คลายปมศพชาวต่างชาติได้แล้ว

คลายปมศพชาวต่างชาติได้แล้ว

คลายปมศพชาวต่างชาติได้แล้ว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตำรวจสามารถคลี่คลายคดีส่วนศีรษะชายชาวต่างชาติที่สะพานพระราม 8 รวมทั้งศพที่ไร้ส่วนหัว เป็นคนเดียวกัน และเป็นชาวอิตาเลี่ยน ชื่อนายมอริสซิโอ โทซาโดริ อาชีพสถาปนิก ที่พักอาศัยอยู่ห้องอาหารแห่งหนึ่งย่านสามเสน

พล.ต.ต.อดิศร นามจิตสุขศรี ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว นำนางวิมล ใจจง เจ้าของร้านอาหาร CHAI VEGETARIAN RESTAURANT ชาวศรีสะเกษ เข้าพบ พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หลังนางวิมลให้การยืนยันกับตำรวจท่องเที่ยวว่าบุคคลที่พบเป็นศพหัวขาดที่สะพานพระราม 8 คือ นายมอริสซิโอ โทซาโดริ (MR. MAURIZIO TOSADORI ) อายุ 53 ปี ชาวอิตาเลี่ยน อาศัยอยู่ที่ห้องเลขที่ 4 ซึ่งเป็นห้องเก็บของในร้านอาหารของนางวิมล ตั้งอยู่เลขที่ 72 / 2 บ้านธารถม ถนนสามเสนซอย 4 แขวงธารถม เขตพระนคร เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน โดยบอกว่าไม่มีเงินเข้ามาเพื่อหางานทำ จึงให้พักที่ห้องเก็บของโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ซึ่งนายมอริสซิโอ บอกอยู่ได้

ขณะพักอาศัยสังเกตว่ามีอาการเจ็บป่วยบ่อยครั้ง ไอและสูบบุหรี่จัดมวนต่อมวน จ่ายเงินค่าอาหารให้ 1 ครั้ง 2,000 บาท และบอกหากเพื่อนโอนเงินจากประเทศอิตาลีมาให้จะจ่ายส่วนที่ขาดให้ พักหลังตนมีเด็กมาจากต่างจังหวัดจึงขอให้ผู้ตายย้ายออก ผู้ตายบอกจะย้ายในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับวันที่พบส่วนศีรษะ และไม่เห็นผู้ตายตั้งแต่วันเสาร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ และจากการตรวจห้องพัก พบหนังสือเดินทางของผู้ตาย ซึ่งเดินทางมาจากประเทศกัมพูชาเข้าประเทศไทยเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2552 และพบจดหมายแสดงความรู้สึกเสียใจเป็นภาษาอังกฤษ ระบุเขียนที่กรุงเทพฯ ลงวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2552 "ขอบคุณมากสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง ฉันขอโทษสำหรับความไม่สะดวก" และลงลายมือชื่อ

นางวิมล ยืนยันว่าเป็นลายมือของผู้ตาย เขียนเพราะเกรงใจที่ตนให้อยู่ฟรีกินฟรี นอกจากนี้ ยังพบภาพถ่ายผู้ตายใส่แว่น 6 ใบ โดยมีตำหนิเป็นติ่งเนื้อบริเวณขมับซ้าย 1 เม็ด ซึ่งตรงกับส่วนศีรษะศพที่พบ กางเกงชั้นในสีขาวยี่ห้อเดียวกับศพลอยน้ำไม่มีศีรษะ กล่องไม้ขีดไฟตราพญานาค ยี่ห้อเดียวกับที่พบในกระเป๋ากางเกงศพลอยน้ำ ถุงเท้าสีขาว 9 ข้าง ยี่ห้อเดียวกับที่พบที่ศพลอยน้ำ บัตรประจำตัวประชาชน และใบขับขี่ โทรศัพท์มือถือ ยารักษาโรคชนิดต่าง ๆ และเอกสารเตรียมสมัครงาน นามบัตรระบุอาชีพสถาปนิก และเอกสารอื่นอีกหลายรายการ รวมทั้งเสื้อผ้า รองเท้าและอุปกรณ์ใช้เดินป่า

พล.ต.อ.จงรัก ระบุว่า ชัดเจนแล้วว่าผู้ตายคือนายมอริสซิโอ ที่อาศัยอยู่กับนางวิมล ไม่ใช่นายเกียต้า จิโอวานนี่ ตามที่เป็นข่าว นิสัยรักการเดินป่า อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวน จะเก็บสำนวนการสอบสวนไว้ 30 วัน หากไม่พบหลักฐานชี้ว่าเป็นการฆาตกรรม ก็จะสรุปสำนวนว่าเป็นการฆ่าตัวตายตามความเห็นของแพทย์นิติเวช และจากการตรวจสอบการใช้โทรศัพมือถือ พบว่ามีสาวประเภท 2 โทรศัพท์หา และตรวจสอบพบว่าผู้ตายเคยชักชวนไปร่วมหลับนอน ส่วนเชือกที่ใช้ห้อยศีรษะ น่าจะเป็นเชือกที่ใช้ในการเดินป่า แต่ลายมือที่พบบนสะพานฯ นางวิมล บอกไม่ใช่ลายมือของผู้ตาย ซึ่งจะตรวจสอบต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook