เปิดใจ! เหยื่อถูกทนายโกงเงิน “หมดตัว ชีวิตพัง ลูกคิดฆ่าตัวตาย”

เปิดใจ! เหยื่อถูกทนายโกงเงิน “หมดตัว ชีวิตพัง ลูกคิดฆ่าตัวตาย”

เปิดใจ! เหยื่อถูกทนายโกงเงิน “หมดตัว ชีวิตพัง ลูกคิดฆ่าตัวตาย”
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ชื่อของ “ทนายพิสิษฐ์” ปรากฏอยู่บนสื่อต่างๆมากมาย ทั้งสื่อกระแสหลัก และโซเชียลมีเดีย หลังนายพิสิษฐ์โกงเงินชดใช้ค่าหายจำนวน 5 ล้านบาท ของ น.ส.พรทิพย์ และน้องบีม เด็กหญิงพิการที่ประสบอุบัติเหตุรถชนที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ล่าสุด มีผู้เสียหายอีกหนึ่งคนที่ถูกทนายรายนี้โกงเงินจำนวนกว่า 1 ล้านบาท เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรรัตนาธิเบศร์ จังหวัดนนทบุรี ทราบชื่อคือ น.ส.นิษฐาณัฐ

น.ส.นิษฐาณัฐ เปิดเผยผ่านรายการเป็นเรื่องเป็นข่าวทางช่องพีพีทีวีว่า ตนเคยว่าจ้างทนายพิสิษฐ์ ให้ช่วยดำเนินการเกี่ยวกับมรดกครอบครัวที่ได้รับจากพ่อแม่ หลังจากนั้น ทนายพิสิษฐ์ ได้ขอยืมเงิน 5 แสนบาท โดยอ้างว่าจะนำเงินส่วนนี้ไปใช้เรียนต่อ อีกทั้งยังขอยืมเงินญาติของตนอีก 4.5 แสนบาท รวมถึงยืมเงินค่ารถและค่าอื่นๆรวมกว่า 1.3 ล้านบาท

ผู้เสียหายหญิงรายนี้ กล่าวว่า สาเหตุที่ให้หยิบยืมเงินก็เพราะเชื่อใจ เนื่องจากมีอาชีพเป็นถึงทนายความไม่น่าจะมาหลอกลวงประชาชน และด้วยคำอ้างที่ว่าจะนำไปเรียนต่อปริญญาเอก ซึ่งตนก็คิดว่าถ้าให้ยืมจะเป็นบุญกุศลต่อครอบครัว โดยไม่คิดเลยว่าสุดท้ายจะโดนเชิดเงินหนีไป

นอกจากนี้ น.ส.นิษฐาณัฐ ยังบอกอีกว่า หลังถูกโกงเงิน ครอบครัวของตนสิ้นเนื้อประดาตัว ลูกชายไม่ได้เรียนหนังสือ รถถูกยึด อีกทั้งลูกทั้ง 3 คนยังเคยคิดสั้นฆ่าตัวตายอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม การหยิบยืมเงินกว่า 1 ล้านบาทในครั้งนี้ น.ส.นิษฐาณัฐ บอกว่าไม่มีการทำบันทึกหลักฐานการยืมเงินอย่างเป็นทางการ มีเพียงกระดาษ 1 แผ่นที่จดจำนวนเงินและยอดรวมทั้งหมดด้วยลายมือของตน

ด้าน ทนายเสาวภักดิ์ สกุลโรมวิลาส อุปนายกฝ่ายช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายสภาทนายความ ระบุว่า กระดาษบันทึกดังกล่าวสามารถใช้เป็นหลักฐานดำเนินคดีกับนายพิสิษฐ์ได้ เนื่องจากเชื่อได้ว่าเป็นสิ่งที่ทำจัดทำขึ้นมาตามความจริง และสภาทนายความพร้อมให้การช่วยเหลือ น.ส.นิษฐาณัฐ เนื่องจากเป็นผู้ยากไร้และไม่ได้รับความเป็นธรรม โดยแนะนำให้ไปยื่นเรื่องขอความช่วยเหลือที่สภาทนายความพรุ่งนี้เช้า

ส่วนเรื่องการติดตามตัว “นายพิสิษฐ์” ทนายเสาวภักดิ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถติดต่อได้ แต่อย่างไรก็ตามในวันที่ 6 กรกฎาคมนี้ นายกสภาทนายความ ได้เรียกประชุมคณะกรรมการบริหารของสภาทนายความเพื่อพิจารณาบทลงโทษ คาดว่านายพิสิษฐ์จะถูกจำหน่ายชื่อออก และไม่สามารถว่าความได้อีกตลอดชีวิต

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook