“พลิกปม” กลุ่มชายชุดลายพราง บุกฆ่ายกครัวผู้ใหญ่บ้าน

“พลิกปม” กลุ่มชายชุดลายพราง บุกฆ่ายกครัวผู้ใหญ่บ้าน

“พลิกปม” กลุ่มชายชุดลายพราง บุกฆ่ายกครัวผู้ใหญ่บ้าน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เป็นคดีสะเทือนขวัญที่วันนี้ถูกพูดถึงมากที่สุด สำหรับการบุกฆ่ายกครัวผู้ใหญ่บ้านในอำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ จนถึงขณะนี้ตำรวจยังไม่ฟันธงปมฆ่าชัดเจน แต่พบเบาะแสสำคัญเป็นกระสุนปืนที่ใช้สังหารถูกจัดวางในลักษณะที่อาจจะมีความหมายบางอย่างซ่อนอยู่

ตลอดทั้งวันภายในที่ทำการผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ตำบลบ้านกลาง อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ ตำรวจพิสูจน์หลักฐานและชุดสืบสวน สภ.อ่าวลึก เข้าตรวจสอบจุดสังหารสมาชิกในครอบครัวและบริเวณโดยรอบอย่างละเอียด ลักษณะของที่นี่เป็นเดี่ยวปลูกติดกันหลายหลัง มีรั้วรอบขอบชิด

แม้หลังตรวจสอบเจ้าหน้าที่จะยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดของหลักฐานที่พบอย่างเป็นทางการ แต่ทีมข่าว PPTV ได้รับข้อมูลจากแหล่งข่าวในตำรวจภูธรภาค 8 ว่า รูปแบบการสังหารนายวรยุทธ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 และคนในครอบครัวครั้งนี้ที่ปมที่น่าสนใจ

ตามข้อมูลที่ตำรวจมีอยู่ เมื่อนำมาปะติดปะต่อเป็นเหตุการณ์ พบว่า ผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มชายสวนชุดลายพรางคล้ายทหารประมาณ 6-7 คน บุกเข้ามาภายในบ้านของผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 พร้อมอาวุธเมื่อช่วงเย็นของเมื่อวานนี้ (10ก.ค.60)  โดยใช้ข้ออ้างกับบุคคลภายในบ้านว่า เป็นการเข้าตรวจค้นของเจ้าหน้าที่รัฐ และบังคับให้สมาชิกทุกคนภายในบ้านห้ามออกไปไหน

จนถึงเวลาที่นายวรยุทธ เจ้าของบ้านมีตำแหน่งเป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 เดินทางกลับมาถึงบ้านในช่วงเวลาราว 20.00 น. จากนั้นคนผู้ก่อเหตุเข้าควบคุมตัวนายวรยุทธด้วยการใส่กุญแจมือปิดบังใบหน้าไม่ให้มองเห็น

กระทั่งเที่ยงคืนตรง กลุ่มผู้ก่อเหตุได้ใช้อาวุธปืนยิงนายวรยุทธและทุกคนภายในบ้านรวม 11 คน ในลักษณะจ่อยิงศีรษะคนละนัด จากนั้นกลุ่มผู้ก่อเหตุก็ได้หลบหนี โดยนำรถยนต์โตโยต้า ยาริส ทะเบียน กค 533 กระบี่ของเจ้าของบ้านไปด้วย

การก่อเหตุครั้งนี้ส่งผลให้นายวรยุทธและสมาชิกในครอบครัว เสียชีวิตรวม 8 คน และเวลานี้ยังอยู่ในสภาพบาดเจ็บสาหัสอีก 3 คน ในจำนวนสมาชิกครอบครัว 11 คนที่ถูกจ่อยิง มีเด็กที่ยังมีคำนำหน้าว่าเด็กหญิงถึง 5 คน

นอกจากลักษณะการก่อเหตุที่มีความโหดเหี้ยม เรื่องนี้ยิ่งมีความน่าสนใจ เมื่อแหล่งข่าวในตำรวจภูธรภาค 8 เปิดเผยกับทีมข่าว PPTV ว่า การเข้าเก็บหลักฐานพบกระสุนปืนที่กลุ่มผู้ก่อเหตุใช้สังหารสมาชิกในครอบครัวของผู้ใหญ่บ้านครั้งนี้ ไม่ได้มาจากปืนของกลุ่มผู้ก่อเหตุ แต่เป็นปืนจุด 38 ที่อยู่ภายในบ้านของผู้ใหญ่บ้าน

โดยลักษณะของปลอกกระสุนที่ตรวจพบ พบว่า หลังกลุ่มผู้ก่อเหตุลั่นไก ได้ดึงปลอกกระสุนออกมาจากรังเพลิงและนำมาวางเรียงไว้ในห้องที่ก่อเหตุ 2 ห้อง ห้องละ 4 ปลอก และพบค้างอยู่ในรังเพลิงในลักษณะยิงแล้วอีก 2 ปลอก รวม 10 ปลอก โดยอีก 1 ปลอกยังหาไม่พบ

หากข้อมูลเป็นไปตามนี้น่าสนใจว่า นอกจากรหัสที่กลุ่มผู้ก่อเหตุซ่อนไว้จากการจัดเรียงปลอกกระสุนตามห้องที่สังหารสมาชิกในครอบครัวที่อาจจะต้องอาศัยการตีความหลังจากนี้ว่ามีความหมายอะไรหรือไม่ ยังชัดเจนว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มคนที่มีศักยภาพ รู้วิธีที่จะไม่ทิ้งร่องรอยผ่านปืนที่ใช้สังหาร

ปริศนาการสังหารยกครัวครั้งนี้ทำให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชากการตำรวจแห่งชาติ ตัดสินใจเดินทางลงพื้นที่ด้วยตัวเองเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา โดยยอมรับว่า จากข้อมูลเบื้องต้น กลุ่มผู้ก่อเหตุวางแผนมาเป็นอย่างดี และหากปมสังหารมาจากความแค้นก็ต้องเป็นความแค้นที่รุนแรงมาก

ส่วนความหนักใจในการคลี่คลายคดี พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยอมรับว่า ค่อนข้างกังวล เพราะนอกจากจะประวัติผู้ใหญ่บ้านรายนี้จะมีหลายเงื่อนปมที่อาจนำไปสู่การถูกสังหารได้ ผู้เสียชีวิตทั้งหมดยังเป็นชาวมุสลิม ที่ตำรวจต้องเร่งชันสูตรพลิกศพ เพื่อส่งคืนให้ญาตินำไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา  ส่วนจะมีข้าราชการเข้าไปเกี่ยวข้องกับการสังหารโหดครั้งนี้หรือไม่ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ยังไม่ยืนยัน โดยเบื้องต้นได้สั่งคุ้มครองพยานผู้รอดชีวิตไว้แล้ว

สำหรับประวัติของนายวรยุทธ ผู้ใหญ่บ้านที่ตกเป็นเป้าหมายครั้งนี้ ทีมข่าว PPTV ตรวจสอบพบว่า เข้าดำรงตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านอย่างเป็นทางการไม่ถึง 5 ปี โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 28 พ.ย.2555 ผู้ใกล้ชิดที่เคยร่วมงานด้วย เปิดเผยว่า นายวรยุทธมีนิสัยตรงไปตรงมา และพูดจาโพงพาง แถมยังเคยมีประวัติขัดแย้งกับผู้คนอีกจำนวนมาก และเป็นความขัดแย้งที่ล้วนมีน้ำหนักเป็นไปได้ว่าจะบานปลายเป็นปมสังหารได้ทิ้งสิ้น

สอดคล้องกับข้อมูลของแหล่งข่าวในตำรวจภูธรภาค 8 ที่ตั้งปมสังหารโหดยกครัวครั้งนี้ไว้ทิ้งสิ้น 5 ประเด็น ประกอบด้วย

1.ความขัดแย้งจากการเป็นแกนนำต่อต้านบุกรุกที่สาธารณะ เรื่องนี้นอกจากนายวรยุทธเป็นคู่กรณีกับผู้บุกรุกยังพบว่า นายวรยุทธยังยื่นเรื่องร้องเรียนป.ป.ช.จังหวัดให้ตรวจสอบนายกอบต.อ่าวลึก และปลัดอบต.อ่าวลึก ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ปล่อยให้มีการรุกที่สาธารณะ ปมนี้ตำรวจยังไม่ตัดทิ้ง

2.ความขัดแย้งในการต่อต้านและสนับสนุนก่อสร้างโรงโม่หินในพื้นที่  เรื่องนี้พบนายวรยุทธเดิมทีมีจุดยืนคัดค้าน แต่จุดยืนนี้ได้เปลี่ยนไปเป็นสนับสนุนหลังรับตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน ประเด็นนี้เช่นกันตำรวจไม่ตัดทิ้ง แต่ไม่ได้ให้น้ำหนักมาก เพราะพบว่า เป็นความขัดแย้งที่เกิดขึ้นนานมาระยะหนึ่งแล้ว และมีช่วงที่มีความรุนแรงมากกว่าปัจจุบัน แต่ก็ไม่ถึงขั้นที่เล่นงานกันถึงชีวิต

3.ความขัดแย้งกับผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านกลาง ที่มีเป็นคดีความฟ้องร้องกันอยู่ในขณะนี้

4.ความขัดแย้งจากปมชู้สาว ตำรวจพบข้อมูลว่า นายวรยุทธมีภรรยาอีกคนหนึ่งอยู่ที่จังหวัดสิงห์บุรี

และ 5. ความขัดแย้งจากปมธุรกิจมืด ตำรวจไม่ระบุว่า เป็นธุรกิจอะไร แต่ตามข้อมูลที่ทีมข่าว PPTV ได้รับ ตำรวจค่อนข้างสนใจและให้น้ำหนัก เพราะเชื่อว่าอาจมีความเชื่อโยงกับรถโตโยต้ายาริส ที่กลุ่มผู้ก่อเหตุนำไปจากบ้านของนายวรยุทธด้วย โดยตั้งข้อสังเกตว่า ไม่ได้เป็นรถที่มีราคามากที่สุดภายในบ้านของนายวรยุทธ แต่เหตุใดกลุ่มผู้ก่อเหตุตัดสินใจนำไปด้วย

ล่าสุด รัฐบาลรับทราบเรื่องนี้แล้ว โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี สั่งการให้เร่งคลี่คลายคดี หากพบว่ามีกำลังพลเข้าไปเกี่ยวข้อง ก็ขอให้ตำรวจดำเนินคดีถึงที่สุด

สำหรับแนวทางการคลี่คลายคดีหลังจากนี้ ตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบกล้องวงจรปิด และรอข้อมูลจากผู้บาดเจ็บที่รอดชีวิต ซึ่งเวลานี้อยู่ในการคุ้มครองพยานเรียบร้อย

อัลบั้มภาพ 13 ภาพ

อัลบั้มภาพ 13 ภาพ ของ “พลิกปม” กลุ่มชายชุดลายพราง บุกฆ่ายกครัวผู้ใหญ่บ้าน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook