สอบสวนครูเฆี่ยน ป.1 ลายทั้งแผ่นหลัง ล่าสุดยังไม่มาทำงาน
สพป.สั่งสอบสอบปมดราม่า ครูเฆี่ยนหลังเด็กนักเรียน ป.1 เหตุเพราะหยิบปากกาครู เป็นห่วงสภาพจิตใจเด็ก พบครอบครัวยากจน อาศัยอยู่เพิงเล็กๆ ถึง 9 ชีวิต ล่าสุดครูยังไม่มาทำงานหลังเกิดเหตุ
ความคืบหน้ากรณี เด็กชายเอ อายุ 7 ปี (นามสมมุติ) เด็กนักเรียนชั้น ป.1 อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ถูก นายสังวร อายุ 57 ปี ครูประจำชั้น ป.4 ได้ใช้ไม้เรียวทำโทษ โดยใช้ก้านไม้ลำดวน ฟาดเข้าที่ด้านหลังและแขน เป็นรอยฟกช้ำอย่างชัดเจน สาเหตุเพราะเด็กไปหยิบปากกาครูมาจากโต๊ะ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ผู้เป็นแม่ได้ถ่ายภาพจากโทรศัพท์มือถือ นำภาพแชร์ในสังคมโซเชียลมีเดีย จนมีคนแชร์และแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งสื่อมวลชนแขนงต่างๆ ได้มีการนำเสนอข่าว ไปแล้วนั้น
วันนี้ (7 ก.ค.) นายคำปุ่น บุญเชิญ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3(สพป.สุรินทร์เขต 3) ได้เดินทางไปเยี่ยม เด็กเรียนและผู้ปกครอง พร้อมมอบเงินสดจำนวน 3,000 บาท เป็นการปลอบขวัญและเรียกขวัญเด็ก และเป็นกำลังใจให้ผู้ปกครอง
จากนั้นได้เดินทางไปยังโรงเรียน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับผู้อำนวยการโรงเรียน โดยได้สอบถามข้อมูลพฤติการณ์ของนายสังวร ครูประจำชั้น ป.4 ที่เป็นผู้ลงมือใช้ไม้เรียวเฆี่ยนเด็ก และพฤติการณ์ของเด็ก คนที่ถูกครูใช้ไม้เรี่ยวเฆี่ยน พร้อมกำชับผู้อำนวยการโรงเรียนได้สอดส่องการปฏิบัติหน้าที่ของครูตามกรอบจรรยาบรรณของครู และหากเกิดเหตุการณ์ ที่ครูไปกระทำการที่ไม่ถูกต้อง ก็จะต้องถูกลงโทษทั้งทางวินัยและอาญา ครูต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้คนอื่นๆ และเด็กนักเรียน
นายคำปุ่น เปิดเผยว่า วันนี้ได้เดินทางมาเพื่อติดตามความคืบหน้าหน้าในการติดตามสอบสวนข้อเท็จจริง และให้นโยบายผู้บริหารโรงเรียนในการสอบสวนให้เสร็จภายใน 7 วัน อย่างช้าในวันที่ 11-12 ก.ค.น่าจะได้ข้อสรุป และได้เดินทางไปให้กำลังใจแก่ครอบครัวเด็ก และเด็กที่ถูกคุณครูตีได้มอบเงิน จำนวน 3,000 บาท เพื่อเป็นการเรียกขวัญให้เด็ก
ขณะนี้ทางผู้อำนวยการโรงเรียนสืบข้อเท็จจริงและก็จะรายงานให้เขตการศึกษาสุรินทร์ เขต 3 ได้ทราบภายใน 7 วัน เพระไม่ใช่เรื่องยุงยาก เพราะข้อเท็จจริงปรากฏอยู่แล้ว ส่วนการสืบสวนในพฤติการณ์ของครู คณะกรรมการเขาดำเนินการ
ส่วนบทลงโทษ ว่าไปตามข้อเท็จจริง มีบทลงโทษ ชัดเจน ทั้งทางวินัย และอาญา ผิดถูกอย่างไรว่ากันตามขบวนการ ให้ความเป็นธรรมทั้งครูและนักเรียน ที่สำคัญ เรารักษาสถานะสถาบันความเป็นวิชาชีพของครู
ขณะที่เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นางสาวพรนภา มีชื่น นักพัฒนาสังคมสงเคราะห์ บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสุรินทร์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่นักพัฒนาสงคมสงเคราะห์ ได้เดินทางมาติดตามข้อเท็จจริงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะกับครอบครัว ของเด็ก ที่ถูกครูใช้ไม่เรียวเฆี่ยนตี ได้สอบถามข้อมูลชีวิตความเป็นอยู่
พบว่าครอบครัวของเด็กมีฐานะยากจน อาชีพ รับจ้างก่อสร้างเล็กๆ น้อยๆ ต่อเติมบ้านชั้นเดียวปิดล้อมด้วยสังกะสี อาศัยอยู่ด้วยกัน ถึง 9 คน พื้นบ้านมีไม้ปูพอใช้เป็นที่นอน ลูกหลานกางมุ้งนอนรวมกัน ซึ่งทางบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสุรินทร์ เตรียมที่จะนำตัวเด็กไปพบแพทย์ เพื่อรักษาทั้งสภาพร่างกายและจิตใจ หลังจากที่ครูลงโทษด้วยการเฆี่ยนตี และอาจต้องให้นักจิตวิทยา ทดสอบสภาพจิตของเด็กด้วย
ในเบื้องต้นบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสุรินทร์ มอบเงินสงเคราะห์เด็กในเบื้องต้น และสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุรินทร์ มอบเครื่องอุปโภคบริโภค 1 ชุด และจะพิจารณาช่วยเหลือเงินสงเคราะห์ครอบครัว เนื่องจากครอบครัวเด็กมีฐานะยากลำบาก ทางหน่วยงาน พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุรินทร์ จะลงพื้นที่ช่วยเหลือครอบครัวของเด็กในด้านอื่นๆ ต่อไป
ย่าของเด็กชายที่ครูใช้ไม้เรียวเฆี่ยนตี บอกว่า หลานเพิ่งย้ายมาจากจังหวัดชลบุรี เพราะก่อนหน้านั่น ได้เรียนอยู่กับยาย ทำงานก่อสร้างที่พัทยาและเพิ่งย้ายมาเข้าเรียนที่โรงเรียนในช่วงเปิดเทอมนี้เอง หลังเลิกเรียนทุกวัน เสื้อผ้าหลานตนเอง จะเปรอะเปื้อนเลอะเทอะไปด้วยสีน้ำมันที่เพื่อนๆ นำมาทาที่กางเกงและเสื้อผ้า บางวันหน้าตาก็ถูกใช้สีเขียนใบหน้าคล้ายหน้าแมว
ส่วน พ.ต.ท.ปรเวศ กระเวรกิจ สารวัตรสอบสวน สภ.สังขะ ซึ่งรับแจ้งความร้องทุกข์ตามคดีอาญา ที่ 226/2560 วันนี้ก็ได้เดินทางมาสอบปากคำ คุณครูในโรงเรียนที่เห็นเหตุการณ์ และสอบปากคำครูประจำชั้น ป.4 ที่ลงมือใช้ไม้เรียวตีเด็ก เพื่อดำเนินคดีตามที่ตามกฎหมาย ที่ผู้ปกครองของเด็กแจ้งความเอาไว้ สำหรับครูประจำชั้น ป.4 หลังจากเกิดเหตุ ก็ไม่ได้เดินทางมาที่โรงเรียนแต่อย่างใด ซึ่งทางพนักงานสอบสวนจะได้ออกหมายเรียกมาให้ปากคำต่อไป