนี้เกิดขึ้นในช่วงเช้ามืดวันที่ 3 พ.ค. 58 นางสาวเอ๊ะ ที่อยู่ในอาการเมาสุรา ขับรถยนต์เก๋งโตโยต้ายาริส สีดำ มาด้วยความเร็ว พุ่งชนนักปั่นจักรยานสมัครเล่นของชมรมนักปั่นจักรยานอำเภอสันทราย ที่กำลังปั่นเป็นแถวยาวชิดซ้ายของถนนและมีสัญญาณไฟท้ายรถทุกคัน บนถนนเชียงใหม่-ดอยสะเก็ด

แต่ปรากฏว่ารถเก๋งคันดังกล่าวได้ขับมาด้วยความเร็วและพุ่งชนท้ายขบวนรถจักรยานอย่างแรง จนทำให้จนทำให้ นายสมาน อายุ 63 ปี , นายพงษ์เทพ อายุ 40 ปี และ นายชัยวัฒน์ อายุ 63 ปี เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ ส่วนนักปั่นจักรยานอีก 2 ราย คือ นายพงษ์ศักดิ์ อายุ 36 ปี และ ว่าที่ ร.ต. สุพล อายุ 56 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกนำส่งโรงพยาบาล

ต่อมาวันที่ 31 พ.ค. 59 ศาลชั้นต้นพิพากษาในความผิดฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พิพากษาให้จำคุก 4 ปี จำเลยรับสารภาพลดโทษให้เหลือจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา หลังมีคำพิพากษาจำเลยยื่นประกันตัวและอุทธรณ์ขอลดโทษ ส่วนพนักงานอัยการจังหวัดเชียงใหม่และโจทก์ร่วมที่เป็นญาติผู้เสียชีวิตยื่นอุทธรณ์ขอเพิ่มโทษและเพิ่มเงินสินไหมทดแทน

อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุ ครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ครอบครัว ได้รับเงินจาก พรบ.คุ้มครองผู้ประสบภัยทางรถ (ภาคบังคับ) รายละ 200,000 บาท และ ค่าสินไหมทดแทนตามกรมธรรม์ภาคสมัครใจให้ครอบครัวละ 1,000,000 บาท เต็มเพดานของกรมธรรม์ภาคสมัครใจ รวมเป็นครอบครัวละ 1.2 ล้านบาท

ส่วนเงินเยียวยาจากจำเลย ผู้ก่อเหตุทั้ง 3 ครอบครัวยังไม่ได้รับ ทราบเพียงแต่ทางจำเลยนำเงินไปวางประกันไว้ที่ศาลรายละ 70,000-100,000 บาท ซึ่งทางญาติไม่ขอรับเพราะถือว่าไม่เป็นธรรมกับการขาดไร้อุปการะของผู้เสียชีวิต

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook