ใจเย็น! “กรีน อัษฎาพร” อมยิ้ม หลังถูกถามหนุ่มคนสนิทร่วมช่องคือใคร?!

ถูกจับตาเรื่องหัวใจพอสมควรสำหรับสาว “กรีน อัษฎาพร สิริวัฒน์ธนกุล” เพราะล่าสุดได้ยินแว่วๆ ว่าเจ้าตัวมีหนุ่มคุยแล้ว แถมหนุ่มคนสนิทคนนี้ยังเป็นเพื่อนร่วมช่องอีกด้วย พอได้เจอเจ้าตัวในงานบวงสรวงภาพยนตร์ไทยฟอร์มยักษ์ “มังกร นารี ปีศาจ (The Trilogical Affairs)” ณ สตูดิโอถ่ายทำภาพยนตร์ มังกร นารี ปีศาจ บางพลี ก็ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า

“เรื่องหัวใจก็ยังคุยอยู่เรื่อยๆ ก็ไม่ได้จะปิดบังแต่เราอยากให้ชัวร์ก่อน ถ้าบอกไปคนก็จะจับจ้องกันเราก็อยากมีชีวิตส่วนตัวนิดหนึ่ง ก็คุยกันได้ประมาณหนึ่ง ที่บอกหนุ่มรู้ใจเป็นพระเอกร่วมช่อง แรกเริ่มก็มาจากการเป็นเพื่อนก่อน เขาก็รุ่นๆ เดียวกับเรา ไม่ได้เกี่ยวว่าเป็นพระเอกหรือยังไงอยู่ที่คลิ้กกันและเข้าใจหรือเปล่า

เราไม่ได้มองเรื่องสังกัดเดียวกัน มันเป็นที่ความบังเอิญที่เราเจอกันแล้วได้ปรึกษาเรื่องธุรกิจและอะไรหลายๆ อย่าง ก็จะมีวิสัยทัศน์ที่ตรงกัน ความคิดที่คล้ายๆ กัน จะเรียกว่าเขาเป็นคู่จิ้นเราไหมก็บอกตรงๆ เลยว่าเราไม่มีคู่จิ้นเลย เคยร่วมงานกันประมาณ 2 ครั้งได้มั้ง ส่วนแก๊งเดียวกันไหมก็ไม่หรอก จริงๆ เราไม่มีแก๊ง เราไม่ได้มีเพื่อนในวงการเยอะ ส่วนใหญ่จะเป็นรุ่นพี่ที่เราเคยผ่านงานมาด้วยกัน

เอาจริงๆ เรื่องนี้เราก็ไม่ได้ปิดอยู่แล้วนะ เวลาไปกินข้าวหรือไปไหนด้วยกันก็ไม่ได้แอบไปเพียงแต่ไม่ได้เป็นจุดสนใจเท่านั้นเอง ก็อย่างที่บอกว่ารอให้มันนิ่งกว่านี้ก่อน เราไม่รู้ว่าวันนี้ดีแต่วันหน้าอาจจะมีปัญหากันก็ได้ คนที่รับฟังเราเขาก็อาจจะงงได้ว่าอะไรกันแน่ มันก็เป็นเรื่องปกติของทุกคนเนอะ เวลาเราคุยกับใครมันก็มีขึ้นๆ ลงๆ เราเลยรู้สึกว่ายังไม่ค่อยนิ่งเท่าไร คุณพ่อคุณแม่ท่านก็ทราบ ท่านบอกให้เราดูไปเรื่อยๆ ให้เราตัดสินใจ แต่ตอนนี้เรารู้ว่าเราควรโฟกัสเรื่องอะไร

กับที่บอกว่าเราหายไปจากละครของช่อง 7 คือตอนนี้ยังมีที่ผู้หญิงกำลังดูๆ ให้อยู่ และเพิ่งเปิดกล้องไป 1 เรื่อง ที่ไม่ค่อยเห็นก็คือทางช่องมีนักแสดงเยอะขึ้นและยังไม่มีละครที่เหมาะกับเรา เขาก็จะบอกให้เรารอก่อน เรื่องสัญญาก็เพิ่งต่อไป ไม่เกี่ยวว่าต่อสัญญาแล้วได้ละครมาหรอกเพราะเราคุยกันก่อนหน้านี้แล้ว ไม่ใช่ละครน้อยเพราะอยู่ในช่วงสัญญาหมดแน่นอน เราก็ต้องเข้าใจเขาเนอะ ตอนแรกต่างฝ่ายอาจจะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายคิดยังไง แต่พอคุยกันแล้วลงตัวก็เซ็นสัญญาเลย

ที่ช่องมีนางเอกใหม่เยอะส่วนตัวก็ไม่ซีเรียส ดีแล้ว เรามองเป็นโอกาสที่แต่ละคนมี ก็ช่วยๆ กัน ทางช่องจะได้มีนักแสดงมากหน้าหลายตาและหลากหลายรูปแบบ ก็ไม่ได้น้อยใจอะไรเพราะสมัยเราเข้ามาใหม่ๆ เขาก็มาดันเราให้ได้ชิมลางแล้วมีละครเรื่อยๆ มา กับน้องๆ ก็เหมือนกัน เราก็ต้องให้โอกาสเขา เราไม่รู้ว่าใครสามารถไปได้ถึงไหนก็ต้องช่วยๆ กันดัน แล้วที่บอกเราไม่ค่อยได้ประกบพระเอกต้นๆ ของช่อง อันนี้มันอยู่ที่จังหวะมากกว่า เราไม่ได้คิดมากอะไร

สำหรับงานอื่นๆ ก็มีหนังนี่แหละ และอีเว้นท์นิดๆ หน่อยๆ อย่างที่รู้กันว่าช่วงนี้เศรษฐกิจเป็นยังไง แต่ละอีเว้นท์ก็ต้องดูว่าจัดแต่ละครั้งเขาจะคุ้มไหม บวงกับเราช่วงที่ผ่านมาไม่ค่อยมีกระแสละครเท่าไรด้วยก็เลยห่างหายไปช่วงหนึ่ง แต่เราก็มีธุรกิจที่ทำกับเพื่อนอยู่แล้ว เป็นธุรกิจแว่นตา ตอนนี้ก็เรื่อยๆ เรายังต้องเรียนรู้และศึกษาอีก แม้เราจะจบป.โทบริหารมาแต่พอมาทำจริงๆ มันจะไม่เหมือนกับที่เราเรียนอยู่ในห้อง”