กทม.ล้างบ้านเลี้ยงนกพิราบ เจอแมลงสาบไต่ยั้วเยี้ย
กทม.ทำความสะอาดบ้านลุงเลี้ยงนกพิราบ เจอแมลงสาบไต่ยั้วเยี้ย เพื่อนบ้านฉีดยาไล่กันเข้าบ้าน ด้านลุงเลี้ยงนกพิราบยันเลี้ยงต่อ เหตุสงสารและฝังใจในวัยเด็ก
วันนี้ (13 ก.ค.) เวลา 09.40 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร เขตห้วยขวาง เข้าพูดคุยกับ นายวีระศักดิ์ สุนทรจามร ชายเก็บของเก่าที่เลี้ยงนกพิราบเป็นจำนวนมาก เพื่อขอเข้าทำความสะอาดพื้นที่รอบบ้าน บริเวณซอยอุดมสุข หลังมีชาวบ้านร้องเรียนเรื่องกลิ่นเหม็น และความสะอาด หลังเจรจาเสร็จเจ้าหน้าที่ กรุงเทพมหานคร มากกว่า 20 คน ระดมกำลังพร้อมรถเก็บขยะ 1 คัน เข้าทำความสะอาด เก็บขยะ สิ่งของเครื่องใช้ที่ไม่สามารถใช้งานได้ออกจากบ้าน
นายวีระศักดิ์ กล่าวว่า ยินยอมให้เจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานครเข้าทำความสะอาดบ้านและจัดระเบียบเฉพาะบริเวณหน้าบ้านส่วนภายในตัวบ้านไม่อนุญาต และหลังจากนี้ตนก็ยืนยันที่จะเลี้ยงนกพิราบต่อไป เนื่องจากมีความฝังใจในวัยเด็กที่เห็นนกพิราบถูกเหล็กทับและเสียชีวิตจึงสงสาร ปัจจุบันตนเลี้ยงนกพิราบเป็นพันตัว นอกจากนกพิราบยังเลี้ยงแมวด้วย
นายวีระศักดิ์ กล่าวต่อว่า แม้ตนจะเลี้ยงนกพิราบเป็นจำนวนมากแต่ก็ไม่เคยป่วยเป็นโรคอะไร นอกจากเป็นไข้หวัด และจากนี้ถ้ามีนกมากก็ยังคงจะให้อาหารต่อไป และยังคงเลี้ยงดูนกพิราบต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ช่วยกันทำความสะอาด โดยมี นายวีระศักดิ์ เจ้าของบ้านที่เลี้ยงนกพิราบเป็นจำนวนมากช่วยเก็บของและทำความสะอาดบริเวณรอบบ้าน ซึ่งพบว่า มีแมลงสาบวิ่งและไต่ยั้วเยี้ยออกมาจากที่ซ่อนเป็นจำนวนมาก ขณะที่เพื่อนบ้านได้นำยาฉีดไล่แมลงสาบมาฉีดบริเวณรอบบ้านของตนเองเพื่อป้องกันแมลงสาบวิ่งเข้าบ้าน
สำหรับการเลี้ยงนกพิราบในบ้านของนายวีระศักดิ์ เคยถูกเพื่อนบ้านฟ้องร้องเมื่อปี 2545 โดยยอมเสียค่าปรับ 1,000 บาท และครั้งนี้ก็ถูกฟ้องร้องอีกและก็ยอมเสียค่าปรับเช่นเดิม แต่เรื่องไม่จบจนนำมาสู่การที่เจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานครเข้าจัดระเบียบและทำความสะอาดในครั้งนี้
ทั้งนี้ ข้อมูลจากสำนักควบคุม ป้องกันและบำบัดโรคสัตว์ กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระบุว่า หากอยู่ใกล้ชิดนกพิราบอาจได้รับเชื้อโรคคลามัยดิโอซีสหรือโรคไข้นกแก้วซึ่งเกิดจากเชื้อ Chalamydia psittaci หรือปัจจุบันเรียกเป็น Chlamydophila psittaci เป็นโรคที่ติดต่อได้ระหว่างนกด้วยกัน และทำให้เกิดโรคได้ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหลายชนิด รวมถึงแมวและคนด้วย
อีกโรคหนึ่งที่พบได้และทำให้คนเสียชีวิตมาแล้วหลายราย คือ โรคสมองอักเสบจากเชื้อรา คริปโตคอคคัส (Cryptococcal meningitis) หรือ Cryptococcosis ซึ่งเกิดจากเชื้อ คริปโตคอคคัส นีโฟอร์มาน (Cryptococcal neoformans) เป็นเชื้อราชนิดหนึ่ง เจริญเติบโตได้ง่ายและพบในอุจจาระของนกพิราบ
โรคนี้ติดต่อได้ในสัตว์ เช่น แมว สุนัข ปศุสัตว์ รวมถึงคน แต่การติดต่อระหว่างคนสู่คนเกิดขึ้นได้ยากมากอาจมีอาการป่วยอย่างเฉียบพลัน หรืออาจเป็นแบบเรื้อรัง ลักษณะอาการ คือ ผิวหนังเป็นตุ่ม หนอง ผื่น แพ้ คัน อาจแสดงอาการสมองอักเสบ อาการอื่นๆ เช่น ตาอักเสบ โพรง จมูกอักเสบ ข้ออักเสบ เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีรายงานการพบเชื้อไข้หวัดนก (H5N1) ในนกพิราบที่ตกลงมาตาย
ส่วนโรคอื่นๆ ที่เกิดจากนกพิราบ แม้จะพบแต่น้อยมากและพบในต่างประเทศ เช่น ปอดอักเสบ Q fever ท้องเสีย อาการแพ้หรือเครียด เนื่องจากหมัดจากนกพิราบ โดยคนที่มีความเสี่ยงในการเกิดโรคดังกล่าว คือ บุคคลที่มีอาชีพเกี่ยวข้อง และใกล้ชิดกับนกพิราบ ซึ่งมีโอกาสสัมผัสโดยตรงกับแหล่งอาศัยและมูลอุจจาระได้ง่าย รวมทั้งผู้ที่มีความบกพร่องทางภูมิคุ้มกันโรค โดยในเด็กและคนชราอาจมีความเสี่ยงต่อการติดโรคมากกว่า คนปกติถึง 1,000 เท่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคจากเชื้อราที่พบในมูลขับถ่ายของนกพิราบ
หากต้องสัมผัสหรืออยู่ใกล้ชิดนกพิราบควรมีผ้าปิดจมูก และอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าหลังสัมผัสสัตว์ ทำความสะอาดเก็บกวาดมูลนกอย่าให้หมักหมมเพราะจะเป็นแหล่งเพาะเชื้อรา
ทั้งนี้ นายวีระศักดิ์ เจ้าของบ้านที่ทำอาชีพเก็บของเก่า บริเวณซอยอุดมสุข กินแมลงสาบในระหว่างการให้สัมภาษณ์ พร้อมเล่าว่า สาเหตุที่กินแมลงสาบ เพราะว่าเคยชงกาแฟและวางทิ้งไว้ในบ้าน ปรากฎว่ามีแมลงสาบ 10 กว่าตัวลงไปในแก้วกาแฟ ด้วยความเสียดายกาแฟ เนื่องจากมีฐานะยากจนถึงได้ดื่มกาแฟไปพร้อมกับแมลงสาบ
ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักควบคุมป้องกันและบำบัดโรคสัตว์
อัลบั้มภาพ 8 ภาพ