ย้อนรอยเกาะเต่า 3 ปี กลืนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 7 ราย

ย้อนรอยเกาะเต่า 3 ปี กลืนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 7 ราย

ย้อนรอยเกาะเต่า 3 ปี กลืนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 7 ราย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เหตุการณ์ความสูญเสียคงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเกิดจากสิ่งใดก็ตาม แต่การหาคำตอบกับเรื่องที่เกิดขึ้น ถือเป็นสิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการโดยเร็วที่สุด เพราะความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวต่างชาติ เป็นเรื่องละเอียดอ่อนอย่างยิ่ง

แม้ยังไม่ได้ข้อสรุปที่แน่ชัด ถึงการเสียชีวิตปริศนาของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติรายที่ 7 กับกรณีสาวเบลเยี่ยมแขวนคอเสียชีวิตบนเกาะเต่า เนื่่องจากญาติผู้เสียชีวิตยังติดใจในหลายประเด็น ทั้งสาเหตุการเสียชีวิต และผลพิสูจน์ข้อเท็จจริง เพราะไม่เชื่อว่ามีเหตุจูงใจที่น.ส.เอลิเซ่ โซฟี วินซีน เอ็นมานูเอล หรือเอลิส จะฆ่าตัวตาย

ส่งผลพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ต้องออกคำสั่งโดยด่วนมอบหมายให้ให้ตำรวจกองบังคับการปราบปรามลงพื้นที่ไปคลี่คลายข้อสงสัยที่เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ทันที

แต่ล่าสุดเรื่องที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ภาพลักษณ์ของเกาะเต่า ถูกสื่อต่างชาติตั้งฉายา "เกาะฆาตกร" เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หากหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องไม่สามารถหาคำตอบหรือข้อเท็จจริงมายืนยัน อาจทำให้ภาพรวมการท่องเที่ยวของไทยในมุมมองของต่างชาติลดลงก็เป็นได้

หากย้อนรอยไปในปี 2557-2560 ถือเป็นเวลากว่า 3 ปีที่ผ่านมา การเสียชีวิตของสาวเบลเยี่ยมไม่ได้เป็นรายแรก แต่ถือเป็นนักท่องเที่ยวรายที่ 7 แล้ว ที่เดินทางมาท่องเที่ยวเกาะเต่า เพราะจากการรวบรวมคดีของสื่อต่างประเทศ พบว่ามีคดีที่เกิดขึ้นจากในช่วงที่ผ่านมาถึง 6 ราย ได้แก่ คดี นายเดวิด มิลเลอร์ และ น.ส.ฮันนาห์ วิทเธอริดจ์ ซึ่งถูกฆาตกรรมเมื่อเดือนกันยายน 2557 ถือเป็นคดีที่สะเทือนขวัญมากที่สุด

รวมถึงการเสียชีวิตของ นายซูเตอร์ ฮานส์ปีเตอร์ ชาวสวิส หายตัวไปจากเกาะเต่าเมื่อพฤศจิกายน 2557 และภายหลังสืบทราบว่าจมน้ำและถูกคลื่นซัดไปเกยหาดที่ จ.ชุมพร, น.ส.คริสตินา อันส์ลีย์ ชาวอังกฤษ วัย 23 ปี เสียชีวิตในห้องพักแห่งหนึ่งที่หาดทรายรีบนเกาะเต่าเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2558 และ นายลุค มิลเลอร์ ชาวอังกฤษ ถูกพบเป็นศพในสระน้ำของโรงแรมแห่งหนึ่งบนเกาะเต่าในเดือนมกราคม 2559 และ นางสาววาเลนตินา โนวอเชินโนวา ชาวรัสเซียซึ่งมาดำน้ำที่เกาะเต่าและหายตัวไปตั้งแต่เดือนมีนาคม 2560 ที่ผ่านมา

สิ่งที่เกิดขึ้น ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคงเร่งมือจัดการโดยด่วน เพราะหากยังปล่อยให้เวลาผ่านไปเนิ่นนาน อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวต่างชาติในการเดินทางมายังประเทศไทยอย่างแน่นอน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook