ไขปมปริศนา!! ฆาตกรฆ่าโหดยกครัว 8 ศพ

จากคดีสะเทือนขวัญคนร้าย 6 คน แต่งชุดลายพรางคล้ายทหารบุกเข้าไปในบ้านผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่งใน จ.กระบี่ แล้วสังหารหมู่สมาชิกในครอบครัวทำให้มีเสียชีวิตถึง 8 ศพ บาดเจ็บ 3 คน

ซึ่งคดีนี้ทาง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ได้ลงพื้นที่เพื่อคลี่คลายคดีฆ่าโหดยกครัวด้วยตัวเอง โดยใช้เวลาเพียง 6 วันก็สามารถจับผู้ต้องสงสัยได้ทั้งหมด และ 1 ในนั้นคือนายซูริก์ฟัต หรือบังฟัต อายุ 41 ปี สารภาพว่าเป็นผู้ลั่นไกปลิดชีพสมาชิกทั้งหมด 11 คน กลายเป็นคดีฆ่าโหดที่มีการฆ่ากันตายมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาก็ว่าได้

ปมปริศนาที่กลายเป็นต้นเหตุของการก่ออาชญากรรมสุดโหดฆ่ายกครัวครั้งนี้คืออะไรกัน?

ย้อนกลับไปดูคำสารภาพของ “บังฟัต” ทูตมรณะ ที่ยอมรับว่าเป็นผู้ลั่นไกสังหารโหดสมาชิกในครอบครัวผู้ใหญบัติทั้งหมด 11 คน เพียงผู้เดียว เพราะเกิดจากความแค้นที่ถูกผู้ใหญ่บัติข่มขู่เอาชีวิตทั้งครอบครัวและมีการท้าทายกันไปมา

“ไม่คืนโฉนดที่ดินให้ มีแต่ลูกปืนแทน” นั่นคือคำพูดของบังฟัตที่อาจก่อเป็นชนวนเหตุปมแค้นให้กับผู้ใหญ่บัติถึงขั้นต้องขู่ฆ่ายกครัวบังฟัต

ซึ่งที่มาของการขู่ฆ่าจากผู้ใหญ่บัติครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมาผู้ใหญ่บัติได้นำโฉนดที่ดินของพ่อตาและญาติรวมทั้งของชาวบ้านไปจำนองกับบังฟัตซึ่งทำธุรกิจรับจำนำรถยนต์และจำนองที่ดิน จากนั้นมีจดหมายจากธนาคารว่าที่ดินทั้งหมดกำลังจะถูกธนาคารยึดทางผู้ใหญ่บัติจึงรวบรวมเงินเพื่อนำไปไถ่ถอนคืนกับบังฟัต

แต่เมื่อบังฟัตได้รับเงินแล้วกลับไม่ยอมคืนที่ดินให้ เพราะเอาที่ดินไปจำนองกับธนาคารแล้ว ทางผู้ใหญ่บัติจึงเดินเรื่องฟ้องร้อง พร้อมทั้งมีการขู่ฆ่าถึงขั้นเอาชีวิตยกครัวกันทั้งสองฝ่าย

จากชนวนเหตุปมแค้นครั้งนี้บังฟัตได้วางแผนลอบสังหารผู้ใหญ่บัติทั้งหมดถึง 3 ครั้ง แต่ไม่สำเร็จ จนกระทั่งล่าสุดเมื่อคืนวันที่ 10 กรกฎาคม 60 ที่ผ่านมาบังฟัตพร้อมพวกได้บุกเข้าบ้านผู้ใหญ่บัติและก่อเหตุสังหารโหดฆ่ายกครัวดังกล่าว

ซึ่งการสังหารโหดครั้งนี้บังฟัตได้วางแผนมาเป็นอย่างดี โดยจ้างวานเพื่อนคนล่ะ 1,000 บาทและให้แต่งตัวลายพลางคล้ายทหารเพื่อพาไปทวงหนี้ที่บ้านหลังหนึ่ง จากนั้นทั้งหมดได้กักตัวคนในบ้านไว้ตั้งแต่เวลาประมาณ 16.00 น.

และเมื่อผู้ใหญ่บัติกลับเข้ามาในบ้านเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. คนร้ายได้บังคับให้ผู้ใหญ่บัติโทรไปยืมเงินเพื่อนสนิทจำนวน 500,000 บาทและให้โอนเข้าบัญชี โดยคนร้ายได้ยึดบัตร ATM ไว้เพื่อเตรียมไปกดเงิน จากนั้นได้บังคับให้ผู้ใหญ่บัติเซ็นเอกสารโอนลอยรถยนต์โตโยต้ายาริสเพื่อให้สอดคล้องกับหลักฐานที่โอนเงิน

ซึ่งแผนการทั้งหมดคนร้ายต้องการสร้างเรื่องว่าผู้ใหญ่บัติเดือดร้อนเรื่องเงิน และเกิดอาการเครียดใช้ปืนยิงตัวเองและครอบครัวเสียชีวิตทั้งหมด

จากนั้นคนร้ายได้ใช้ปืนของผู้ใหญ่บัติยิงหัวสมาชิกทุกในบ้านจนเสียชีวิตไป 8 ศพ อีก 3 คนรอดตายหวุดหวิด จากนั้นทั้งหมดได้ขับรถยาริสออกจากบ้านที่เกิดเหตุไป

คดีนี้ต้องยอมรับว่าคนร้ายมีความอำมหิตเป็นอย่างมากที่กล้ายิงแม้กระทั่งเด็กและที่สำคัญสังหารเหยื่อไปถึง 8 ศพ หากไม่มีผู้รอดชีวิตคดีนี้คงต้องกลายเป็นปริศนาที่ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจยากที่จะตามตัวคนร้ายได้

แต่ถึงแม้ว่าคนร้ายจะสามารถวางแผนการมาเป็นอย่างดีก็ไม่อาจหลบซ่อนความผิดไปได้ ถ้าสังเกตจากหลังฐานในที่เกิดเหตุจะเห็นว่าคนร้ายได้นำรถยาริสไปและนำเมมโมรี่การ์ดจากกล้องวงจรปิดไปด้วยเพื่อทำลายหลักฐาน

นั่นเป็นข้อสงสัยที่ทำให้คดีนี้กระจ่างขึ้นได้ว่าการตายที่เกิดขึ้นทั้งหมดไม่ได้มาจากการฆ่าตัวตายและสมาชิกจากความเครียด แต่มันเกิดจากการฆาตกรรม ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ได้ว่าโจรย่อมทิ้งร่องรอยไว้ให้ติดตามได้เสมอ