DSIเค้นสอบเณรคำตลอดคืนยอมถอดจีวร จ่อส่งฟ้องศาล

ดีเอสไอ เค้นสอบ อดีตพระเณรคำ ตลอดคืน ยอมถอดจีวรแล้ว คัดค้านการประกันตัว เตรียมส่งอัยการฟ้องศาลวันนี้ ขยายผลบุคคลช่วยเหลือ ยันไม่สามารถ กลับมาบวชเป็นพระได้อีก

กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง ในการควบคุม นายวิรพล สุขผล หรือ อดีตพระเณรคำ ผู้ต้องหาในความผิดฐาน พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปจากบิดา มารดา หรือ ผู้ปกครองเพื่อการอนาจาร ฯ / กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ฯ / อนาจารเด็กฯอายุไม่เกิน 15 ปี / ฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จฯ  ตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ / ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน / และฐานฟอกเงิน ออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ

หลังไม่อุทธรณ์คำสั่งส่งผู้ร้ายข้ามแดนของศาลแคลิฟอร์เนียสหรัฐอเมริกา ซึ่งใช้รถขบวนควบคุมตัวกว่า 14 คัน ในการรักษาความปลอดภัยตลอดเส้นทางอย่างเข้มงวด และเมื่อมาถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษ พบว่า นายวิรพล หรือ อดีตพระเณรคำ ยังอยู่ในสมณเพศสงฆ์ นุ่งห่มจีวรพระภิกษุสงฆ์ มีสีหน้าเรียบเฉยไม่ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน ก่อนที่พนักงานสอบสวนจะควบคุมตัวไปยังห้องประชุม ชั้น 1 เพื่อทำการตรวจร่างกาย ซักประวัติ และสอบปากคำ

ต่อมา พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เปิดเผยว่าตลอดคืนนี้ พนักงานสอบสวนดีเอสไอ จะสอบปากคำ นายวิรพล หรือ อดีตพระเณรคำ ให้แล้วเสร็จ แต่ขั้นตอนแรกสำนักพระพุทธศาสนา จะอ่านคำสั่งของเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ ให้อดีตพระพระเณรคำทราบ ซึ่งอดีตพระเณรคำยินยอมที่จะสละจีวร เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย และพร้อมเข้าสู่กระบวนการสอบสวน โดยอยู่ระหว่างประสานญาติเข้าพบอดีตพระเณรคำ แต่ญาติยังไม่ประสงค์ 

ซึ่งหลังจากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการสอบปากคำของพนักงานสอบสวน ที่ถูกแบ่งออกเป็น 2 ชุด ซึ่งตามขั้นตอนจะมีการตรวจร่างกาย ซักประวัติ ก่อนแจ้งข้อกล่าวหา 2 หมายจับ 6 ข้อกล่าวหา ฐานความผิด กระทำชำเราเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี พรากผู้เยาว์ /และฐานอนาจารเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ซึ่งหมดอายุความไปแล้ว แต่พนักงานสอบสวนต้องแจ้งให้ผู้ต้องหารับทราบ อีกคดีเป็นความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน พ.ร.บ.คอมฯ และฐานฟอกเงิน

โดยพนักงานสอบสวนจะสอบปากคำให้แล้วเสร็จภายในคืนนี้ ก่อนส่งตัว นายวิรพล หรือ อดีตพระเณรคำ ให้อัยการดำเนินการส่งฟ้องศาลในช่วงเช้าวันนี้ แต่ชั้นพนักงานสอบสวนได้ทำการคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากผู้ต้องหามีพฤติการณ์หลบหนี

ส่วนเหตุผลที่ นายวิรพล หรือ อดีตพระเณรคำ ไม่ยื่นอุทธรณ์คดีส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน เนื่องจากต้องการกลับมาประเทศไทย และเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมในการพิสูจน์ความจริง

ส่วนการหลบหนีออกจากประเทศไทย ของอดีตพระเณรคำ ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่ามีผู้ใดให้การช่วยเหลือ หรือ ให้การสนับสนุนในการเดินทางออกนอกประเทศด้วยวิธีการใด ซึ่งจะต้องรอการสอบปากคำให้เสร็จสิ้นก่อน

ส่วนการควบคุมตัว ยืนยันว่า ดีเอสไอได้มีการเตรียมความพร้อมในการดูแลรักษาความปลอดภัย รวมทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิด พร้อมจัดทีมแพทย์ ตำรวจ และ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในการดูแลอย่างใกล้ชิด

ด้าน นายทวีวัฒน์ สุรสิทธิ์ รอง ผู้บัญชาการสำนักคดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ ระบุว่า กรณีกระแสข่าวพบทรัพย์สิน และสำนักสงฆ์ ของอดีตพระเณรคำ ในสหรัฐอเมริกา ขณะนี้ถือว่าหมดความรับผิดชอบในการตรวจสอบของดีเอสไอแล้ว จะต้องรอทางอัยการสูงสุด ตรวจสอบและแจ้งให้ดีเอสไอทราบ เพื่อดำเนินคดีในขั้นตอนต่อไป ซึ่งหากพบว่ามีทรัพย์สินอยู่จริง ก็จะสามารถดำเนินการตรวจยึดอายัดทรัพย์สินดังกล่าวได้

ขณะที่ สำนักพระพุทธศาสนา ยืนยันว่า ที่ผ่านมาที่ อดีตพระเณรคำ ยังไม่อาบัติปาราชิก เนื่องจากได้หลบหนีไปก่อนที่จะมีมติจากเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ จึงถือว่าไม่ความผิดฐานแต่งกายเลียนแบบสงฆ์ แต่หลังจากนี้ถือว่าขาดจากความเป็นพระสงฆ์แล้ว พร้อมยืนยันว่า อดีตพระเณรคำ ไม่สามารถกลับมาบวชใหม่เป็นพระได้อีก

อย่างไรก็ตาม สำหรับคดีนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ดำเนินการออกหมายจับ นายวิรพล หรืออดีตพระเณรคำ ไปตั้งแต่ปี 2556 ก่อนพบว่าหลบหนีไปยังสหรัฐอเมริกา และถูกจับกุมตัวได้เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2559 ต่อมา เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2560 ศาลชั้นต้นรัฐบาลกลางแห่งแคลิฟอร์เนียสหรัฐอเมริกาได้มีคำสั่งให้ส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน และนายวิรพล หรือ อดีตพระเณรคำ ไม่ได้ใช้สิทธิยื่นอุทธรณ์ก่อนครบกำหนดวันที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมา จึงถูกควบคุมตัวกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย