แอม-อ้อม อาลัยถึง "แหวน ธิติมา" ซึ้งใจเป็นพี่ที่ไม่เคยบ่น แม้จะเจ็บป่วย

แอม-อ้อม อาลัยถึง "แหวน ธิติมา" ซึ้งใจเป็นพี่ที่ไม่เคยบ่น แม้จะเจ็บป่วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"แอม เสาวลักษณ์" และ "อ้อม สุนิสา" เป็นอีกหนึ่งพี่น้องในวงการดนตรีที่คลุกคลีและเคยร่วมงานกับ "แหวน ธิติมา" มาต่อหลายครั้ง แต่เมื่อถึงวันที่ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไป ก็รู้สึกใจหายไม่แพ้ใครเช่นเดียวกัน ในงานพิธีรดน้ำศพส่งท้ายความอาลัยครั้งนี้ ศิลปินทั้งสองก็ออกมาพูดถึงพี่สาวที่เคารพรักและขอจดจำเป็นแบบอย่างตลอดไป

อยากให้เล่าความผูกพันและความรู้สึกที่เรามีต่อพี่แหวน ?
แอม - พี่กับพี่แหวนเรารู้จักกันมาหลายปีมาก นานมากแล้ว เราร่วมงานกันมามากครั้งหลายคอนเสิร์ต ก็ถือว่าสนิทกัน และทุกครั้งที่ร่วมงานกับพี่แหวนสิ่งแรกที่เห็นชัดเลยคือ พี่แหวนจะเป็นคนที่อารมณ์ดี ใจดี และเป็นคนที่หัวเราะเสียงดัง หัวเราะได้ตลอดเวลา พี่แหวนไม่เคยบ่นอะไรเลย ถึงแม้บางครั้งบางทีการทำงานจะมีปัญหา แต่พี่แหวนเขาก็จะขำตลอด เป็นคนที่มีอารมณ์ขันมากค่ะ ขนาดเวลาทานข้าวด้วยกัน พี่แหวนเขาก็จะไม่สั่งอาหารเฉพาะของตัวเอง แต่พี่เขาชอบและเลือกที่จะทานกับน้องๆ ตลอด

อ้อม - ใช่ค่ะ น้าแหวนเป็นคนที่ต่อให้ทำงานหนักแค่ไหนเขาก็ไม่บ่น เขาเป็นคนใจดี อยู่ใกล้ๆ แล้วรู้สึกสบายใจ ทุกครั้งที่เห็นเขาเขาก็จะเป็นแบบนี้ตลอด และอีกสิ่งหนึ่งที่อ้อมคิดว่าทุกคนน่าจะเห็นเหมือนกันก็คือ น้าแหวนเป็นนักสู้ เขาไม่เคยบอกใครเลยว่าเขาเจ็บป่วยหรือเป็นอะไร น้าแหวนจะทำตัวเป็นปกติตลอด ไม่เคยทำตัวเป็นคนป่วยให้เราเห็นเลย ซึ่งอ้อมคิดว่าน้าแหวนเป็นตัวอย่างที่ดีนะคะ และเพิ่มเติมอีกอย่างหนึ่งก็คือ น้าแหวนเป็นแม่ของปันปันที่รักลูกที่สุดแล้ว

ช่วงที่ทราบว่าพี่แหวนกลับมาป่วยเราได้มีโอกาสไปเยี่ยมบ้างไหม ?
แอม - ทุกคนก็ตามอาการพี่แหวนอยู่ตลอดนะคะ คือได้เจอบ้าง ห่างกันบ้าง ขึ้นอยู่กับภารกิจของแต่ละคน แต่ตอนที่พี่แหวนป่วยครั้งล่าสุดนี้ ตัวพี่เองไม่ได้อยู่ในไทยเพราะต้องเดินทางไปต่างประเทศ แต่ก็ทราบข่าวผ่านทางแชทที่เพื่อนๆ ส่งมาให้ว่าอาการพี่แหวนทรุด ยอมรับนะคะว่าตอนนั้นตกใจเหมือนกัน แต่ก็พยายามมองในแง่ดีเพราะพี่แหวนเขาเคยรักษาหายมาแล้ว ก็คิดว่าหากพี่แหวนพักผ่อนและกลับมาดูแลสุขภาพใหม่อาการก็น่าจะดีขึ้น ถามว่าครั้งสุดท้ายที่พูดคุยกันคือเมื่อไหร่ เอ่อ...เราก็ไม่ได้เจอกันมานานเหมือนกันนะคะ คือมันไม่ทันได้ตั้งตัวจริงๆ ทุกอย่างมันเร็วมาก มันกระทันหัน และพอถึงจุดหนึ่งที่เราไม่สามารถไปเยี่ยมได้เพราะพี่แหวนต้องรับการดูแลอย่างใกล้ชิด เราก็เลยทำได้แค่คอยให้กำลังใจอยู่ข้างนอกและถามไถ่อาการอยู่ตลอด

ครั้งแรกที่ทราบข่าวว่าพี่แหวนเสียความรู้สึกเราตอนนั้นเป็นยังไง ?
แอม - จริงๆ เราสองคนก็เป็นคนที่ศึกษาธรรมะกันอยู่นะคะ ดังนั้นเรื่องของการที่คนเราเกิดแก่เจ็บตายเราเองก็พอจะเข้าใจ เพียงแต่ว่าตัวเราเองก็ยังไม่ได้บรรลุอะไร ดังนั้นมันก็เลยเป็นธรรมดาของการที่เราจะรู้สึกร่วมกับพี่แหวนและครอบครัว คือเรารู้สึกทั้งสงสารและใจหาย เพราะพี่แหวนเขามีความตั้งใจที่จะมีชีวิตอยู่ต่อ เขาไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้ให้กับโรคร้าย พี่แหวนเป็นนักสู้ ดังนั้นสิ่งที่เรารู้สึกมันก็เลยเหมือนกับถ้าเปรียบเป็นกีฬามันก็คือไม่แฟร์ เพราะพี่แหวนเขาสู้จริงๆ แต่ทุกอย่างมันก็เป็นธรรมชาติของชีวิต

อยากจะบอกอะไรพี่แหวนไหมหากพี่เขารับรู้ได้ ?
อ้อม - อ้อมก็ไม่รู้จะบอกอะไรนะคะ แต่อ้อมคิดว่าสิ่งที่น้าแหวนทำสอนเราได้เยอะมาก คือถ้าเราทำดีความดีมันก็ยังอยู่ ถึงตัวเราจากไปแล้ว แต่ก็ยังมีความดีฝากเอาไว้ให้คนรุ่นหลัง และอีกอย่างที่เราได้เห็นคือ ความตายมันไม่เลือกอายุนะคะ ดังนั้นมันก็ควรจะถึงวันที่เราควรมองย้อนกลับมาที่ตัวเองและไม่ประมาทได้แล้ว เราควรคิดได้แล้วว่าเราจะอยู่ยังไง อยู่ยังไงให้คนอื่นไม่ลำบากใจเมื่อต้องอยู่กับเรา เพราะสักวันหนึ่งวันนี้มันก็จะเป็นวันของเรา

แอม - เหมือนพี่แหวนเขามาเตือนสติเรา ทำให้เรารู้ว่าความตายมันไม่ได้อยู่ไกลอย่างที่คิด ความตายเป็นเรื่องใกล้ตัว ไม่สามารถมีใครรู้ได้ว่าเราจะตายเมื่อไหร่หรือวันไหน ดังนั้นก็ดูแลตัวเองให้ดีทั้งสุขภาพกายและจิตใจนะคะ อีกอย่างที่อยากบอกพี่แหวนก็คือ พี่แหวนคงได้เห็นนะคะว่าทุกคนรักพี่แหวนมากจริงๆ ตอนที่พี่แหวนยังอยู่ทุกคนรักพี่แหวนแค่ไหน แม้ตอนที่พี่แหวนจากไปพี่แหวนก็ยังเป็นที่รักของทุกคนมากไม่น้อยไปกว่าเดิม

อัลบั้มภาพ 6 ภาพ

อัลบั้มภาพ 6 ภาพ ของ แอม-อ้อม อาลัยถึง "แหวน ธิติมา" ซึ้งใจเป็นพี่ที่ไม่เคยบ่น แม้จะเจ็บป่วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook