ผู้ว่าฯ แปดริ้วนำทีมล่องเรือบางปะกงกลางดึกล่าไอ้เข้
ผู้ว่าฯฉะเชิงเทรา ฟิตนำ 3 ทีมไกรทอง ล่องเรือลำน้ำบางปะกงกลางดึก ล่า"ไอ้เข้"แต่กินแห้ว เตรียมปรับแผนใหม่ สั่งระดมกำลังทั้งท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าของฟาร์มเอ็กซเรย์ในแหล่งน้ำจืดบนบกครอบคลุมพื้นที่ทุกตารางนิ้วริมแม่น้ำบางปะกง ขอเวลา 1 เดือนจัดการเบ็ดเสร็จเห็นผลเป็นรูปธรรม
มื่อเวลา 23.00 น วันที่ 24 กุมภาพันธุ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวีรวิทย์ วิวัฒนวานิช ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา นายประสิทธิ์ ภู่หงษ์ รักษาการประมงจังหวัดฉะเชิงเทรา นายจุมพล ม่วงทอง นายอำเภอบางคล้า นายสัณชาญ สกาญจนชัย ปลัดอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา พร้อมทีมไกรทองทั้ง 3 ทีม ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา แต่งตั้งขึ้น พร้อมอุปกรณ์ลงเรือที่ท่าน้ำภายในบ้านพักผู้ว่าราชการจังหวัดล่องลำน้ำบางปะกงกลางดึก เพื่อติดตามไล่ล่าจระเข้ที่อาศัยอยู่ในแม่น้ำบางปะกงและคูคลองธรรมชาติสาขา หลังมีการพบจระเข้และสามารถจับได้แล้วถึง 3 ตัว
ทั้งนี้เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจแก่ราษฎรที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำบางปะกง ตลอดจนผู้คนที่มีอาชีพเลี้ยงปากท้อง โดยอาศัยลุ่มน้ำบางปะกงซึ่งเป็นเสมือนเส้นเลือดสายใหญ่ที่หล่อเลี้ยงชีวิตผู้คนในจังหวัดฉะเชิงเทรามาช้านาน แต่จากการตรวจสอบทั้งพื้นที่ต้นน้ำและท้ายน้ำ ด้วยการล่องเรือสำรวจในคืนที่ผ่านมาโดยใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ปรากฎว่าไม่พบจระเข้แม้ตัวเดียว และภายหลังการล่องเรือตรวจติดตาม
นายวีรวิทย์ กล่าวว่า คงจะต้องเตรียมปรับปรุงระบบและแผนการทำงานไล่ล่าใหม่ โดยขึ้นบกเน้นในแหล่งน้ำจืดบนพื้นดินโดยเฉพาะพื้นที่ติดแม่น้ำบางปะกง เชื่อว่าจระเช้หนีน้ำเค็มหลบไปอาศัยตาม บ่อกุ้ง บ่อปลา แหล่งกักเก็บน้ำจืดแล้วอาศัยสัตว์น้ำที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้ในบ่อเป็นอาหาร สั่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่ ทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อบต. เจ้าของฟาร์ม อาสาสมัคร อปพร. อส.ตร./ อสม.และเครือข่ายองค์กรต่างๆ ลงพื้นที่เอ็กเรย์ทุกตารางนิ้ว หากพบเห็นให้ดำเนินการจับหรือแจ้งหน่วยงานประมง เข้าไปจัดการหากจำเป็นต้องใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดก็สามารถทำได้
ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวด้วยว่า การลงพื้นที่ของทีมไล่ล่าวันนี้ แม้ไม่พบตัวเพราะจระเข้อาจจะหนีน้ำเค็มในแม่น้ำที่มีความเค็มสูง ไปอาศัยอยู่ในแหล่งน้ำจืดแล้ว แต่ไม่ละความพยายาม ขั้นตอนต่อไปคือต้องขึ้นบนฝั่งโดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอบางคล้า อำเภอบ้านโพธิ์ ซึ่งมีฟาร์มเลี้ยงขนาดใหญ่ และมีพื้นที่คูคลอง บ่อ หรือ สระน้ำที่เก็บน้ำจืดเอาไว้ ต้องเรียกประชุมทุกฝ่ายเพื่อปรับแผนการทำงานใหม่ โดยพิจารณาจากพื้นที่และฟาร์มที่เลี้ยงเป็นด้านหลัก ระยะเวลา 1 เดือนที่จัดทีมไล่ล่าน่าจะมีการประเมินผลว่าจะออกมาในทิศทางใด
"ขณะนี้จากคำบอกเล่าและการประเมินเชื่อว่าส่วนใหญ่จระเข้หลุดออกมาจากฟาร์ม ทั้งตั้งใจและประมาทเลินเล่อหรือเพื่อทำบุญกุศล การออกมาตรวจสอบเพื่อความมั่นใจของประชาชนว่า ทางราชการเป็นห่วงในวิถีชีวิตความเป็นอยู่ ประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านระมัดระวัง และเจ้าของฟาร์มให้เพิ่มมาตรการดูแล ควบคุมฟาร์มเป็นพิเศษ"นายวีรวิทย์ กล่าว
นายวีรวิทย์ กล่าวว่า ส่วนสิ่งที่เกิดขึ้นอาจจะส่งผลกระทบบ้าง แต่ยอมรับว่า จำนวนฟาร์มมีถึง 77 ฟาร์ม ประชากรจระเข้มากเกือบ 1 แสนตัว ย่อมมีความผิดพลาดเกิดขึ้นบ้าง แต่ทุกฝ่ายพยายามช่วยกันแก้ไขปัญหาเชื่อว่า ไม่ส่งผลกระทบความเสียหายแก่จังหวัดฉะเชิงเทรามากนัก และขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน ช่วยกันสอดส่องดูแลเพื่อแก้ไขปัญหานี้ให้ลุล่วงไป