นิติเวชชี้ศพฝรั่งไร้หัวตายเพราะแขวนคอ

นิติเวชชี้ศพฝรั่งไร้หัวตายเพราะแขวนคอ

นิติเวชชี้ศพฝรั่งไร้หัวตายเพราะแขวนคอ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณีสยองพบศีรษะชายชาวต่างชาติถูกผูกแขวนทิ้งไว้กลางสะพานพระราม 8 และช่วงลำตัวที่ในแม่น้ำ เมื่อวานนี้ ตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น ด้านจงรักสรุปผลสอบฝรั่งหัวขาด เป็นชาวอิตาลี-ฆ่าตัวตายเอง

ล่าสุด เมื่อวันที่ 24 ก.พ. แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลศิริราช เปิดเผยผลตรวจพิสูจน์พบว่าศีรษะชายชาวต่างชาติที่ถูกแขวนห้อยทิ้งกลางสะพานพระราม 8 เป็นคนเดียวกันกับศพไร้ศีรษะที่พบลอยน้ำอยู่ด้านล่าง โดยสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากการแขวนคอแบบสมบูรณ์ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้ทำการโรยตัวไปเก็บตัวอย่างเลือดที่ติดอยู่บนสะพานพระราม 8 เพื่อนำมาตรวจสอบว่าเป็นของผู้ตายหรือไม่

ด้านพ.ต.อ.บรรลือศักดิ์ ขลิบเงิน ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 7 กล่าวว่า ตำรวจให้น้ำหนักไปที่ประเด็นการฆ่าตัวตายมากกว่าการถูกฆาตกรรม เนื่องจากปมเชือกที่ผูกศีรษะเป็นเงื่อนรูด ไม่ใช่เงื่อนตาย ซึ่งขัดต่อหลักวิธีฆาตกรรมของคนร้าย ทั้งนี้ตำรวจจะเร่งลงพื้นที่ตามแหล่งชุมชนที่มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอาศัยอยู่จำนวนมาก เพื่อตรวจสอบหาเบาะแสว่าผู้ตายเป็นใครมาจากไหน

จงรักสรุปผลสอบฝรั่งหัวขาด เป็นชาวอิตาลี-ฆ่าตัวตายเอง

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 24 ก.พ. พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร. ได้ประชุมพนักงานสืบสวนสอบสวน สน.บวรมงคล บก.น.7 ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ตำรวจท่องเที่ยว เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีพบศรีษะชายชาวต่างชาติแขวนบนสะพานพระราม8

 พล.ต.อ.จงรัก กล่าวว่า จากเหตุที่เกิดขึ้นไม่มีพยานเห็นเหตุการณ์จึงทำให้มีการคาดเดาว่าเป็นการฆ่าตัวตาย หรือฆาตกรรม แต่จากการรวบรวมพยานหลักฐานในขณะนี้จากการยืนยันของแพทย์โรงพยาบาลศิริราช ที่ได้ตรวจพิสูจน์จากส่วนศีรษะและร่างกายของผู้ตายแล้วมีความเห็นว่าเป้นบุคคลเดียวกันและเป็นการฆ่าตัวตายโดยแผลที่คอขาดเป็นขอบไม่เรียบและถลอกโดยรอบแนวบาดแผลรอบคอด้านหลังสูงกว่าด้านหน้า ลักษณะเป็นแนวรอยจากการถูกแขวนคอไม่ได้ถูกตัดคอด้วยของแข็งมีคม เพราะหากถูกของแข็งมีคมแผลจะต้องเป้นขอบเรียบ รวมทั้งตามร่างกายไม่พบบาดแผลถูกทำร้ายอื่น อีกทั้งจากการตรวจสอบการตกกระจายของเลือดบนสะพานพระราม8 พบว่าเป็นเลือดที่พุ่งมาจากหลอดเลือดแดงใหญ่ที่คอ ซึ่งเกิดขาดจากกระดูกสันหลังจากการกระโดสะพานแล้วกระตุกแขวนคอ

พล.ต.อ.จงรัก กล่าวว่า จากหลักฐานทางการแพทย์ที่ปรากฏก็น่าจะเป็นการฆ่าตัวตายไม่ใช่อาชญากรข้ามชาติ เพราะที่ผ่านมาขีดความสามารถของคนร้ายข้ามชาติในเรื่องอาชญากรรมในประเทศไทยยังไม่รุนแรงถึงขนาดนี้ ดังนั้นขออย่าให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกว่าเป็นการฆาตกรรมโหดเหี้ยม

แต่อย่างไรก็ตามหากประชาชนมีข้อมูลเพิ่มเติมว่าเป็นการฆาตกรรมสามารถแจ้งพนักงานสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติมได้ โดยพนักงานสอบสวนจะใช้เวลาสอบพยานหลักฐานภายใน 30วันหากไม่พบหลักฐานอื่นที่บ่งชี้ว่าเป็นการฆาตกรรมก็จะสรุปสำนวนว่าเป็นการฆ่าตัวตายส่งให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครต่อไป

สำหรับความคืบหน้าในการสืบหาตัวผู้ตาย พล.ต.อ.จงรัก กล่าวว่า จากการตรวจสอบเสื้อผ้าผู้ตายพบว่าใช้ยี่ห้อพูม่า ซึ่งผลิตในประเทศอิตาลี รวมทั้งถุงที่ติดอยู่กับศพผู้ตายก็มีข้อความที่แสดงว่านำมาจากโรงแรมในประเทศอิตาลี จึ่งคาดว่าผู้ตายน่าจะเป็นชาวอิตาลี จึงทำการตรวจสอบชาวอิตาลีที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยช่วงนี้พบว่าผู้ที่มีรูปพรรณสัณฐานใกล้เคียงกับผู้ตาย คือนายเกียต้า จิโอวานี(Jaeta Jiovani) ชาวอิตาลี อายุ 49 ปี ที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยเมื่อวันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา และเข้าพักในโรงแรมเล็กซ์โฮเต็ล ย่านสุขุมวิท โดยหายตัวไปในช่วงเวลาที่เกิดเหตุ ซึ่งเพิ่งได้รับข้อมูลส่วนจะเกี่ยวข้องหรือไม่ต้องรอผลการสืบสวนพยานหลักฐานต่อไป

 

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook