จบดราม่ารับน้อง รุ่นพี่ขอโทษสังคมบอกรู้เท่าไม่ถึงการณ์
จากกระแสดราม่าโซเชียล ข้อมูลเฟซบุ๊กแฟนเพจแหม่มโพธิ์ดำ ได้เผยแพร่ภาพกิจกรรมการรับน้องของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในภาคอีสาน ซึ่งภายในภาพจะเห็นว่ารุ่นพี่ให้รุ่นน้องทำกิจกรรมคลานบนดินโคลนในสภาพเสื้อผ้าฉีกขาด ก่อนที่จะให้กินของบางอย่างที่มีสีเหลืองลักษณะคล้ายอุจจาระ
โดยแอดมินเพจแหม่มโพธิ์ดำ ระบุว่า ของกินดังกล่าวคือฟักทองบดผสมปลาร้า ขี้โคลน และเศษผัก ซึ่งอาจมีเชื้อโรคหลายชนิดปะปนอยู่ทั้ง อีโคไล พยาธิใบไม้ในตับ เชื้อซัลโมเนลล่า เชื้อวิบริโอโคเลอรา และเชื้อลิสทีเรีย โมโนไซโตจิเนส จากนั้น รุ่นพี่ที่ปรากฏในภาพได้ติดต่อเข้ามาขอชี้แจงผ่านทางแฟนเพจแหม่มโพธิ์ดำ
ทั้งนี้ หลังจากที่มีภาพกิจกรรมรับน้องดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปในโลกออนไลน์ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคามก็ไม่ได้นิ่งนอนใจหรือเพิกเฉย ได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบผ่านแฟนเพจ RMU ว่า
“ขอชี้แจงกรณีมีการรับน้อง และมีการเผยแพร่จนเป็นข่าว ทั้งบนเฟซบุ๊กแฟนเพจแหม่ม โพธิ์ดำ และสื่อออนไลน์นั้น ซึ่งได้มีการพาดพิงถึงมหาวิทยาลัยฯ นั้น ขณะนี้ผู้บริหารของมหาวิทยาลัยได้รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว และจะดำเนินการสอบสวนหาข้อเท็จจริง พร้อมทั้งประกาศไปทั่วทุกคณะในมหาวิทยาลัย ให้การจัดกิจกรรมรับน้องใดๆ ต้องอยู่ภายใต้ระเบียบ ข้อบังคับ ของมหาวิทยาลัย ถ้ากระทำผิดจริงก็ว่าไปตามระเบียบ
ล่าสุด (17 ก.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ห้องประชุมอาคาร 34 คณะวิทยาการจัดการ มหาลัยราชภัฏมหาสารคาม นายวุฒิพล ฉัตรจรัสกูล รักษาราชการแทนอธิการมหาลัยราชภัฏมหาสารคาม ได้นำตัวแทนรุ่นพี่นักศึกษาคณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ เอกดนตรี และตัวแทนนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ออกมาชี้แจงกรณีดราม่ารุ่นพี่ให้กินอุจาระและใช้ปากเลียหน้าอกเพื่อน
โดยตัวแทนนักศึกษาได้ยอมรับว่าได้จัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้นจริง และภาพที่เห็นว่านำของเหลวลักษณะคล้ายอุจาระใส่ปากให้รุ่นน้องนั้น เป็นเพียงของเลียนแบบที่ทำมาจากฟักทองบด น้ำปลาร้า มะเขือเทศ เศษผัก ผสมรวมกัน ซึ่งแต่ละอย่างไม่ได้เป็นของสกปรกแต่อย่างใด
แต่เมื่อภาพที่ออกมาทำให้ประชาชนที่พบเห็นไม่พอใจและแสดงความเป็นห่วงถึงอันตราย จึงต้องการออกมาขอโทษสังคมและยอมรับผิดทุกอย่างที่เกิดขึ้น และสัญญาว่าจะกำชับรุ่นน้องหรือเพื่อนในคณะให้จัดรับน้องอย่างสร้างสรรค์ในปีถัด ๆ ไป จะเน้นให้นุ่นน้องทำประโยชน์ให้กับชุมชนมากยิ่งขึ้น
ด้าน นายวุฒิพล ฉัตรจรัสกูล รักษาราชการแทนอธิการมหาลัยราชภัฏมหาสารคาม ในส่วนการลงโทษจะใช้เวลา 7 วัน เพื่อพิจารณากำหนดบทลงโทษ ซึ่งทางคณาจารย์ได้สอบถามทางกลุ่มนักศึกษาแล้วว่าจะยอมรับการติดสินหรือไม่ ก็ได้รับคำตอบว่ายอมรับผลทุกกรณี