ตื่นทองทะลุ1.6หมื่น แห้ไถ่คืนจากโรงตึ๊งหวังขายเก็งกำไร
ตื่นทองอีก ราคาทุบสถิติรอบใหม่ พุ่งทะลุ 16,000 บาทเป็นครั้งแรก หลังนักลงทุนทั่วโลกใช้เป็นแหล่งพักเงินทำกำไร เผยราคาผันผวนหนัก ทั้งวันราคาเปลี่ยนถึง 7 ครั้ง นายกค้าทอง เตือนนักเก็งกำไรยังเสี่ยงสูง ขณะที่ประชาชนแห่ไถ่ถอนคืน หวังนำมาขายเก็งกำไร
ราคาทองคำทำสถิติพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวถึงสถานการณ์ราคาทองคำว่า ราคาทองคำในตลาดต่างประเทศมีความผันผวนอย่างหนัก เนื่องจากมาตรการช่วยเหลือสถาบันการเงินที่รัฐบาลกลุ่มประเทศยุโรปจะออกมานั้นยังไม่มีความชัดเจน ส่งผลให้ราคาหุ้นและราคาน้ำมันตกต่ำลง เมื่อนักลงทุนไม่มีอะไรจะเข้าลงทุนจึงหันมาเก็งกำไรในทองคำกันมากขึ้น รวมทั้งเห็นว่าทองคำเป็นสินทรัพย์ลงทุนที่มีความปลอดภัยสุด
"ก่อนหน้านี้ราคาทองคำในตลาดนิวยอร์กปรับขึ้นไปที่ประมาณ 952 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ แต่ตลาดเอเชียยังไม่ปรับขึ้นตาม หรืออยู่ที่ 930 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ แต่มาคราวนี้ปรับตัวสูงขึ้นไปในทิศทางเดียวกันทั้งหมด ทำให้ขณะนี้ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงสูงถึง 960 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สูงกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ด้วยซ้ำ คือที่ราวๆ 950 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาในตลาดฮ่องกงยังไม่ทำสถิติสูงสุดใหม่เพราะเคยขึ้นไปสูงถึง 1,034 ดอลลาร์ต่อออนซ์" นายจิตติกล่าว
จากความผันผวนของราคาทองคำในตลาดโลก ส่งผลให้ราคาทองคำในประเทศต้องเปลี่ยนแปลงถึง 7 ครั้งแล้ว และปรับขึ้นต่อเนื่องรวม 250 บาท โดยล่าสุดราคาทองคำแท่งรับซื้อที่บาทละ 15,650 บาท และขายออกบาทละ 15,750 บาท ส่วนราคาทองรูปพรรณรับซื้อที่บาทละ 15,417.72 บาท และขายออกที่บาทละ 16,150 บาท ทำสถิติสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ในประเทศ สาเหตุหลักนั้นนอกจากตลาดต่างประเทศผันผวนแล้ว ยังมีปัจจัยเรื่องค่าเงินบาทอ่อนอีก ซึ่งขณะนี้บาทอ่อนค่าลงถึงระดับ 35.23 บาทต่อดอลลาร์
ส่วนบรรยากาศการซื้อขายทองคำในร้านค้าทองคำนั้น เป็นไปตามปกติ มีประชาชนนำทองมาขายไม่มากนัก เนื่องจากราคาทองคำปรับสูงขึ้นต่อเนื่องมา 20 กว่าวันแล้ว นับจากช่วงตรุษจีนเป็นต้นมา รวมแล้วมีประชาชนนำทองคำมาขายเป็นมูลค่ารวมหลายหมื่นล้านบาท ได้กำไรกันไปเกือบบาทละ 1,000 บาท ทำให้ราคาทองที่ทำสถิติสูงสุดใหม่ในครั้งนี้มีคนนำทองคำมาขายไม่มาก และร้านค้าทองยังรับมือได้อยู่
นายจิตติกล่าวถึงแนวโน้มราคาทองคำว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ จะต้องติดตามสถานการณ์และปัจจัยต่างๆ ในตลาดต่างประเทศก่อน โดยเฉพาะตลาดในสหรัฐ เนื่องจากตลาดปิดไปเมื่อวันจันทร์ แต่มองว่าทิศทางราคามีโอกาสขึ้นแรงได้พอๆ กัน และจะต้องติดตามดูก่อนว่ามีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาอีกหรือไม่ จึงขอเตือนนักลงทุนที่จะเข้ามาเก็งกำไรจะต้องมีความระมัดระวังอย่างสูง เพราะมีความเสี่ยงค่อนข้างมาก
จากผลพวงจากภาวการณ์ดังกล่าว สำนักงานสถานธนานุบาลกรุงเทพมหานคร ระบุว่า โรงรับจำนำกรุงเทพมหานคร ได้เตรียมสำรองเงินไว้ให้บริการประชาชนจำนวน 300 ล้านบาท ซึ่งเงินจำนวนนี้เตรียมไว้เพื่อจัดสรรให้แก่โรงรับจำนำของ กทม.ทั้ง 20 สาขา ใช้กรณีฉุกเฉินที่เงินในสาขาหมุนเวียนไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน เนื่องจากทองราคาปรับขึ้น ประชาชนจึงแห่มาไถ่ถอนเป็นจำนวนมาก คาดว่าอาจเป็นการเก็งกำไรส่วนต่างราคา จึงต้องมีการสำรองเงินเพิ่ม
ส่วนเงินทุนหมุนเวียนของโรงรับจำนำทั้ง 20 สาขาในขณะนี้ มีจำนวนทั้งสิ้น 550 ล้านบาท โดยตัวเลขการไถ่ถอนจะสูงกว่าการจำนำ เนื่องจากราคาทองที่สูงขึ้นทำให้ประชาชนหันไปขายขาดมากกว่าการจำนำ ยอดการจำนำจึงลดลงมากเมื่อเทียบกับหลายเดือนที่ผ่านมา อีกทั้งประชาชนยังไม่นิยมเก็บทองไว้กับตัว เพราะกลัวจะถูกปล้น จี้ชิงทรัพย์
ขณะที่ นายสุรพล โอวิทยากุล ประธานชมรมร้านทอง จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า บรรยากาศหลังราคาปรับตัวสูงขึ้น พบว่าประชาชนที่นำมาขายทำกำไรเป็นกลุ่มที่ยังมีทองเหลืออยู่ในมือเท่านั้น แต่ก็มีจำนวนไม่มากนัก มีประชาชนทยอยนำทองคำมาขายประปราย ไม่ถึงขั้นต่อแถวรับบัตรคิวเหมือนร้านทองในกรุงเทพฯ ทั้งนี้ เหตุที่ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้น เพราะเกิดวิกฤติในตลาดเงิน จนเกิดความไม่มั่นใจในค่าเงินที่มีความผันผวน จึงหันกลับมาลงทุนในตลาดทองคำ ซึ่งมีความมั่นคงมากกว่า