ย้อนรอยเณรคำ จากสูงสุดคืนสู่สามัญ
กลายเป็นข่าวครึกโครมที่สังคมไทยกำลังให้ความสนใจอยู่ในขณะนี้ หลังจากที่นายวิรพล สุขผล หรือ"หลวงปู่ เณรคำ" ถูกศาลแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา มีคำสั่งให้ส่งตัวกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย โดยจะถึงเมืองไทยวันนี้(19 ก.ค. 60)เวลาประมาณ 22.00 น. หลังจากหนีคดีไปอยู่ประเทศสหรัฐอเมริกากว่า 4 ปี
ซึ่งคดีนี้ถือว่าสั่นสะเทือนวงการสงฆ์เป็นอย่างมาก เนื่องจากว่าอดีตพระรูปนี้ได้หากินกับความเชื่อความศรัทธาของชาวพุทธจนมีคนหลงเชื่อบริจาคเงินจำนวนมากนับพันล้านบาท และที่สำคัญยังพยายามติดสินบนด้วยการบริจาคเงินและรถหรูให้กับพระผู้ใหญ่เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือของตนเอง จนทำให้หลวงปู่เณรคำได้รับการยกย่องและมีผู้นับถือศรัทธาเป็นจำนวนมาก
แต่มาวันนี้จากสูงสุดคืนสู่สามัญหลวงปู่เณรคำถูกกระชากหน้ากากและถูกดำเนินคดีถึง 8 ข้อหา ทั้งฟอกเงิน ,ยาเสพติด,พรากผู้เยาว์ และอวดอุตริอภินิหาร จนนำไปสู่การจับกุม
ซึ่งก่อนที่หลวงปู่เณรคำจะมายืนอยู่จุดสูงสุดนี้ได้ต้องผ่านอะไรมาบ้าง ตามไปย้อนดูเส้นทางอวดอุตริอภินิหาร ก่อนโกยรายได้นับพันล้านบาท
หลวงปู่เณรคำ เดิมชื่อ นายวิรพล สุขผล พอบวชเป็นพระภิกษุชื่อพระวิรพล ฉัตติโก เคยเป็นประธานสงฆ์สำนักสงฆ์วัดป่าขันติธรรม ซึ่งก่อนที่จะมีชื่อเสียงได้มีการสร้างภาพและตกแต่งประวัติให้ดูน่านับถือ
โดยสร้างภาพว่าเป็นคนชอบฝักใฝ่ธรรมมะมาตั้งแต่เด็กชอบปฏิบัติธรรม และเมื่ออายุได้ 15 ปีก็ได้ออกบวชเป็นสามเณร เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2537 ที่วัดภูเขาแก้ว อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี จากนั้นมีการเล่าขานกันว่า “เมื่อหลวงปู่เณรคำไปจาริกธุดงค์อยู่ที่จังหวัดกาฬสินธุ์ พุทธศาสนิกชนพากันไปกราบคารวะนมัสการและได้มองเห็นองค์หลวงปู่
ซึ่งท่านนั่งบำเพ็ญภาวนาอยู่ในกลดบาง ๆ เป็นพระแก่ชรา แต่พอท่านเปิดกลดออกมาก็กลายเป็นเณรน้อยออกไปบิณฑบาต ขากลับจากบิณฑบาต พุทธศาสนิกชนบางคน ได้มองเห็นองค์หลวงปู่ท่านเป็นพระแก่ชรา อายุราว 80 ถึง 90 ปี ผมหงอก หลังค่อม เหี่ยวย่น หนังยาน
บางคนฝันเห็นพระเดชพระคุณท่าน หลวงปู่เณรคำ ไปยืนอยู่บนหัวเตียงเดี๋ยวเป็นเณรน้อยอายุน้อย ๆ เดี๋ยวก็กลายเป็นพระที่แก่ชรามาก ตั้งแต่นั้นมาก็เริ่มมีคนเรียก ตามสิ่งที่เขาเห็น “หลวงปู่” หรือ “หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก” กลายเป็นที่มาของชื่อหลงปู่เณรคำ
หลังจากนั้นก็มีการโปรโมทชื่อเสียงเพื่อสร้างความศรัทธาให้กับหลวงปู่เณรคำออกมาเป็นระยะในทำนองว่าเป็นพระที่หลุดพ้นจากกิเลสมีอภินิหารมากมาย เมื่อยามที่ถูกเชิญไปเทศน์มักจะพูดอวดอ้างว่าตัวเองสาสามารถระลึกชาติได้อยู่เสมอ
ส่วนเรื่องที่สร้างชื่อเสียงและความศรัทธาให้กับหลวงปู่เณรคำจนโด่งดังคือการออกหนังสือเกี่ยวกับประวัติและประสบการณ์ปาฏิหาริย์ของตัวเองชื่อ “ชาติหน้าไม่ขอมาเกิด” ทำให้ประชาชนชาวพุทธเกิดความศรัทธาเลื่อมใสไปทั่วสารทิศจึงกลายเป็นที่มาของการเชิญชวนบริจาคเงินเพื่อเข้าวัดที่หลวงปู่เณรคำเป็นประธานมาก
โดยที่สร้างฮือฮาที่สุดเห็นจะเป็นการทอดถวายมหากฐินทานยักษ์ใหญ่ที่สุดในโลก 27 ต้นรวมเป็นเงินกว่า 57 ล้านบาท พร้อมทองคำ 11 กก. ที่วัดป่าขันติธรรม นอกจากนี้หลวงปู่เณรคำยังเชิญชวนญาติโยมช่วยกันบริจาคเงินเพื่อสร้างองค์ พระแก้วมรกตจำลอง หน้าตักกว้าง 15 เมตร สูง 18 เมตร เพื่อสืบทอดอายุพระศาสนาให้ครบ 5,000 ปี โดยต้องใช้ทองคำน้ำหนักกว่า 8,000 กิโลกรัม
ดูเหมือนว่าเรื่องราวกำลังจะไปได้สวยแต่แล้ววิมาอันสวยหรูของหลวงปู่เณรคำก็ต้องพังทลายลง หลังจากมีการแชร์ภาพพระภิกษุรูปหนึ่งใช้ชีวิตอย่างหรูหราและแต่งตัวด้วยสิ่งของราคาแพง เช่น นั่งเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว ถือกระเป๋าหลุยส์วิตองและใส่แว่นเรย์แบรนด์ จนมีกระแสสังคมให้มีการตรวจสอบว่าเหมาะสมหรือไม่
ซึ่งต่อมาพระภิกษุที่อยู่ในภาพก็คือหลวงปู่เณรคำนั่นเอง และนั่นจริงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการสาวไส้พระรูปนี้ ตั้งแต่เรื่องอวดอ้างอภินิหาร ยักยอกเงินบริจาคและที่โด่งดังที่สุดคือคดีข่มขืนเด็กหญิงวัย 14 ปีจนตั้งครรภ์นำไปสู่การตรวจดีเอ็นเอและมีผลตรงกันแป๊ะ
หลังจากเกิดเรื่องฉาวทางกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ตรวจสอบเส้นทางการเงินของหลวงปู่เณรคำในระหว่างปี 2552-2554 พบว่ามีการใช้เงินมากกว่า 95 ล้านบาทซื้อรถเบนซ์ถึง 22 คัน และบางส่วนถูกนำไปถวายให้พระชั้นผู้ใหญ่
และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน มีคำสั่งยึดและอายัดทรัพย์สินจำนวน 60 รายการ รวมมูลค่าประมาณ 60 ล้านบาท มีทั้งรถยนต์หรู ที่ดิน และบัญชีเงินฝากซึ่งเคยมีเงินสดหมุนเวียนอยู่ในบัญชีมากกว่า 200 ล้านบาท ภายหลังถูกดำเนินคดีมีการโยกย้ายถ่ายเทจนเงินในบัญชีเหลือเพียง 3แสนบาทเท่านั้น
หลังจากถูกเปิดโปงหลวงปู่เณรคำก็ถูกออกหมายจับถึง 8 คดีและได้หลบหนีไปกบดานที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2556 แต่ก็ยังมีภาพการใช้ชีวิตที่หรูหราเช่นเคย จนกระทั่งเมื่อปี 2559 มีข่าวว่าทางการสหรัฐฯได้เข้าจับกุมตัวเณรคำในฐานะผู้ร้ายหลบหนีเข้าประเทศกับข้อหาฉ้อโกงและพรากผู้เยาว์
และถูกส่งตัวกลับมาดำเนินคดีที่ประเทศไทยวันที่ 19 ก.ค. 60 เพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป ปิดตำนานหลวงปู่เณรคำผู้สร้างอภิหารกลับชาติมาเกิด