คาดชาวรัสเซียถูกตัดหัวแขวน ตำรวจระดมแจกรูปหาเบาะแส
ตำรวจกระจายรูปศีรษะชาวต่างชาติ ย่านเกสต์เฮ้าส์ -ซอยนานา หาเบาะแสผู้ตาย แบ่งกำลัง 2 ชุด หาข่าวพยานแวดล้อม เผยถุงผ้าใส่หัวระบุชื่อโรงแรมในอิตาลี เตรียมประสานสถานฑูตตรวจสอบอีกครั้ง ขณะที่เจ้าหน้าที่สถานฑูตรัสเซียติดต่อขอข้อมูล เผยลักษณะโครงหน้า 90 เปอร์เซ็นต์ เหมือนชาวรัสเซีย ส่วนแพทย์รอตรวจสอบหลอดเลือดช่วงลำคออีกครั้ง
วันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ต.ท.ภิญโญ ป้อมสถิตย์ รอง ผกก.สืบสวน บก.น.7 กล่าวถึงกรณีพบศีรษะชายชาวต่างชาติถูกผูกห้อยติดอยู่ที่บริเวณสะพานพระราม 8 แขวงวัดสามพระยา เขตพระนคร เมื่อวานนี้ (22 ก.พ.) ว่า หลังเกิดเหตุได้ให้เจ้าหน้าที่กก.สืบสวน บก.น.7 นำภาพศีรษะของผู้ตายไปสืบหาข้อมูลตามเกสต์เฮ้าส์ ย่านถนนข้าวสาร และซอยนานา แล้วตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา แต่ยังไม่ได้เบาะแสผู้ตายแต่อย่างใด
นอกจากนี้ได้ให้ พ.ต.ท.ธนดล พิพัฒน์สวัสดิ์ สว.สืบสวน บก.น.7 ออกตรวจหากล้องวงจรปิดตามละแวกที่เกิดเหตุ เนื่องจากกล้องวงจรปิดบริเวณสะพานพระราม 8 ไม่สามารถใช้ได้ และให้ พ.ต.ท.พิภบ พัชรลภัส สว.สืบสวน บก.น.7 นำรูปผู้ตายไปแปะไว้ตามบอร์ดในเกสต์เฮ้าส์ ในถนนข้าวสาร และซอยนานา เผื่อมีใครเคยพบเห็นผู้ตาย อย่างไรก็ตามหากมีใครรู้จักหรือเคยพบเห็นผู้ตายก็สามารถแจ้งเข้ามาที่หมายเลข 081-619-3000 / 081-822-1931 / 081-657-7551 ได้ตลอดเวลา
ด้าน พ.ต.ต.วัฒนา ลังกาทรง สว.สส.สน.บวรมงคล กล่าวว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนทุกนายเข้าร่วมทำคดีนี้โดยเฉพาะ โดยแบ่งกำลังออกเป็น 2 ชุดๆแรกให้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณทางขึ้นลงบนสะพานพระราม 8 ซึ่งเป็นของ บก.02 แล้ว แต่เป็นกล้องที่ดูการจราจรเท่านั้น ไม่มีการบันทึกภาพไว้
ส่วนกำลังอีกชุดให้ออกติดตามหาข่าวจากพยานแวดล้อม ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นคนที่มานั่งตกปลาบนสะพานดังกล่าวเป็นประจำทุกคืน แต่ก็ยังไม่มีใครพบเห็นช่วงเวลาเกิดเหตุแต่อย่างใด
พ.ต.ต.วัฒนา กล่าวต่อว่า ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้นำภาพถ่ายศีรษะผู้ตายไปกระจายสอบถามนักท่องเที่ยวตามถนนข้าวสาร และเกสต์เฮ้าส์ในบริเวณดังกล่าว เนื่องจากอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุมาที่สุด แต่ก็ยังไม่มีใครรู้จักพบเห็นผู้ตาย หรือ เข้ามาพักอยู่ในเกสต์เฮ้าส์ละอวกดังกล่าวแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามทาง สน.บวรมงคล ได้ส่งข้อมูลรายละเอียดทั้งหมดไปให้กองปราบปราม ศูนย์สืบสวน สตม. ตำรวจท่องเที่ยว และกองการต่างประเทศ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ประสานกับสถานฑูตต่างๆ อีกครั้ง
นอกจากนี้จากการตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุวานนี้ พบว่าถุงผ้าที่อยู่ศีรษะผู้ตายนั้นมีการสกรีนข้อความตัวอักษรสีเขียวว่า "Camera porta vesovo" ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าเป็นโรงแรมแห่งหนึ่งในประเทศอิตาลี โดยทางเจ้าหน้าที่จะเก็บไว้เป็นข้อมูล แต่ยังไม่ทราบว่าจะเกี่ยวข้องกันหรือไม่
"คดีนี้หากเป็นการคดีฆาตกรรมจริงก็ถือว่า คนร้ายเป็นมืออาชีพ เนื่องจากมีการวางแผนการก่อเหตุมาเป็นอย่างดี และใช้มีดที่มีคมมาก ใช้มีดฟันทีเดียวขาด ก่อนจะนำหัวผู้ตายมาแขวนประจานเพื่อจุดประสงค์บางอย่างด้วย" พ.ต.ต.วัฒนา กล่าว
เมื่อเวลา 12.00 น. วันเดียวกัน พ.ต.อ.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผกก.1 ป. พ.ต.ท.ธีระเดช ธรรมสุธีร์ รองผกก.1 ป. นำกำลังตำรวจกองปราบปราม เข้าตรวจสอบบริเวณด้านบนสะพานพระราม 8 สถานที่พบศีรษะฝรั่งชาวต่างชาติ ผูกกับเชือกที่บริเวณกลางสะพาน โดยหลังจากตรวจสอบที่เกิดเหตุอยู่จนถึงเวลาประมาณ 14.00 น. มีผู้แจ้งว่า พบศพผู้เสียชีวิต ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นร่างของเจ้าของศีรษะ โดยช่วงลำตัวลอยโผล่ขึ้นมาบริเวณกลางแม่น้ำ พ.ต.อ.พรศักดิ์ จึงประสานให้สน.บวรมงคล เจ้าของพื้นที่ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู ลากศพไปยังบริเวณริมตลิ่งแม่น้ำฝั่งธนบุรี โดยเบื้องต้น พบว่า มีแต่ลำตัว ไม่มีศีรษะ ส่วนแขนและขาครบ ในสภาพสวมเสื้อเชิ๊ตแขนยาวสีขาว สวมกางเกงขายาวลายจุด สีดำ และสวมรองเท้าผ้าใบยี่ห้ออดิดาส
ต่อมา พ.ต.อ.สุธีร์ เนรกัณฐี และพ.ต.อ.ชวลิต ประสบศิลป์ รองผบก.น.7 พร้อมเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐาน รุดไปตรวจสอบสภาพศพดังกล่าว โดยภายในศพผู้ตาย ไม่พบหลักฐานว่าเป็นใครจากไหน มีเพียงผ้าเช็ดหน้าสีขาว 1 ผืน และกล่องไม้ขีดไฟตราพญานาค 1 กล่อง
พ.ต.อ.ชวลิต กล่าวว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองปราบปราม มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ และพบศพช่วงลำตัวลอยของศพขึ้นมา อยู่บริเวณจุดเดียวกับที่พบส่วนหัว ตำรวจสันนิษฐานว่า น่าจะเป็นศพเดียวกัน โดยอาจเป็นไปได้ว่า ช่วงที่ศพตกลงไป อาจถูกพัดไปบริเวณอื่นก่อน จากนั้น จึงพัดกลับมายังบริเวณจุดเกิดเหตุ แต่ทั้งนี้ ต้องรอให้แพทย์นิติเวช จากโรงพยาบาลศิริราชมาตรวจสอบอีกครั้งว่า ใช่ส่วนลำตัวของผู้ตายหรือไม่
พ.ต.อ.ชวลิต กล่าวต่อว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้ไปคุยกับแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราชมา ทราบว่า หลังจากตรวจศีรษะของผู้ตายแล้ว แพทย์พบว่า บริเวณผิวหนังด้านนอกช่วงลำคอ ยังไม่สามารถยืนยันได้ชัดเจนว่า เกิดจากของมีคม จึงทำให้ต้องตรวจสอบบริเวณหลอดเลือดช่วงลำคอซึ่งมีอยู่จำนวนมากอีกครั้ง
"จากการตรวจสอบเส้นเลือดต่างๆ แต่ละเส้นพบว่า แต่ละเส้นนั้นขาดไม่เท่ากัน เหมือนขาดออกจากศรีษะด้วยการกระแทก หรือการทิ้งตัวลงมาอย่างแรง จึงอาจเป็นไปได้ว่า ช่วงที่ผู้ตายทิ้งตัวลงมา อาจจะยังมีชีวิตอยู่ แต่ด้วยความแรง ทำให้เชือกที่รัดคออยู่บีบลำคอจนขาด จึงทำให้เลือดกระเด็นไปติดอยู่ที่สะพาน ก่อนจะทำให้ร่างหล่นลงไปในน้ำ"พ.ต.อ.ชวลิตกล่าว
พ.ต.อ.ชวลิต กล่าวต่อว่า ส่วนถุงผ้าที่พบติดอยู่ศรีษะของผู้ตายนั้น อีกด้านเขียนเป็นข้อความภาษาอังกฤษ เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่า เป็นชื่อของโรงแรมในเมืองเจนัว ประเทสอิตาลี แต่ยังไม่ทราบว่า จะมีความเกี่ยวข้องอย่างไรก็ผู้ตาย ซึ่งจะได้ประสานไปยังสถานทูตต่างๆ ให้มาตรวจสอบอีกครั้งว่า ใช่คนของประเทศตัวเองอีกหรือไม่ต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้า ที่สน.บวรมงคล มีเจ้าหน้าที่จากสถานทูตรัสเซียประจำประเทศไทย ได้เดินทางเข้าติดต่อที่โรงพัก เนื่องจากสงสัยว่า ผู้ตายอาจเป็นคนของประเทศรัสเซีย เพราะบริเวณโครงหน้า เบ้าตา และดั้งจมูก ไม่เหมือนชาวยุโรปทั่วๆไป โดยทางเจ้าหน้าที่สถานทูตรัสเซียดังกล่าว มีความเชื่อมั่นถึง 90 เปอร์เซ็นต์ว่า ผู้ตายเป็นคนของประเทศรัสเซีย