อภิสิทธิ์ ลั่นเสื้อแดงเข้าทำเนียบฯใช้กม.จัดการ
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ลั่นถ้าม็อบเสื้อแดงก้าวเข้าทำเนียบฯเมื่อไหร่ใช้กฎหมายจัดการเด็ดขาด แต่ยังเชื่อผู้ชุมนุมทำตามที่แกนนำประกาศ ยันพร้อมเดินเท้าเข้าทำงาน 25 ก.พ.แต่มีเงื่อนไขม็อบต้องไม่มีอาวุธ
เมื่อเวลา 15.10 น. ที่โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน จังหวัดเพชรบุรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ล่าสุดของกลุ่มผู้ชุมนุมที่ปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลในทุกด้าน ว่า ผู้ชุมนุมได้มาปักหลักที่ทำเนียบรัฐบาลแต่ไม่ได้มีปัญหาหรือเหตุการณ์รุนแรงอะไรทุกอย่างเรียบร้อยดี อีกทั้งตนไม่ได้สั่งการอะไรเป็นพิเศษเพราะทางเจ้าหน้าที่ก็ติดตามเฝ้าระวัง รวมทั้งได้มีการรายงานให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ทราบอยู่เป็นระยะๆ และนายสุเทพก็รายงานให้ตนทราบ ส่วนการประเมินสถานการณ์ว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจะปิดล้อมทำเนียบฯ นานแค่ไหนนั้นคงต้องรอดูสถานการณ์ในคืนวันเดียวกันนี้ก่อน อย่างไรก็ตามตนได้ดูภาพความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมในระหว่างการประชุม ครม.นิดเดียวเพราะต้องการเห็นบรรยากาศเท่านั้นว่าเป็นอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะสามารถเข้าทำงานที่ทำเนียบรัฐบาลในวันที่ 25 ก.พ.ได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงก็คงจะเข้าทำงานตามปกติ เพราะขณะนี้ทุกอย่างยังไม่มีอะไรอยู่นอกเหนือความคาดหมาย เมื่อถามว่าการที่ประกาศจะเข้าทำงานที่ทำเนียบฯ ไม่ห่วงว่าเจ้าหน้าที่จะต้องทำงานหนักขึ้นหรือเพราะต้องดูแลทั้งสถานที่และตัวนายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าไม่มีปัญหาอะไร
เมื่อถามว่าจะซ้ำรอยเหตุการณ์ 7 ตุลาฯ หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวปฏิเสธว่า "ไม่ครับ อย่างไรก็ไม่เหมือน 7 ตุลาฯ แน่นอน เพราะขั้นตอนวิธีการแนวปฏิบัติของรัฐบาลต่างกัน อีกทั้งข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมก็ไม่มีอะไรใหม่เป็นข้อเรียกร้องเดิม ซึ่งในส่วนที่ไม่ใช่เกี่ยวกับการตัดสินใจทางการเมืองเราก็ได้ดำเนินการอย่างชัดเจนทั้งเรื่องคดีความ และการปฏิรูปการเมือง
เมื่อถามว่าคิดว่าสถานการณ์จะยืดเยื้อหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ทราบเพราะเป็นเรื่องของผู้ชุมนุมที่จะเป็นผู้ตัดสินใจ แต่สิ่งที่รัฐบาลดำเนินการอยู่ทั้งหมดอยู่บนพื้นฐานของความถูกต้อง ความเห็นสามารถมีความแตกต่างกัน และสามารถแสดงออกได้แต่อย่าให้เกินเลยขอบเขตของกฎหมาย เพราะรัฐบาลมีหน้าที่รักษากฎหมาย อีกทั้งอยากขอให้ช่วยกันรักษาบรรยากาศของบ้านเมืองเพราะทุกคนทราบดีว่าการจัดการประชุมอาเซียนซัมมิทมีความสำคัญที่เป็นหน้าที่ของประเทศไทยในฐานะเป็นประธานอาเซียน ซึ่งตนเชื่อว่าถ้าเรารักษาบรรยากาศบ้านเมืองได้ดีการแก้ปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจก็จะทำได้ง่าย ถ้าบรรยากาศเสียทุกอย่างก็จะแก้ไขยากไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามที่จะแก้ไข ดังนั้นทุกคนต้องคิดถึงอนาคตของบ้านเมืองด้วย
ต่อข้อถามว่าถ้าสถานการณ์การชุมนุมยืดเยื้อจะมีโอกาสทำให้เกิดความรุนแรงหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็จะให้ทุกคนใช้ความระมัดระวัง เพราะทราบดีว่าเวลาที่คนจำนวนมากมาอยู่รวมกันและอยู่ต่อเนื่องก็จะมีความเครียดเกิดขึ้นได้ ก็พยายามที่จะให้ดูแลและระมัดระวังกันมากขึ้น แต่ยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่ไปเติมเชื้อให้เกิดความขัดแย้งที่รุนแรง และขอยืนยันว่ายังมีความต้องการที่จะเห็นคนไทยทุกคนช่วยกันรักษาบรรยากาศของบ้านเมือง และตนเชื่อว่าจะไม่ส่งผลอะไรต่อการจัดการประชุมอาเซียนที่จะมีขึ้น ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามสิ่งที่เป็นอยู่ในขณะนี้ก็ไม่มีปัญหาอะไร
" การชุมนุมทางการเมืองที่เป็นการแสดงออกตามวิถีทางประชาธิปไตยนั้นสามารถทำได้ ผมเชื่อว่าผู้นำประเทศอาเซียนที่จะเดินทางมาร่วมประชุมเข้าใจดีถึงความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้น สังคมประชาธิปไตยก็เป็นแบบนี้ " นายกรัฐมนตรี กล่าว
เมื่อถามว่าถ้าการชุมนุมยืดเยื้อจำเป็นต้องหาทำเนียบฯสำรองไว้หรือ ไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่จำเป็นเพราะถึงขณะนี้ก็ไม่มีความคิดในเรื่องที่จะไปทำงานที่อื่น ต่อข้อถามว่าถ้าเกิดสถานการณ์อย่างใดอย่างหนึ่งขึ้นมาจริงคิดว่าวีไอพีดอนเมืองจะเหมาะสมที่จะใช้เป็นสถานที่ทำงานของรัฐบาลอีกครั้งหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า "ยังไม่ได้คิดเลยครับ" เมื่อถามว่าทำไมถึงมั่นใจว่าจะเข้าทำงานที่ทำเนียบฯได้และหากผู้ชุมนุมปิดทุกประตูจะเข้าทำงานอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า "ก็เปิดประตู และที่มั่นใจก็เพราะทางกลุ่มผู้ชุมนุมเขาบอกเองว่าจะไม่ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ และหากมีคนของเขาทำจริงแกนนำก็ต้องดูแลเพราะประกาศแล้วก็ต้องรับผิดชอบ"
ต่อข้อถามว่าจะให้ทหารเป็นคนเปิดทางใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวปฏิเสธว่า "ไม่หรอกครับ อย่างไรก็ตามก็ตั้งใจว่าจะเข้าไปทำงานที่ทำเนียบฯ คงจะสามารถตอบได้มากกว่านี้เพราะเห็นของจริง" เมื่อถามว่ายังคงยืนยันที่จะเดินเท้าเข้าไปทำงานที่ทำเนียบอย่างนั้นหรือ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถ้าผู้ชุมนุมอยู่ในความสงบไม่มีอาวุธก็ไม่มีปัญหา เมื่อถามย้ำว่าถ้าถึงขนาดต้องเดินเท้าเข้าทำเนียบจะเสี่ยงทำหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า "ผมเดินได้ครับ แต่ว่าผู้ชุมนุมต้องไม่มีอาวุธ ต้องไม่เหมือนหน้าสภาเมื่อวันที่ 15 ธ.ค.และต้องไม่มีการขว้างปา อีกทั้งแกนนำผู้ชุมนุมยืนยันว่าจะไม่ขัดขวางถ้ามีอะไรเกิดขึ้นก็ต้องรับผิดชอบ และที่ผมพูดเช่นนี้ก็ไม่ได้เป็นการท้าทาย ผมอยู่ที่ทำงานของผม"
เมื่อถามอีกว่าถึงขณะนี้นายกฯ ยังมีความคิดที่จะเดินเท้าเข้าทำงานที่ทำเนียบฯ อย่างนั้นหรือ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เวลานี้เข้าใจว่ายังไม่มีความจำเป็นต้องทำเช่นนั้น ส่วนที่กลุ่มผู้ชุมนุมบุกเข้ามาประชิดรั้วทำเนียบฯ แล้วนั้นเมื่อวันที่ 23 ก.พ.กลุ่มเกษตรกรฯเองก็ชุมนุมที่ทำเนียบฯเช่นกัน วันนี้กลุ่มเสื้อแดงอยู่แค่หน้าประตูทำเนียบก็ยังถือว่าไม่ผิด สำหรับตัวเลขล่าสุดของกลุ่มผู้ชุมนุมอยู่ที่หลักหมื่น แต่ตัวเลขก็จะเปลี่ยนแปลงไปตามช่วงเวลา ช่วงบ่ายๆก็อาจจะน้อยลง พอถึงช่วงเย็นก็จะมามากขึ้น ส่วนช่วงเวลากลางคืนที่หลายฝ่ายเป็นห่วงสถานการณ์นั้นทางเจ้าหน้าที่คงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
เมื่อถามว่าถ้ากลุ่มผู้ชุมนุมก้าวเข้ามาในทำเนียบฯ รัฐบาลจะดำเนินการอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เขาประกาศว่าเขาไม่ทำแต่ถ้าเขาทำก็แสดงว่าทำผิดกฎหมาย ซึ่งเราก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายตามขั้นตอน แต่วันนี้ทางกลุ่มผู้ชุมนุมยืนยันว่าไม่ทำ เมื่อถามว่ายืนยันว่าจะไม่มีการสลายการชุมนุมใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้การชุมนุมอยู่ในขอบเขตก็ไม่มีความจำเป็นอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่าการชุมนุมเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงจะเป็นการสร้างเงื่อนไขต่อการประชุมอาเซียนซัมมิทหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลไม่มีนโยบายที่จะใช้ความรุนแรง แต่รัฐบาลก็จำเป็นต้องรักษากฎหมาย เพราะฉะนั้นถ้าจะมีมาตรการอะไรที่จะรักษากฎหมายก็จะมีการดำเนินการตามขั้นตอนตามมาตรฐานสากล ตั้งแต่การเจรจาบอกกล่าว เตือนในกรณีที่จำเป็นจริงๆถ้ามีการกระทำผิดกฎหมาย ซึ่งตอนนี้กลุ่มผู้ชุมนุมก็มีการเคลื่อนไหวมาที่ทำเนียบฯ ซึ่งถือเป็นการใช้สิทธิโดยสงบก็ไม่มีปัญหาอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่าตั้งข้อสังเกตหรือไม่ว่าก่อนหน้านี้ศาลได้อนุมัติปล่อยตัวแกนนำนปช.ที่เคยบุกบ้านประธานองคมนตรี แต่มีเงื่อนไขว่าห้ามเคลื่อนไหวทางการเมือง แต่ทำไมวันนี้มีการออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองโดยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ดำเนินการ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อยากให้ทุกฝ่ายต้องเคารพกฎหมายและศาล ถ้ามีกรณีใดที่ต้องดำเนินการทางเจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินการ