ชงไหม้ซานติก้าเป็นคดีพิเศษ18กพ.นี้

ชงไหม้ซานติก้าเป็นคดีพิเศษ18กพ.นี้

ชงไหม้ซานติก้าเป็นคดีพิเศษ18กพ.นี้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เสี่ยขาวย่องขออนุญาตรื้อซากอาคาร

เมื่อวันที่ 17 ก.พ.ที่สำนักงาน ป.ป.ท. กระทรวงยุติธรรม นายธาริต เพ็งดิษฐ์ เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบกรณีเพลิงไหม้ ซานติก้า ผับ ว่า การประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ในวันที่ 18 ก.พ.นี้ จะมีการเสนอให้บอร์ดกคพ.รับคดีเพลิงไหม้ซานติก้า ผับ และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเป็นคดีพิเศษ จากนั้นกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จะเข้าสอบสวนดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดที่เป็นเอกชน ส่วนเจ้าหน้าที่รัฐที่ร่วมกระทำผิดตั้งแต่ระดับ 7 ลงมาจะเป็นหน้าที่ของป.ป.ท. หากการสอบสวนพบความผิดของเจ้าหน้าที่รัฐระดับ 8 หรือตั้งแต่ผู้อำนวยการขึ้นไป จะรวบรวมหลักฐานและส่งสำนวนให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการ

นายธาริต กล่าวอีกว่า ล่าสุด ป.ป.ท.ได้รับการประสานเป็นการส่วนตัวจากผู้อำนวยการเขตวัฒนา และอดีตผู้อำนวยการเขตวัฒนา เพื่อขอเข้าให้ข้อมูล ส่วนการเข้าให้ปากคำอย่างเป็นทางการจะต้องรอให้ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษก่อน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงสามารถทำหนังสือเชิญผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาให้การได้ ทั้งนี้ ล่าสุดป.ป.ท.ได้รับการประสานจากสำนักงานเขตวัฒนาว่า นายวิสุทธิ์ เสร็จสวัสดิ์ หรือ เสี่ยขาว ผู้ถือหุ้นบริษัทไวท์แอนด์บราเธอร์ จำกัด ได้ยื่นเรื่องขออนุญาตเข้าไปรื้อถอนซากอาคารที่ถูกเพลิงไหม้เพื่อส่งมอบพื้นที่คืนให้กับเจ้าของที่ดินที่แท้จริง ตนจึงเร่งรายงานข้อมูลต่อ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม จากนั้นได้ประสานไปยังสถานีตำรวจเจ้าของคดีเพื่อสั่งการไปยังบริษัทไวท์แอนด์บราเธอร์ฯ ไม่ให้เข้ารื้อถอนซากอาคารอย่างเด็ดขาด เนื่องจากซากอาคารเป็นวัตถุพยานที่เป็นสาระสำคัญหลักในคดี ความพยายามเข้าไปรื้อถอนจะส่งผลกระทบต่อรูปคดี

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook